รวมพลังคนจนเมืองขอนแก่นรณรงค์ ‘วันที่อยู่อาศัยโลก 2566’ เสนอหน่วยงานแก้ปัญหาเร่งด่วนชุมชนในที่ดิน รฟท.

ส่วนหนึ่งของขบวนรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลกภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น (16 ตุลาคม)

ขอนแก่น  / เครือข่ายฟื้นฟูประชาสร้างสรรค์รวมพลังคนจน-ชุมชนริมราง-บ้านมั่นคง-คนไร้บ้าน-สลัม 4 ภาค  จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน ‘วันที่อยู่อาศัยโลก 2566’ ที่จังหวัดขอนแก่น  โดยส่งตัวแทนร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดร่วมกับ รฟท. เทศบาล  พอช. เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางรถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย  ขณะที่ พอช.เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมรางนำร่องปีนี้ 14 ชุมชนทั่วประเทศ  ใช้งบ 119 ล้านบาท

UN – HABITAT   หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’  กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’  เริ่มตั้งแต่ปี 2528  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ในโลกให้ความสำคัญกับสถานการณ์การอยู่อาศัยและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตลอดจนตระหนักถึงสิทธิพื้นฐานของการมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมของประชากรทุกคนบนโลก   

วันที่อยู่อาศัยโลกปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม  กลุ่ม  องค์กร  และเครือข่ายที่ทำงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย  เช่น  เครือข่ายสลัม 4 ภาค  มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’  ฯลฯ  ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตลอดช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนี้  โดยจัดกิจกรรมขึ้นในกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่างๆ

ขบวนรณรงค์รอฟังผลการเจรจาแก้ไขปัญหาที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

ประชุมแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนในที่ดิน รฟท. ขอนแก่น

ล่าสุดวันนี้ (16 ตุลาคม)  ที่จังหวัดขอนแก่น  เครือข่ายฟื้นฟูประชาสร้างสรรค์ (ขอนแก่น) ร่วมกับพี่น้องเครือข่ายที่อยู่อาศัยในภาคอีสาน  เช่น  เครือข่ายชุมชนริมราง  เครือข่ายบ้านมั่นคง   คนไร้บ้าน  เครือข่ายสลัม 4 ภาค  ฯลฯ  จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกปี 2566  โดยมีตัวแทนกลุ่มต่างๆ ประมาณ 300 คนร่วมเดินรณรงค์จากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่นไปยังศาลากลางจังหวัดขอนแก่น   และร่วมประชุมกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  เช่น  การรถไฟแห่งประเทศไทย (แขวงการทางรถไฟขอนแก่น) เทศบาลนครขอนแก่น   สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  โดยมีนางสาวธนียา นัยพินิจ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานการประชุม  เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนริมรางรถไฟในจังหวัดขอนแก่นที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางรถไฟ

นางสาวธนียา นัยพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ หากพี่น้องไร้ที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแหล่งก็เป็นเรื่องยากที่จะพัฒนาชีวิตให้มีคุณภาพได้ ที่ผ่านมาทางจังหวัดขอนแก่นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้มาโดยตลอด ส่วนใหญ่เป็นที่ดินของหน่วยงานรัฐอื่น  เช่น   การรถไฟ กรมธนารักษ์ เป็นต้น ซึ่งในวันนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละด้านไปช่วยกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

ส่วนประเด็นที่มีการประชุมเพื่อหารือแก้ไขปัญหา  เช่น  1.กรณีที่ดินสาธารณะชุมชนหลักเมือง มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  คือ  สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่น, เทศบาลนครขอนแก่น  2.เรื่องระบบสาธารณูปโภคชุมชนในเขตของการรถไฟฯ  ที่มีสัญญาเช่าที่ดิน เช่น ท่อระบายน้ำ, ไฟฟ้า,ประปา , ชุมชนพัฒนาเทพารักษ์โซน1  ชุมชนเทพารักษ์ 5  ชุมชนหนองวัด 2 ริมราง    มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ  การรถไฟฯ  เทศบาลนครขอนแก่น

3.เรื่องทางเข้า-ออกชุมชนหนองแวงใหม่ที่ได้สัญญาเช่าในที่ดินการรถไฟฯ  บริเวณย่านสถานีรถไฟสำราญ   มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เทศบาลตำบลศิลา  สำนักงานทางหลวงที่7 กรมทางหลวงขอนแก่น  4.เรื่องการจดจัดตั้งสหกรณ์ในการเช่าที่ดินกับการรถไฟฯ  5.เรื่องการหาที่ดินใหม่รองรับให้กับพี่น้องชุมชนริมรางรถไฟเทศบาลเมืองศิลา  ฯลฯ

นายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า แผนงานการแก้ไขปัญหาชุมชนผู้มีรายได้น้อยในที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง  คือ  รถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ - หนองคาย) ช่วงนครราชสีมา-ขอนแก่น-หนองคาย รวม  5 จังหวัด 61 ชุมชน จำนวน  3,899 หลังคาเรือน 

โดยที่ผ่านมา พอช.ได้จัดทีมปฏิบัติงานเดินหน้าแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยชาวชุมชนริมทางรถไฟนำร่องในพื้นที่ต่างๆ  เช่น  ชุมชนริมทางรถไฟในเขต อ.เมือง  จ.นครราชสีมา  166  ครอบครัว  ชุมชนริมทางรถไฟในเขต อ.เมือง จ.ขอนแก่น 169  ครอบครัว   โดย พอช.จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยให้แก่ชุมชนที่ต้องรื้อย้ายออกจากแนวรางรถไฟตามโครงการบ้านมั่นคง   เช่น  ส่งเสริมกระบวนการรวมกลุ่มเพื่อแก้ปัญหา  การจัดตั้งสหกรณ์เคหสถานเพื่อบริหารโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย  อุดหนุนงบประมาณก่อสร้างบ้าน  สินเชื่อก่อสร้างบ้าน  ฯลฯ  ขณะที่ รฟท.จะอนุญาตให้ชาวชุมชนเช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ระยะเวลา 30 ปี  (เช่าที่ดินผ่าน พอช.)

นางสาวธนียา รอง ผวจ.ขอนแก่น (ที่ 4 จากซ้าย) และนายสยาม ผช.ผอ.พอช. (ที่ 5 จากซ้าย) เจรจากับผู้ชุมนุม

เส้นทางการแก้ไขปัญหาชุมชนในที่ดิน รฟท.ทั่วประเทศ

ในช่วงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  มีนโยบายการพัฒนาระบบรางทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2561 เช่น  โครงการรถไฟรางคู่ในภาคใต้  รถไฟความเร็วสูงในภาคอีสาน  รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน  ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา  ฯลฯ   ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่สองข้างทางรถไฟ  ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ)  และเครือข่ายสลัม 4 ภาค  จึงร่วมกันเจรจาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย  จนคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ปัญหา

โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566   เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางรถไฟ   ในพื้นที่  35 จังหวัด  300 ชุมชน จำนวน  27,084  ครัวเรือน  ใช้งบประมาณรวม 7,718 ล้านบาทเศษ   

โดยรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  หรือ พอช. จัดทำแผนงานรองรับ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ส่วน รฟท.จะอนุญาตให้ชุมชนเช่าที่ดิน รฟท. ผ่าน พอช. เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ 

ชาวชุมชนริมทางรถไฟย่านราชเทวี  กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน  อยู่ในระหว่างการเตรียมการเช่าที่ดิน รฟท.ย่านบึงมักกะสันเพื่อสร้างบ้าน-ชุมชนใหม่

ความคืบหน้าและข้อเสนอจากชาวริมทางรถไฟ

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง  พอช.มีแผนดำเนินการภายใน5  ปี  เริ่มตั้งแต่ปี 2566-2570   ขณะนี้ชุมชนต่างๆ จำนวน 300 ชุมชน 35 จังหวัด จำนวน  27,084  ครัวเรือน  (ใช้งบประมาณรวม 7,718 ล้านบาทเศษ)  ขณะนี้ พอช.และภาคีเครือข่ายกำลังเร่งสำรวจข้อมูลชุมชน  ครัวเรือน  เพื่อจัดทำสัญญาเช่าที่ดิน รฟท. (กรณีอยู่ในที่ดินเดิมได้)  หรือจัดหาที่ดินแปลงใหม่ 

อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากมีอุปสรรคบางประการในการทำงาน  เช่น  ชาวบ้านบางส่วนยังไม่เชื่อว่าจะมีโครงการพัฒนาระบบรถไฟ  ยังไม่เข้าร่วม  ฯลฯ   ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา  เครือข่ายชุมชนริมราง  สลัม 4 ภาค จึงเจรจาร่วมกับ รฟท. และ พอช.  โดยมีข้อสรุปเพื่อเร่งรัดการดำเนินการ  เช่น  ให้ รฟท.และ พอช. จัดตั้งคณะทำงานร่วมลงไปในพื้นที่  เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจกับกับชุมชนให้รวดเร็วขึ้น

