การซื้อขายหุ้นหรือการเทรดหุ้นคือการซื้อและขายหุ้นของบริษัทที่มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป้าหมายของเทรดเดอร์หุ้นคือการใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ในตลาดระยะสั้นเพื่อขายหุ้นเพื่อหากำไรหรือซื้อหุ้นในราคาต่ำ มีเทรดเดอร์หุ้นหลายประเภท รวมถึงระยะยาว ระยะสั้น เดย์เทรด สวิงเทรดดิ้ง และการซื้อขายความถี่สูง โดยแต่ละประเภทมีขอบเขตเวลาและเป้าหมายที่แตกต่างกัน ด้วยโบรกเกอร์สมัยใหม่จำนวนมาก คุณสามารถขายได้เพียง 1 หุ้นเมื่อใดก็ได้ที่คุณต้องการ และด้วยข้อเสนอการซื้อขายที่ไม่มีค่าคอมมิชชันมากมาย คุณจึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โบรกเกอร์บางรายอนุญาตให้คุณซื้อหุ้นแบบเศษส่วน ดังนั้นคุณจึงสามารถซื้อหุ้นได้น้อยกว่าหนึ่งหุ้น การซื้อขายหุ้นสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่จับจังหวะตลาดได้อย่างถูกต้อง แต่ก็เสี่ยงต่อการขาดทุนครั้งใหญ่เช่นกัน สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ การลงทุนในหุ้นไม่ได้รับประกันว่าคุณจะสร้างรายได้ และนักลงทุนจำนวนมากก็สูญเสียเงินแทน ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องการซื้อขายหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตลาดหุ้นและมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาด
การซื้อขายหุ้นนั้นมีความเสี่ยงต่างๆมากมายที่ผู้ลงทุนควรตระหนัก มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
ความเสี่ยงด้านตลาด
ความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นก็คือมูลค่าของหุ้นนั้นสามารถผันผวนตามสภาวะตลาดได้ หากตลาดประสบภาวะตกต่ำ มูลค่าของหุ้นนั้นก็อาจจะลดลง และนักลงทุนที่ลงทุนไปกับหุ้นนั้นก็สามารถสูญเสียเงินไปได้เลย
ความเสี่ยงทางธุรกิจ
ผลการดำเนินงานของธุรกิจในแต่บริษัทอาจส่งผลต่อมูลค่าตัวหุ้นได้ หากบริษัทนั้นดำเนินการได้ไม่ดี ราคาหุ้นก็อาจจะตกลดลง และนักลงทุนก็มีโอกาสที่จะสูญเสียเงินที่ลงทุนไป
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง กล่าวคือความเป็นไปได้ที่นักลงทุนอาจไม่สามารถขายหุ้นของตนได้เมื่อต้องการ หากหุ้นมีปริมาณการซื้อขายต่ำ การหาผู้ซื้ออาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และผู้ลงทุนอาจจะต้องยอมขายในราคาที่ต่ำกว่าที่ตนเองซื้อมา
ความเสี่ยงด้านภาษี
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีอาจส่งผลต่อมูลค่าหุ้นได้ เช่น หากภาษีเพิ่มขึ้น มูลค่าหุ้นก็อาจจะลดลง และนักลงทุนก็มีความเสี่ยงที่จะเสียเงินที่ลงทุนไปในหุ้นตัวนั้น
ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลต่อมูลค่าของหุ้นได้ ตัวอย่างเช่น หากอัตราดอกเบี้ยนั้นเพิ่มขึ้น มูลค่าหุ้นก็จะลดลง ซึ่งนำไปสู่การขาดทุนของนักลงทุนในเวลาต่อมา
ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ
การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบอาจจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าของหุ้นได้ หากกฎระเบียบมีความเข้มงวดที่มากขึ้น มูลค่าหุ้นก็มีแนวโน้มที่จะลดลง และการที่มูลค่าลดลงก็นำมาซึ่งการสูญเสียได้
ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อในแต่ละช่วงเวลาอาจมีการส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น มูลค่าหุ้นจะลดลง นักลงทุนควรพิจารณาก่อนที่จะมีการสูญเสียเงินทุนจากพิษเงินเฟ้อ
ความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์
บริษัทที่ขายหรือใช้สินค้าโภคภัณฑ์ อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาตลาด ความต้องการของผู้ซื้อและกำลังของผู้ขาย ซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าหุ้นได้นั่นเอง
ความเสี่ยงจากข่าวในสื่อต่างๆ
การที่มีข่าวเชิงลบหรือข่าวที่สร้างความเสียหายเกี่ยวกับบริษัทหรือตลาด อาจส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทนั้นๆลดลงได้
ความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบ
ความเสี่ยงในการถูกตรวจสอบนั้นหมายถึงความเป็นไปได้ที่งบการเงินของบริษัทที่ผู้ลงทุนเลือกลงทุนด้วย อาจไม่สะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทได้อย่างถูกต้องชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อมูลค่าหุ้นของบริษัทได้ในอนาคต
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการลงทุนมีย่อมมีความเสี่ยงรวมถึงการลงทุนกับหุ้นเช่นกัน และไม่มีการรับประกันผลกำไรที่แน่นอน ผู้ลงทุนควรพิจารณาการยอมรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น โดนสรุปกล่าวได้คือการซื้อขายหุ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายหุ้นในบริษัทที่มีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีเทรดเดอร์หลายประเภท แต่ละประเภทมีขอบเขตเวลาและเป้าหมายที่แตกต่างกัน การซื้อขายหุ้นสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่จับจังหวะตลาดได้อย่างถูกต้อง แต่ก็เสี่ยงต่อการขาดทุนครั้งใหญ่เช่นกัน สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง และไม่มีการรับประกันผลกำไร ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องการซื้อขายหุ้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตลาดหุ้นและมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับตลาด ในฐานะเจ้าของหุ้น คุณมีสิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์และรายได้ของบริษัทตลอดจนสิทธิในการออกเสียงในหุ้นของคุณ หรืออีกนัยหนึ่งหุ้นก็เป็นเหมือนตัวแทนของทุน ในขณะที่พันธบัตรเป็นตัวแทนของหนี้ คุณสามารถสูญเสียการลงทุนทั้งหมดกับหุ้นได้ แต่คุณสามารถสร้างรายได้มหาศาลได้หากคุณลงทุนในบริษัทที่เหมาะสม ตลาดหุ้นเป็นสถานที่ที่บริษัทต่างๆ ระดมทุนโดยการขายหุ้นหรือตราสารทุนให้กับนักลงทุน หุ้นให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงแก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงการเรียกร้องส่วนที่เหลือจากรายได้ของบริษัทในรูปแบบของการเพิ่มทุนและเงินปันผล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิธาน' เข้าถือหุ้นใหญ่ 'วัน เอ็นเตอร์ไพรส์'
“เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์” ประกาศเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ธนาคารไทยเครดิต จ่อขายไอพีโอ เคาะราคา 28-29 บาท/หุ้น
“ธนาคารไทยเครดิต” โชว์กลยุทธ์ในงาน IPO Public Roadshow ประกาศช่วงราคาจองซื้อเบื้องต้น 28.00 – 29.00 บาท/หุ้น นักลงทุนรายย่อยจองซื้อ 23 - 26 ม.ค.นี้
EGCO Group ปิดดีลซื้อหุ้น 50% 'กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass' อเมริกา
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประสบความสำเร็จในการปิดดีลซื้อหุ้น 50% ใน “กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass” กำลังผลิตรวม 1,304 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอเมริกา ความสำเร็จครั้งนี้ส่งผลให้ EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 652 เมกะวัตต์
ปตท.สผ. ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์
ปตท.สผ. เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ขยายธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง
บางจาก กวาดหุ้นเอสโซ่ 76.34%
บางจากฯ เสร็จสิ้นการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของเอสโซ่ (ประเทศไทย) ถือครองหุ้นจำนวน 76.34% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด
ยัสปาล ยักษ์ใหญ่แฟชั่นของไทยยื่นแบบไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 156 ล้านหุ้น
บมจ. ยัสปาล หรือ JPC ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น และสินค้าไลฟ์สไตล์ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายที่นอน เครื่องนอน ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 156 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย