สสส.เร่งส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านทั่วประเทศแก้ปัญหา NCDs เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ใช้ “พื้นที่สุขภาวะ” แก้ปัญหาเมืองเพิ่มคุณภาพชีวิตดี

สสส. เสริมพลังภาคีเครือข่าย ชูกระบวนการมีส่วนร่วม แชร์ข้อมูลและองค์ความรู้ สร้างสรรค์พื้นที่ 
สุขภาวะสีเขียวละแวกบ้านยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง ป้องกัน NCDs  พร้อมชวนภาคีเครือข่ายทำพื้นที่สุขภาวะแก้ปัญหาใหญ่ของเมืองทั้งระบบนิเวศ มลภาวะ น้ำท่วม แหล่งอาหาร ขับเคลื่อนไทยสู่สังคมสุขภาวะ ยกระดับคุณภาพเมือง คุณภาพชีวิต ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกัน 

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)เปิดเผยว่า สสส.และภาคีเครือข่ายเร่งพัฒนาขยายพื้นที่สุขภาวะหรือพื้นที่สาธารณะสีเขียวละแวกบ้าน หรือสวนที่แทรกอยู่ในเขตชุมชนที่เข้าถึงได้ในระยะ 400-800 เมตร สามารถเดินเท้าได้ภายใน 15 นาที ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม ทั้งเชิงกายภาพผสาน การสัญจรที่เข้าถึงสะดวก พื้นที่ปลอดภัย ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อสนับสนุนให้คนทุกเพศวัยสามารถเข้าใช้พื้นที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการมีกิจกรรมทางกายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญต่อการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นสังคมสุขภาวะใน 4 มิติ คือ กาย จิต ปัญญา และสังคม  

ทั้งนี้ มิติด้านกาย พื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านจะเป็นพื้นที่ประกอบการมีกิจกรรมทางกายและ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง เพื่อป้องกันและลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ การเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูง มะเร็งเฉพาะจุด เบาหวานประเภท 2 สุขภาพจิต (อาการวิตกกังวลและหดหู่ที่ลดลง) และการนอนหลับ ซึ่งโรคร้ายเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญการเสียชีวิตของคนไทยถึงร้อยละ 75 ของการเสียชีวิตทั้งหมด   

มิติด้านจิตใจ พื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านจะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตของคนเมืองด้วยการผ่อนคลายความเครียด ลดความวิตกกังวลและซึมเศร้าจากการได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ มิติด้านปัญญาและมิติด้านสังคมเป็นพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม ดึงดูดผู้คนได้มาพบปะกัน เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน เป็นสังคมที่มีความถ้อยทีถ้อยอาศัย ร่วมกันแก้ปัญหาและรับผิดชอบพื้นที่ นอกจากนั้น การรวมตัวของผู้คนจะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการค้าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ และเป็นพื้นที่ส่งเสริมระบบนิเวศน์เมือง เช่น การเป็นทางระบายน้ำ การรักษาคุณภาพอากาศ เป็นต้น   

เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ สู่ความยั่งยืนของพื้นที่ 

ทั้งนี้ ตัวอย่างความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้าน ของสสส.ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เช่น พื้นที่สุขภาวะ “Healthy Rayong” จังหวัดระยอง พื้นที่สุขภาวะ “เพชรบุรีดีจัง” จังหวัดเพชรบุรี พื้นที่สุขภาวะคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ตเมืองสุขภาวะ เป็นต้น นอกจากนั้นสสส.ยังพัฒนาองค์ประกอบพื้นที่สุขภาวะเชิงประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนาหลักสูตรนักพัฒนาพื้นที่สุขภาวะ พื้นที่สุขภาวะชุมชนเพื่อผู้สูงอายุ พื้นที่สุขภาวะสำหรับเยาวชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นต้น  

“ชุมชนไม่ใช่แค่คนที่อาศัยในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาคเอกชนซึ่งทำธุรกิจในนั้น คอนโดมิเนียม วัด โรงเรียน หน่วยงานราชการ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องได้ประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะร่วมกัน ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของสสส. ที่ มุ่งให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี โดยสิ่งสำคัญคือกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ในทุกๆ ขั้นตอน เนื่องจากเป็นผู้ใช้ประโยชน์ ดังนั้นพื้นที่ต้องเกิดจากความต้องการจริง เพราะไม่ใช่แค่การพัฒนาพื้นที่ แต่เป็นการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเพื่อนำไปสู่วิถีชีวิตสุขภาวะด้วย” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว   

จากพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้าน สู่การแก้ปัญหาใหญ่ของเมือง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า  