การจัดเวทีเสวนาแก้ไขปัญหาชุมชนในที่ดิน รฟท. เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่ พอช. กรุงเทพฯ

โดย รฟท. และ พอช. จะทำแผนปฏิบัติการ หรือ action plan และเร่งดำเนินการใน 3 ระยะ คือ 1. ให้ชุมชนแจ้งความจำนงค์ว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ 2. ต้องดำเนินการให้เช่าที่ดิน รฟท. ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2571 และ 3.เมื่อสิ้นสุดงบประมาณปี 2570 ต้องวางแผนว่า จากจำนวนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ  27,084 ครัวเรือน  จะเข้าร่วมพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวนเท่าไหร่ ? 

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอจากเครือข่ายชุมชนริมทางรถไฟในประเด็นต่างๆ  เช่น  การโดนคดีฟ้องร้องข้อหาบุกรุกที่ดิน รฟท. อยากให้ รฟท.เจรจากับชุมชนก่อน  เพราะปัจจุบันมีคณะทำงานร่วมกันระหว่างชาวชุมชนกับ รฟท.แล้ว   เสนอให้ต่อระยะเวลาการทำโครงการเรื่องที่อยู่อาศัยของ พอช.เกิน 5 ปี (เดิมภายในปี 2566-2570)

เร่งรัดการจัดทำสัญญาเช่าที่ดิน รฟท. สำหรับชุมชนที่ดำเนินการยื่นขอเช่าที่ดิน และจัดทำ ทด.3 เรียบร้อยแล้ว ในพื้นที่แปลงสถานีสำราญ สถานีขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น , พื้นที่แปลงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ , พื้นที่แปลงที่ดินจังหวัดตรัง 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนชายเขาใหม่พัฒนา ชุมชนทางล้อ  และชุมชนคลองมวน   ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม  ในช่วงวันที่อยู่อาศัยโลกเมื่อ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา  ผู้แทนกระทรวงคมนาคมได้มอบสัญญาเช่าที่ดินให้แก่ชุมชนต่าง ๆ นำร่อง จำนวน 4 ชุมชน คือ   ชุมชนหนองแวงตาชู  จ.ขอนแก่น  106 ครัวเรือน  ที่ดิน 8,520 ตารางเมตร  ชุมชนริมทางรถไฟในจังหวัดตรัง 3 ชุมชน  รวม 133  ครัวเรือน  เนื้อที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร  ระยะเวลาเช่า 30 ปี  ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566-31 ตุลาคม 2596  อัตราค่าเช่าผ่อนปรนตารางเมตรละ 9 บาท  

โดยในปีนี้ พอช. มีแผนดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมรางรถไฟนำร่องจำนวน 14 ชุมชนทั่วประเทศ  รวม 883 ครัวเรือน  ใช้งบประมาณทั้งหมด 119 ล้านบาทเศษ  ส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการในปี 2567 เป็นต้นไป

ผู้แทน 4 ชุมชนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าที่ดิน รฟท.จากผู้แทนกระทรวงคมนาคม  เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก 2 ตุลาคมที่ผ่านมา  ที่หน้ากระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนินนอก

*********

เรื่องและภาพ  :  ธิปไตย ฉายบุญครอง  สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน

UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’

รวมพลังคนจนแก้ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ วันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2567

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

‘21 ปีบ้านมั่นคง’ พอช. แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนทั่วประเทศ กว่า 3 แสนครัวเรือน

รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยแก่คนจนในเมืองที่ ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด

เสียงจากคลองเปรมประชากร…บ้านหลังใหม่ชีวิตใหม่ “คืนสายน้ำให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง”

คลองเปรมประชากร มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คลองนี้ได้ประสบปัญหามากมาย

บอร์ด พอช. มีมติ พักชำระหนี้องค์กรผู้ใช้สินเชื่อในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ

สถานการณ์การเกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุยางิ ในระหว่างวันที่ 7 - 8 กันยายน 2567 ส่งผลกระทบต่อประชาชนในจังหวัดเชียงราย จำนวน 7 อำเภอ

รมว.พม. แจ้งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 34 แห่ง ใน 13 จว. ช่วยกลุ่มเปราะบาง-ผู้ประสบภัยน้ำท่วมริมแม่น้ำโขง ด้าน พอช. พร้อมอนุมัติงบช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติภาคเหนือและอีสาน

จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบในพื้นที่ 8 จังหวัด 47 อำเภอ 207 ตำบล 22,817 ครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา