นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีผู้แจ้งเบาะแสว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งเปิดรับสมัครและจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ไต้หวัน โดยการอ้างชื่อของบริษัทและภาพถ่ายมาโพสต์ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย เพื่อเชิญชวนให้คนมาสมัครงานนั้น ซึ่งในเรื่องนี้ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยทุกคนที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานก่อน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า จากกรณีดังกล่าวกระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมได้สั่งการให้กรมการจัดหางานลงพื้นที่เข้าตรวจสอบในทันที ซึ่งจากรายงานของกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทราบว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ จำนวน 4 คน ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ย่าน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และอีกบริษัท
ซึ่งตั้งอยู่ย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กรณีมีผู้แจ้งเบาะแสว่าบริษัททั้งสองแห่งเปิดรับสมัครและจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ไต้หวัน จากการตรวจสอบบริษัทแรกมีลักษณะเป็นโรงงานอุตสากรรม ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนไฟฟ้า มีพนักงานเป็นคนไทย ซึ่งบริษัทไม่มีการรับสมัครและจัดส่งคนไปทำงานที่ไต้หวัน กรณีดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความว่าได้นำคนหางานมาสอบสัมภาษณ์และทดสอบความพร้อมทางร่างกายก่อนไปทำงานที่ไต้หวัน โดยการนำชื่อของบริษัทและภาพถ่ายมาโพสต์ เพื่อเชิญชวนให้คนมาสมัครงาน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า ไม่รู้จักกับบุคคลที่โพสและไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทและสถานที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นสถานที่ของบริษัทแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้จะนำเรียนผู้จัดการบริษัทให้ทราบเบื้องต้น และจะดำเนินการกับผู้ที่นำชื่อบริษัทไปแอบอ้างทำให้ได้ความรับความเสียหายตามกฎหมายต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจสอบอีกบริษัท ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านพักอาศัย ขณะเข้าตรวจสอบ พบว่า ประตูรั้วได้มีการล๊อคกุญแจไว้ ซึ่งได้สอบถามบ้านพักอาศัยข้างเคียงที่เปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ได้ให้ข้อมูลว่าบ้านหลังดังกล่าวได้ปิดมาหลายเดือนแล้ว และไม่พบเห็นบุคคลเข้าออกในบริเวณดังกล่าว
กรณีดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊กกระทำการหลอกลวงคนหางาน โดยกรมการจัดหางานได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินในฐานความผิดตาม พรบ.จัดหางานฯ พ.ศ.2528 ตามมาตรา 91 ตรี ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ตาม ปจว.ลงวันที่ 21 ธ.ค. 66 ทั้งนี้ จะได้มีหนังสือถึง บก.ปคม.เพื่อขอความร่วมมือในการเร่งรัดการออกหมายจับกับบุคคลที่ได้หลอกลวงคนหางานดังกล่าวต่อไป
ด้าน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการจัดหางานมีศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ทำหน้าที่ติดตาม เฝ้าระวัง การโฆษณาจัดหางานบนสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเข้มงวด หากพบผู้ใดโฆษณาจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3 -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ผู้ใดที่จัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 บาท - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงานผ่านระบบ e – Service กรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตอบเคลียร์ “พิพัฒน์” แจงกระทู้ถามสด กรณีศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) จะขยายเวลาลงทะเบียน อำนวยความสะดวกไม่ต้องบินกลับประเทศ
วันที่ 26 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตอบกระทู้ถามสด ของ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร
ข่าวดี รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” จัดเต็มของขวัญปีใหม่ปี 68 มอบประกันสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ประกันตน “ตรวจและรักษามะเร็งฟรี SSO Cancer Care”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงาน ได้มอบนโยบายสำคัญให้สำนักงานประกันสังคมดูแลสุขภาพด้านการรักษาที่มีคุณภาพครอบคลุมทุกโรคให้แก่ผู้ประกันตนทุกคนอย่างดี
"พิพัฒน์" กระทรวงแรงงานมอบของขวัญปีใหม่ ให้ลูกจ้างนายจ้าง รวม 7 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
วันที่ 24 ธ.ค.2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานแถลงข่าวของขวัญปีใหม่กระทรวงแรงงาน ปี 2568 โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวรายงาน นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา
ครม. ไฟเขียวขึ้นค่าแรง 400 บาท ประเดิม 4 จังหวัด 1 อำเภอ มีผล 1 ม.ค.68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2568 ตามมติคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22
รมว. พิพัฒน์ มอบ เลขา อารี ลงพื้นที่ จ.ระยอง เปิดอาคาร สปส. สาขาปลวกแดง สร้างความเชื่อมั่น พร้อมยกระดับการให้บริการ
ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
”พิพัฒน์“ เปลี่ยนกระทรวงสู่ยุคAI สร้างทักษะการใช้ AI บริการหางาน พัฒนาฝีมือ แจ้งข้อร้องเรียน รับสิทธิประกันสังคม ให้สะดวก รวดเร็วขึ้น .
วันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในงานการประชาสัมพันธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์และการนำไปใช้สำหรับบุคลากรภาครัฐ (Kick off Artificial Intelligence Literacy for Government officer)