วันที่ 17 ธันวาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยากรณีการขาดรายได้ของแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งมีแรงงานไทยจะได้รับสิทธิ จำนวน 15,000 คน ๆ ละ 50,000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 750 ล้านบาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ในเบื้องต้นของแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานถูกต้องตามกฎหมายได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างจริงจังนั้น
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าการดำเนินการภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าวแล้วนั้น ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมได้รับรายงานจากนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ว่าได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดเริ่มดำเนินการรับคำร้องได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ โดยพี่น้องแรงงานที่กลับมาจากอิสราเอลสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาได้ทั้งในส่วนกลางและภูมิลำเนา ในส่วนกลางยื่นได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน ณ กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพฯ และในส่วนภูมิภาคที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลกระทรวงแรงงาน จังหวัด ณ สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด ในวันและเวลาราชการ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 - กันยายน 2567 หรือจนกว่าจะดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาแล้วเสร็จ
ส่วนวิธีดำเนินการ ขั้นตอนการขอรับเงินและเอกสารประกอบการยื่นคำร้องนั้น
ขั้นตอนที่ 1 การยื่นคำร้อง ผู้ยื่นสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา ณ สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดและกระทรวงแรงงาน โดยแยกตามกลุ่มเป้าหมายและเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการยื่นคำร้อง ดังนี้
กลุ่มที่ 1 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และเดินทางกลับประเทศไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งมีอยู่ 9,475 คน จะต้องยื่นคำร้องด้วยตนเอง โดยมีเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องสำหรับการยื่นขอรับเงินเยียวยา ดังนี้ 1) แบบคำร้องขอรับเงินเยียวยา กรณียื่นคำร้องด้วยตนเอง 2) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา 3) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า – ออก ประเทศไทยหรือหนังสือเดินทางชั่วคราว (CI) พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้าประเทศไทย 4) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 5) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำร้องพร้อมถ่ายรูป ณ สถานที่ยื่น และคำร้องสำเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้ยื่นคำร้องรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว
กลุ่มที่ 2 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล จำนวน 39 ราย ผู้ยื่นคำร้อง คือ ทายาทผู้มีสิทธิตามกฎหมาย โดยมีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องสำหรับการยื่นขอรับเงินเยียวยา ดังนี้ 1) แบบคำร้องขอรับเงินเยียวยา กรณีเสียชีวิต 2) สำเนาใบมรณบัตร 3) สำเนาทะเบียนบ้านผู้เสียชีวิต 4) หนังสือรับรองความสัมพันธ์ทางครอบครัว 5) หนังสือให้ความยินยอมเป็นทายาทโดยธรรม 6) สำเนาบัตรประชาชนทายาท 7) สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีคู่สมรส) 8) สำเนาสูติบัตร (กรณีบุตร) 9) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online 10) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารทายาทผู้มีสิทธิ ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำร้องพร้อมถ่ายรูป ณ สถานที่ยื่น และคำร้องสำเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้ยื่นคำร้องรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว และผู้ยื่นคำร้องขอให้เป็นคนเดียวกันกับที่ยื่นคำร้องรับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ
กลุ่มที่ 3 กรณีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้วีซ่า Re-entry อายุไม่เกิน 90 วัน : ระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม - 6 ตุลาคม 2566 แต่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทางด้วยเหตุภัยสงครามในประเทศอิสราเอล จำนวน 960 คน โดยมีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องสำหรับการยื่นขอรับเงินเยียวยา ดังนี้ 1) แบบยื่นคำร้อง กรณี Re-entry Visa 2) บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนา 3) หนังสือเดินทางพร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และตราประทับเข้า - ออก ประเทศไทยไม่เกิน 90 วัน 4) Re-entry Visa อายุไม่เกิน 90 วัน) พร้อมสำเนา 5) แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online และ 6) สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำร้องพร้อมถ่ายรูป ณ สถานที่ยื่น และคำร้องสำเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้ยื่นคำร้องรับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อเรียบร้อยแล้ว
และกลุ่มที่ 4 สำหรับแรงงานไทยกลุ่มที่ยังไม่เดินทางกลับจากอิสราเอล และประสงค์ที่จะเดินทางกลับมาเพิ่มเติม รวมถึงแรงงานไทยที่ยังคงถูกจับเป็นตัวประกัน เมื่อเดินทางกลับมาแล้วก็สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาในส่วนนี้ได้เช่นเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัด/กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบเอกสารของผู้ยื่นคำร้องและพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นคำร้องตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยา
ขั้นตอนที่ 3 สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ รวบรวมเอกสารคำร้องจากสำนักงานแรงงานจังหวัด/กระทรวงแรงงาน
ขั้นตอนที่ 4 กองบริหารการคลังรับคำร้องจากสำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตรวจสอบความถูกต้อง เสนอปลัดกระทรวงแรงงานพิจารณาอนุมัติเบิกจ่าย กองบริหารการคลัง โอนเงินเข้าบัญชี ผู้มีสิทธิ/ทายาท ได้รับเงินเยียวยา
ทั้งนี้ สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน กระทรวงแรงงาน 1506 หรือศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน โทร. 02-2321462-3 หรือ 02-2321471 หรือสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แรงงาน 250 คน แจ้งความถูกหลอกไปทำงานออสเตรเลีย เสียหาย 12 ล้าน
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายณรงค์ชัย พนาจันทร์ อายุ 42 ปี อาชีพค้าขายก๋วยเตี๋ยว พร้อมผู้เสียหายประมาณเกือบ 50 ราย ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย 250 ราย เข้าแจ้งความเอาผิด น.ส.ออย หลังถูกหลอกโอนเงินอ้างจะพาไปทำงานประเทศออสเตรเลีย รวมมูลค่าความเสียหาย 12 ล้านบาท
อิสราเอลไม่หยุด ยังถล่มเป้าหมายกว่า 100 แห่งในฉนวนกาซา
ตามข้อมูลล่าสุดจากหน่วยป้องกันพลเรือนในดินแดนปาเลสไตน์ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 รายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์
ประกันสังคม มอบเงินช่วยเหลือ ผู้รับเหมา ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตเหตุอาคารถล่ม ปราจีนบุรี แล้ว “พิพัฒน์” กำชับดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทายาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ เหตุการณ์อาคารโรงงานถล่มในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ทับคนงานของผู้รับเหมาที่กำลังปฏิบัติงาน เสียชีวิต 5 ราย พร้อมมอบให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ลูกจ้าง นายจ้าง กว่า 20 ล้านบาท
เมื่อเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แต่ละกระทรวงได้เตรียมของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชน เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ข่าวดี ! ผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็นหนึ่งพันบาทต่อบุตรหนึ่งคน มีผลบังคับใช้มกราคม 68
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่าตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมศึกษาการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้กับผู้ประกันตน ด้วยสาเหตุจากประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง