แพทย์แนะตรวจสมรรถภาพปอดใกล้บ้าน คัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจเชิงรุกในช่วงฝุ่น PM 2.5

วันนี้ (27 ธันวาคม 2566) ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic หรือ EACC) นำโดย รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่าย EACC เป็นตัวแทนมอบอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter ในแคมเปญ ’ปอด‘ ปลอดภัย รณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจเช็คสุขภาพปอด เพื่อให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจปลอดภัยจากอาการรุนแรง ท่ามกลางสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยมอบให้กับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวนกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ โดยมีนพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบ

นพ.ภาณุมาศ กล่าวชื่นชมเครือข่าย EACC ซึ่งดำเนินงานมาเกือบ 20 ปี มีเครือข่าย คลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ ว่าสามารถทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการจัดบริการสุขภาพเฉพาะโรคผ่านสหวิชาชีพอย่างเข้มแข็ง พร้อมส่งต่ออุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter เพื่อใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในเชิงรุก ซึ่งเป็นนโยบายหลักของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในทั่วประเทศ

ด้านรศ.นพ.วัชรา กล่าวว่า ปัจจุบันมีการขยายเครือข่าย EACC ในโรงพยาบาลและเครือข่ายกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งได้จัดให้มีบริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่ายตามมาตรฐาน สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะสาขาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็นและสภาพอากาศปิด

“สำหรับอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด Peak Flow Meter ใช้ในการคัดกรองเบื้องต้น ซึ่งจะทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถคัดกรองผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในเชิงรุก จึงอยากเชิญชวนให้ตรวจเช็คสุขภาพปอด เพื่อ ’ปอด‘ปลอดภัย ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อประโยชน์ในเชิงป้องกันความรุนแรงอาการโรคระบบทางเดินหายใจ และยังลดงบประมาณด้านสาธารณสุขประเทศในระยะยาวด้วย” รศ.นพ.วัชรากล่าว

ทั้งนี้แพทย์แนะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคภูมิแพ้ทางจมูก ในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีการแพร่กระจาย และจะฟุ้งมากโดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็นและมีสภาพอากาศปิด ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดการกระตุ้นความรุนแรงอาการของโรคได้.-

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝุ่น PM 2.5 กทม. แนวโน้มลดลง เกินค่ามาตรฐานเหลือ 15 พื้นที่ อยู่ฝั่งธนบุรีเป็นส่วนมาก

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร

นักวิชาการ เตือนคนกรุงฝุ่น PM 2.5 สูงมาก อากาศข้างนอกเย็นสบาย แต่ออกไปอาจป่วยตายได้

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กรุงเทพฯช่วงนี้ อากาศข้างนอกเย็นสบายแต่ออกไปอาจป่วยตายได้..

'แพทองธาร' มั่นใจปัญหาหมอกควัน-ฝุ่น PM 2.5 ปี 68 ไม่รุนแรงเหมือนปีก่อน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม. รับทราบการแก้ปัญหาหมอกควัน และ PM2.5 โดยให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ

นายกฯ เผยหลังจบครม.สัญจรเชียงใหม่ รมต.จะลงพื้นที่หามาตรการแก้ฝุ่น PM 2.5

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ว่า วันนี้เป็นการประชุม

'หมอชูชัย' ชงยุทธศาสตร์แก้ PM2.5 หนุน HIA สร้างความเข้มแข็งชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบ

'หมอชูชัย' ชี้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่สำคัญ เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เสนอยุทธศาสตร์สนับสนุน HIA สร้างความเข้มแข็งอบจ.และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ เรียกร้องภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบพัฒนาอย่างยั่งยืน