นายยศพล บุญสม คณะกรรมการเครือข่ายพื้นที่สุขภาวะ และผู้ร่วมก่อนตั้งโครงการ we! park กล่าวว่า ปัจจุบัน we! park ภายใต้การสนับสนุนของสสส. กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายต่างๆ มีแผนดำเนินงานพัฒนาสวนละแวกบ้านในเขตกรุงเทพฯ บนพื้นที่รกร้างแต่มีศักยภาพจำนวน 30 แห่ง และใช้เป็นโครงการต้นแบบนำร่องจำนวน 6 แห่ง เช่น หัวลำโพงรุกนิเวศน์ สวนป่าเอกมัย และสวนสานธารณะคลองสาน เป็นต้น โดยผ่านกระบวนการทดลองพัฒนาพื้นที่ต้นแบบที่เรียกว่าโครงการ Pop up park เพื่อให้ภาคีที่เกี่ยวข้องและชุมชนได้เห็นตัวอย่างความเป็นไปได้ของการใช้ประโยชน์ก่อนการพัฒนาพื้นที่จริงตามศักยภาพความเหมาะสมซึ่งสามารถแบ่งพื้นที่การพัฒนาได้ 6 ประเภท คือ Community & Well-being หรือพื้นที่ส่งเสริมสุขภาวะแก่ คนในชุมชน, Mobility & Connectivity พื้นที่เชื่อมต่อเมืองเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน, Blue-green infrastructure พื้นที่วิถีชีวิตและธรรมชาติชุมชนริมน้ำ, Cultural and creative activity พื้นที่แห่งการสร้างสรรค์จากส่วนร่วมของชุมชน, Urban Agriculture พื้นที่แปลงเกษตรสำหรับคนเมือง และ Biodiversity values หรือพื้นที่ความหลากหลายทางชีวะภาพของธรรมชาติในเมือง   

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้าน นอกจากความจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเจ้าของพื้นที่แล้ว ยังต้องอาศัยการแบ่งปันทรัพยากร ข้อมูล องค์ความรู้และศักยภาพจากหลายๆภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะนอกจากจะช่วยเร่งกระบวนการให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์และสำเร็จอย่างรวดเร็วแล้ว พื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาในภาพใหญ่ของเมืองได้อีกด้วย เช่น  การพัฒนาพื้นสุขภาวะเพื่อสร้างระบบนิเวศของเมือง การช่วยลดมลภาวะ การเป็นพื้นที่สำหรับรับน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง หรือพื้นที่สุขภาวะในเชิงเกษตรแหล่งอาหารปลอดภัยของคนเมือง เป็นต้น 

“โครงการไม่ได้มองแค่การแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านให้คนมาเพิ่มการมีกิจกรรมทางกายเพื่อป้องกันโรค NCDs เท่านั้น แต่ยังต้องการลงทุนในภาพเล็ก เพื่อไปแก้ไขปัญหาในภาพใหญ่ของเมืองด้วย  ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันจากคุณภาพของเมืองและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายยศพล กล่าว 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สิทธิในอาหาร..เพื่อชีวิตที่ดี" ทุกภาคส่วนต้องร่วมผลักดัน

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้วันที่ 16 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันอาหารโลก (World Food Day) เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิในอาหาร

สสส. ทำถึง กวาด 14 รางวัลสื่อสาร จากแอด พีเพิล อวอร์ส 2567 ผ่าน 5 ผลงาน สื่อสารการตลาดเพื่อสังคม “Walk Stadium” “หมวกกันน็อกคืนชีพ” “แอร์ล้างได้ปอดล้างไม่ได้” “พวงเครื่องปรุงจิ๋ว” “การเดินทางของบุหรี่”

น.ส.สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ผลงานโฆษณาและการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. ได้รับรางวัลแอด พีเพิล อวอร์ส 2567

ต่อยอด! ติดอาวุธสมองป้องกัน ความเสี่ยงภัยบนโลกไซเบอร์

ผลสำรวจปี 2567 คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 88% ของประชากรทั้งหมด และส่วนใหญ่ใช้งานนานเกือบ 8 ชั่วโมงต่อวัน แสดงให้เห็นว่าเราใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ท่องโลกอินเทอร์เน็ต

โชว์ต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ลดฝุ่นอากาศสะอาดทุกลมหายใจ

"อากาศบริสุทธิ์ใน กทม.เป็นจริงได้ ด้วยจุดเปลี่ยนร่วมมือร่วมใจ ให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้" ด้วยแนวคิดข้างต้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ทำความรู้จัก “เชื้อดื้อยา” จากผลงานประกวดภาพวาดการ์ตูนคอมมิค

การสื่อสารในประเด็น “เชื้อดื้อยา”เพื่อให้คนส่วนใหญ่ รับรู้ เข้าใจ ถึงผลกระทบ และร่วมกันป้องกัน เป็นเรื่องที่องค์กรที่ทำงานด้านนี้ได้พยายามทำมาอย่างต่อเนื่อง

โฟกัสเชียงใหม่ต้นแบบความสำเร็จ งดขายเหล้าเทศกาลพร้อมเป็นตาสับปะรด

เชียงใหม่ต้นแบบความสำเร็จ ทุกเทศกาลประกาศงดขายงดดื่มเหล้า ทราบล่วงหน้า 15 วัน ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือ ภาคประชาสังคมพร้อมใจเป็นตาสับปะรดร้องเรียน