‘ธรรมนัส’ รมว.เกษตรฯ ร่วมงาน “พัฒนาที่อยู่อาศัยในที่ดิน ส.ป.ก.” พร้อมเดินหน้าอีก 4 ปี-เป้าหมายเกษตรกรยากไร้มีที่ดินทำกิน-มีรายได้

ร้อยเอกธรรมนัส  รมว.เกษตรฯ (ที่ 6 จากซ้าย)

พระนครศรีอยุธยา /  ร้อยเอกธรรมนัส รมว.เกษตรฯ ร่วมงานสัมมนา “การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก.”  เพื่อสรุปบทเรียนและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา  โดยที่ผ่านมา ส.ป.ก.ร่วมมือกับ พอช. สนับสนุนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรที่ยากไร้  ดำเนินการแล้วใน 12 จังหวัด  รวม 2,510 ครัวเรือน  และเตรียมขยายผลในอีก 4 ปี  รวม 2,771 ครัวเรือน  เพื่อสร้างความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัย  พัฒนาคุณภาพชีวิต  สร้างอาชีพ  รายได้  ลดความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ ด้านผู้แทนชุมชนยื่น 6 ข้อเสนอแก้ปัญหาในที่ดิน ส.ป.ก.

สร้างบ้านมั่นคงในที่ดิน ส.ป.ก.แล้ว 2,510 ครัวเรือน

 นับแต่ปี 2560-2566 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)  ได้สนับสนุนการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงในที่ดิน ส.ป.ก. ในรูปแบบ “แปลงรวม” เพื่อร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน คุณภาพชีวิต และสร้างถิ่นฐานชุมชนที่ยั่งยืน โดยใช้แนวทางการขับเคลื่อนงานโดยขบวนองค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนที่ขับเคลื่อนงานในเขต ส.ป.ก.ทั่วประเทศไปแล้ว  รวม 12 จังหวัด  เช่น  อุทัยธานี  ลพบุรี   กาญจนบุรี  นครราชสีมา  กาฬสินธุ์  ชุมพร   ฯลฯ  รวม  25 ตำบล 33 โครงการ  จำนวน  2,510 ครัวเรือน  งบประมาณสนับสนุนรวม 132 ล้านบาทเศษ  ปัจจุบันสร้างบ้านมั่นคงและพัฒนาคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก.ไปแล้วจำนวน 1,834 หลังคาเรือน

ระหว่างวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้  มีการจัดงานสัมมนา “การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตในที่ดิน ส.ป.ก.”  โดยในวันนี้ (27 ตุลาคม) ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา  โดยมี นายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษดา สมประสงค์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ นายละอองดาว  สีลาน้ำเที่ยง แกนนำขบวนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก. พร้อมด้วยผู้แทนชุมชนในที่ดิน ส.ป.ก./ คทช. และผู้แทนหน่วยงานภาคีประมาณ 400 คน เข้าร่วมการสัมมนาที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร (ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร)  อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ร้อยเอกธรรมนัส   รมว.เกษตรและสหกรณ์

“ลดความเหลื่อมล้ำ  สร้างความมั่นคงในที่ดิน”

ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   กล่าวว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิต  ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยราชการต่าง ๆ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาชน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงให้ประชาชนอย่างแท้จริง

“รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในที่ดิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาอาชีพ  รายได้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน  ผมพร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ถือเป็นรากฐานสำคัญของสังคม” 

ร้อยเอกธรรมนัส  กล่าวต่อไปว่า ทุกโครงการจะสำเร็จลงได้ก็ด้วยความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขและสนับสนุนการทำงาน ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน  เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในที่ดิน ที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะร่วมสนับสนุนและบูรณาการงานของกระทรวง เพื่อให้เกิดความเสมอภาค เป็นธรรม และเพิ่มโอกาสให้กับประชาชนมีที่อยู่อาศัยร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน

นายละอองดาว  ผู้แทนขบวนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก. 

นายละอองดาว สีลาน้ำเที่ยง ผู้แทนขบวนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก.  กล่าวว่า ขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคงชนบทให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มของผู้เดือดร้อนและไม่มีความมั่นคงในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้ลุกขึ้นมาเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาของตนเอง  ส่งเสริมการสร้างทุนภายในชุมชนโดยการออมทรัพย์เพื่อให้เป็นหลักประกันของชุมชน  มีการออกแบบวางผังการพัฒนาที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ  ด้วยกระบวนการการมีส่วนร่วมของผู้เดือดร้อนและภาคีพัฒนา  สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีการเกษตรร่วมกัน เชื่อมโยงการเป็นเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน ขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยในที่ดิน ส.ป.ก.

นายนิวัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด เป็นไปตามศักยภาพและความต้องการของประชาชนในจังหวัดนั้น ๆ  การดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้เกิดยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยภาคประชาชน  ให้มีประสิทธิภาพที่ผ่านมา พบว่า มีข้อจำกัดในเรื่องการขาดความเข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การเข้าถึงที่ดินและระเบียบในการขอใช้ประโยชน์ที่ดิน การสนับสนุนในระดับพื้นที่ และหน่วยงานระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อน รวมถึงการแก้ไขปัญหาของแต่ละหน่วยงานที่ลงสู่พื้นที่เดียวกัน จำเป็นต้องมีกลไกการบูรณาการเชื่อมโยง เพื่อให้เกิดการทำงานในทิศทางเดียวกัน

นายกฤษดา ผู้อำนวยการ พอช.

