ทสท.รับทำข้อมูลพลาด ปมกล่าวหากัลฟ์ทำค่าไฟแพง

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส - Treerat Sirichantaropas ระบุว่า

วันนี้ผมได้มีโอกาสหารือกับนักวิชาการด้านพลังงานในประเด็นค่าไฟฟ้าที่ผมได้เคยแถลงข่าวออกไป เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ผมพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงหลายส่วน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย และสร้างความเข้าใจผิดกับผู้อื่น เมื่อผมเข้าใจผิดก็อยากมานำเสนอทำความเข้าใจข้อมูลกับพี่น้องประชาชนให้ถูกต้องดังนี้ครับ

เรื่องที่ 1.) ค่าไฟที่เราจ่ายกันนั้น ส่วนประกอบหลัก 70-80% มาจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้ก๊าซจากทั้งหมด 3 แหล่ง ได้แก่ ก๊าซอ่าวไทย ก๊าซเมียนมา และนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)

ในช่วงที่ผ่านมาที่ค่าไฟแพงนั้น เป็นผลมาจากค่าราคาก๊าซ LNG ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นจากสถาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกทั้งก๊าซอ่าวไทยผลิตได้น้อยลงไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ทำให้ต้องนำเข้า LNG ที่มีราคาแพงมาทดแทน ถือเป็นการซวยซ้ำซวยซ้อน อีกเรื่องคือกลไกการซื้อขายก๊าซในประเทศไทย หากทุกท่านได้ลองหาข้อมูลจะทราบว่าในอดีตมีผู้นำเข้าก๊าซมาขายในประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมายมีเพียงรายเดียว ส่งผลให้ไม่เกิดการแข่งขันด้านราคา  ราคาก๊าซจึงอาจถูกกำหนดโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และอาจเกิดการผูกขาดไม่เป็นไปตามกลไกทางตลาด

แม้ในปี 2564 ได้มีหลักการให้เปิดตลาดเสรีให้เอกชนรายต่าง ๆ สามารถนำเข้าก๊าซมาขายในประเทศไทยได้ มองเผิน ๆ อาจเป็นผลดีที่จะเกิดการแข่งขันกันระหว่างเอกชนกันเอง และอาจทำให้ก๊าซที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้ามีราคาถูกลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าปรับลดราคาลงได้อย่างมาก แต่ความเป็นจริงแล้วเอกชนรายอื่น ๆ ที่ต้องการนำเข้าก๊าซก็ต้องทำตามเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแข่งขันทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับผู้นำเข้ารายเดิมได้ จึงเป็นเหตุผลว่าแม้จะเปิดเสรีแล้วก็ไม่สามารถทำให้ต้นทุนประเทศต่ำลงได้ ยังไม่รวมประเด็นท่อส่งก๊าซโรงแยกก๊าซธรรมชาติอีก ผมขอตั้งคำถามถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าถึงเวลาแล้วหรือยังครับที่เราต้องรื้อโครงสร้างในธุรกิจก๊าซเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน

เรื่องที่ 2.) คือ แผนประมาณการค่าซื้อไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ผมได้นำมาประกอบการแถลงข่าวนั้น เป็นเพียงข้อมูลการคาดการณ์อนาคตว่าจะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าใดบ้าง ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผมเข้าใจไปว่าโรงไฟฟ้าบางแห่งไม่มีการจ่ายไฟฟ้าเลย แต่ก็ได้รับค่าความพร้อมจ่าย หรือค่า AP แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรงไฟฟ้าที่ผมได้กล่าวถึงไปนั้น ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าในเครือกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ได้มีการจ่ายไฟเข้าระบบของรัฐทุกเดือน และได้รับเงินอย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปตามแผนประมาณการค่าซื้อไฟฟ้าของ กฟผ. แต่อย่างใด  อีกทั้งข้อมูลดังกล่าวยังไม่เคยได้แก้ไขให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงและก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิด ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลสาธารณะประชาชนสามารถเข้าถึงได้

ผมจึงอยากเสนอให้ กฟผ. ปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้คนอื่น ๆ เข้าใจผิดแบบผมอีก และผมต้องขอโทษ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นทางการ ที่ก่อนหน้านี้ผมได้เคยออกมาแถลงข่าว ทำให้คนเข้าใจผิดว่า กัลฟ์มีโรงไฟฟ้าจำนวนมาก ได้รับเงินค่าความพร้อมจ่ายจากรัฐ โดยไม่ได้ผลิตไฟเลยสักหน่วยซึ่งมันไม่ได้เป็นความจริง แต่เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและขาดการตรวจสอบข้อมูลที่ผมได้รับมาจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับบริษัท

เรื่องที่ 3.) ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกหันมาสนับสนุนการลงทุนในพลังงานสะอาดจำนวนมากเพื่อช่วยลดโลกร้อนและช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้มีการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนที่มีราคาถูกและสอดคล้องกับเทรนด์โลกในราคารับซื้อเพียงแค่ 2 บาทกว่า ๆ ต่อหน่วย ถือว่าจะนำมาช่วยเฉลี่ยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของประเทศให้ต่ำลง  ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นการรับซื้อไฟฟ้าแบบให้เงินสนับสนุนเพิ่มหรือที่เรียก ค่าแอดเดอร์ ยาวนาน 7-10 ปี ในอัตราสูงถึง 6-8 บาท ต่อหน่วย ที่ค่อนข้างแพงรวมเป็นราคารับซื้อสุทธิ 9-12 บาท ต่อหน่วย

ผมมีความเห็นว่ารัฐควรจะยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้าที่มีค่าแอดเดอร์ เนื่องจากถึงแม้จะหมดค่าแอดเดอร์แล้วก็ยังได้รับค่าไฟแพงกว่าการรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนในปัจจุบันซึ่งหลาย ๆ โรงไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากพลังงานสะอาดหรือพลังงานบริสุทธ์ก็น่าจะคุ้มทุนกันไปนานแล้ว อีกทั้งเป็นสัญญาทาสที่ต่ออายุสัญญาได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันหมดอายุสัญญาสร้างภาระให้ประเทศระยะยาว นอกไปจากนี้รัฐควรสนับสนุนให้มีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นในอนาคตเพื่อนำไฟฟ้าสะอาดราคาถูกมาช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โวย 'แพงทั้งแผ่นดิน' ไล่บี้ 'ภูมิธรรม' รีบโชว์ฝีมือ อย่ามัวแต่โฟกัสการเมือง

'ไทยสร้างไทย' จี้ 'รมว.พาณิชย์' หยุดโฟกัสปมการเมือง หันหน้าแก้ปัญหา 'แพงทั้งแผ่นดิน' เร่งคุมราคาสินค้าพุ่งอย่างจริงจัง

เหมือนเป๊ะ! ข้องใจ 'หวยเกษียณ' รัฐบาล กับ 'หวยบำเหน็จ' ไทยสร้างไทย

'เลขาฯ ไทยสร้างไทย' สงสัย 'หวยเกษียณ' เหมือนนโยบายหวยบำเหน็จที่ 'คุณหญิงสุดารัตน์' ใช้หาเสียง ยันไม่ขัดข้องนำไปใช้ แต่ขอหลักการและวิธีคิดถูกต้อง