วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมามอบนโยบายส่วนภูมิภาค ประจำปี 2567 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน (พระนครศรีอยุธยา , สระบุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, สิงห์บุรี และชัยนาท) ณ ห้องประชุมเดอะฮอลล์ 2 ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้ พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวพิมพฤดา ตันจรารักษ์ นายนรินทร์ คลังผา นายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา นางสาว
มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นายนพ ชีวานันท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต สส.อยุธยา ร่วมคณะ โดยมีนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ ซึ่งนับเป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่อง จากการที่ได้ออกตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
.
นายชาดา ได้ประชุมหารือวงเล็กกับหัวหน้าส่วนราชการของแต่ละจังหวัด พร้อมกำชับเรื่องของการป้องกัน และปราบปรามปัญหายาเสพติด ก่อนจะพบข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด โดยระบุว่า ปัญหายาเสพติด เราต้องให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ปัจจุบันปัญหานี้มีความรุนแรงมาก เวลานี้ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ที่ต้องช่วย บูรณาการร่วมกันกับทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหา
"ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ต้องให้ความสำคัญกับเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะในยุคโซเชียล ที่อาจได้รับข้อมูลที่ผิด หรือยังไม่ได้รับการกลั่นกรอง เราต้องคอยสอดส่องดูแล อย่ามองว่าเด็กเหล่านี้เกเร ควรดึงให้เด็กกลุ่มนี้มาช่วยงาน ให้เขามีกิจกรรม ส่งเสริมทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ที่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์กับสังคม" นายชาดา กล่าว
โดยได้เน้นย้ำนโยบาย 10 ข้อ ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายไว้ โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เช่น น้ำดื่มสะอาดฟรี เพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาสะอาด น้ำประปาดื่มได้ ที่ตั้งเป้าให้ทั้งการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค อย่างน้อยให้มีจังหวัดละ 1 แห่งในปี 2567 รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันของทุกส่วนราชการ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
วันนี้ ตนมาเพื่อแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ภายใต้การบูรณาการ ระหว่าง "ทีมมหาดไทย" และ "ทีมจังหวัด" โดยยึดหลัก "ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที" ใช้กลไกผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ หรือ ผู้ว่า CEO. คำนึงถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และต้องวัดผลสัมฤทธิ์ได้
"มหาดไทย ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ถ้าเส้นเลือดดี ร่างกายก็จะดีตาม ใช้การได้ดีเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนท้องถิ่น ควรช่วยกัน ทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน" นายชาดา กล่าว
.
จากเดิมที่ตนได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ชีวิตที่เหลือนี้เพื่อคนอุทัย แต่ในปัจจุบันผมได้ปรับเปลี่ยน เป็นชีวิตนี้ เพื่อคนไทย และสถาบันหลักของชาติ ผมได้เชิญชวนให้พวกเรา ได้มีความรักต่อสถาบันหลักของประเทศ ไม่ว่าความเป็นชาติไทย ศาสนาทุกศาสนาที่สอนให้พวกเราเป็นคนดีของสังคม และที่สำคัญคือความรักต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ยึดโยงความรัก และความสามัคคีของคนไทยต่อกันไว้
พร้อมมอบนโยบาย คือ
1.สนับสนุนการปฏิบัติ ให้นโยบายของรัฐบาล และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ต้องเร่งฟื้นฟู โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจฐานราก และขอให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของประชาชน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขจัดปัญหาการทุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมไปถึงส่งเสริมให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล ให้ประชาชนมีความสะดวกสบายในการรับบริการภาครัฐ ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
2.ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ต้องมีให้น้อยที่สุด หรือไม่ให้มีเลย ต้องช่วยกันสอดส่อง มีการจับกุม มีการบำบัดรักษาและช่วยกันดูแลอย่างต่อเนื่อง
3.ปัญหาเรื่องอาวุธปืน ไม่ว่าจะมีทะเบียนหรือไม่มี ต้องตรวจตรา และจับกุมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขอมีอาวุธปืน ต้องมีการตรวจสอบถึงความจำเป็น และการอนุญาตให้พกพา ต้องควบคุมให้เข้มงวดกว่านี้
4.ปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน โดยได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอขึ้น มีหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ ร่วมกับส่วนราชการ โดยขอให้บูรณาการข้อมูลกัน ให้เกิดข้อมูลกลางเพื่อนำไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
5.ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเสาหลัก และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในพื้นที่ เล่นเพลงเดียวกันให้ได้ จะได้เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว
ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า
'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย
“ผู้ประกอบการ ราชบุรี” ชม “อนุทิน” ฟื้นกีฬาวัวลาน ให้แข่งตอนกลางคืน มั่นใจ เป็นงานเฟสติวัลระดับโลก
จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ให้การแข่งขันวัวลานจัดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเปิดการแข่งขันวัวลานที่
กมธ.ที่ดินฯ วืดสอบเขากระโดง องค์ประชุมไม่ครบ
กรรมาธิการ(กมธ.)ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดยนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ. , นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกกมธ
มท.2 คิ๊กออฟปล่อยคาราวานโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 69 จังหวัด
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณอาคารรังวัดและทำแผนที่ กรมที่ดิน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายสมเกียรติ กิจเจริญ คณะทำงานฯ
'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร
'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%