นายกฤษดา สมประสงค์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนหรือ พอช.  กล่าวว่า ที่ผ่านมาขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคงชนบทร่วมกับ พอช. และหน่วยงานภาคีพัฒนาต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม หนุนเสริมให้เกิดการสร้างความมั่นคงด้านที่ดิน ที่อยู่อาศัย คุณภาพชีวิต  ในชุมชนผู้มีรายได้น้อยในทุกมิติ ให้เกิดการสร้างถิ่นฐานชุมชนในชนบทที่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ 

“จากการร่วมแรงร่วมใจในการดำเนินงานดังกล่าว  ส่งผลให้เกิดพื้นที่รูปธรรมการพัฒนาด้านที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยในที่ดิน ส.ป.ก. ภายใต้การสนับสนุนโครงการบ้านมั่นคงชนบท ตั้งแต่ปี 2560 – 2566 จำนวน  33 โครงการ  รวม  2,510 ครัวเรือน ใน 12 จังหวัด ส่งผลให้เกิดการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน และสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงในที่ดิน ที่อยู่อาศัย การออกแบบวางผัง การประกอบอาชีพ รายได้ เกษตรกรรมที่ยั่งยืน”     ผอ.พอช. กล่าว

นายวิณะโรจน์    เลขาธิการ ส.ป.ก.

เตรียมขยายพื้นที่ให้เกษตรกรยากไร้มีที่ทำกิน

นายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า  สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีภารกิจในการจัดที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ยึดคืนจากผู้ครอบครองไม่ถูกต้องตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 36/2559 พื้นที่เป้าหมาย 40 แปลง 13 จังหวัด เกษตรกรได้รับการจัดที่ดินแล้วจำนวน 4,768 ราย 41,265 ไร่

นอกจากนี้ยังสนับสนุนบ้านพักอาศัย   โดย ส.ป.ก. ได้ร่วมบูรณาการขับเคลื่อน โดยมี พอช. เข้ามาร่วมบูรณาการขับเคลื่อนภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 9 หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 โดยสบทบทุนสร้างบ้านให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 1,690 หลัง ตอบสนองต่อปัจจัยขั้นพื้นฐานให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน สามารถช่วยให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเข้าถึงบริการของรัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันภาคการเกษตรต่อไป

อย่างไรก็ตาม  นอกจากความร่วมมือระหว่าง ส.ป.ก.กับ พอช. ดังกล่าวแล้ว  เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ทั้งสองหน่วยงาน   และหน่วยงานภาคีต่างๆ รวม 16 หน่วยงาน  ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยในที่ดิน ส.ป.ก. ขยายผลและต่อยอดในพื้นที่อนุญาตเดิม สำหรับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่แปลงใหม่อีก 2,771 ครัวเรือน  ระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2570 โดยในปี  2567 จะเริ่มนี้ดำเนินเพิ่มในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี เชียงใหม่ เชียงราย อย่างน้อย 600 ครัวเรือน เพื่อสร้างโอกาสสร้างความมั่นคงในที่ดิน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาอาชีพรายได้  การพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ ลดความเหลื่อมล้ำ และช่องว่างความยากจน

ผู้แทนชุมชนยื่นข้อเสนอการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในที่ดิน ส.ป.ก.

ยื่น 6 ข้อเสนอแก้ปัญหาในที่ดิน ส.ป.ก.

การจัดสัมมนาในครั้งนี้  เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนบ้านมั่นคงชนบทในที่ดิน ส.ป.ก. ได้ทำหนังสือยื่นข้อเสนอต่อร้อยเอกธรรมนัส  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัย  มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

1.การอนุญาตที่ดิน ส.ป.ก. ในลักษณะโฉนดแปลงรวมเพื่อจัดสรรให้กับประชาชน เพื่อเป็นหลักประกันที่ดินให้ตกถึงลูกหลานในอนาคต

2.เน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่  ในการร่วมกำหนด ออกแบบผัง และแผนการพัฒนาพื้นที่ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของชุมชน

3.ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   บูรณาการแผนงานและงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับการอยู่อาศัย การประกอบอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตทุกมิติ

4.ส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกระบวนการในติดตามและรายงานผลการดำเนินงานปัญหาข้อติดขัดในโครงการที่ได้รับการจัดสรรที่ดินแล้ว พร้อมทั้งร่วมกันแก้ไขปัญหาและหาทางออกร่วมกัน

5.ร่วมสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และงานวิชาการ ให้กับขบวนองค์กรชุมชน

6.ให้มีคณะทำงานติดตามการทำงาน ในระดับส่วนกลางและระดับจังหวัด โดยมีองค์ประกอบจากหน่วยงาน  ขบวนองค์กรชุมชน และผู้แทนพื้นที่ดำเนินการ

************

เรื่องและภาพ : สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บ้านน้ำเชี่ยว 2 ศาสนา3 วัฒนธรรม” สานพหุวัฒนธรรม นำสู่การจัดการจัดการตนเอง (2)

พวกเราได้รู้จักบ้านน้ำเชี่ยวจังหวัดตราดไปแล้ว ต้องบอกว่าเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

เครือข่ายพัฒนาที่อยู่อาศัย 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ผนึกพลังทุกภาคส่วนสร้างบ้านเพื่อทุกคน เสนอรัฐหนุนเสริมบ้านโดยชุมชน ปลดล๊อกสิทธิที่ดินและระบบการเงิน สู่ความยั่งยืนมั่นคง

กทม. : วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนจาก 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ร่วมเสนอแนวทางการการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ

ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เปิดวงแลกเปลี่ยนบทเรียนการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ

วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน หน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน ประชาสังคม นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ

วราวุธ รมว.พม. เยี่ยมบ้านมั่นคงเมืองย่าโม ย้ำนอกจากมีบ้านแล้วต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกครัวเรือน

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบ้านมั่นคง

กระทรวง พม. เปิดปฏิบัติการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”

กรุงเทพฯ/29 มิถุนายน 2567 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”