กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศรายชื่อศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2566 โดย ศดปช. ตำบลนาหนองไผ่ จ.สุรินทร์ ได้รางวัลดีเด่นระดับประเทศ รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และ 2 เป็นของ ศดปช. ตำบลราชกรูด จ.ระนอง และ ศดปช. ตำบลแม่น้ำคู้ จ.ระยอง
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงผลการคัดเลือกการประกวดศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯได้ประกาศผลการคัดเลือก ศดปช. ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ผลปรากฏว่า ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยองได้รับ เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร ส่วนรางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่ ศดปช. ตำบลสวนพริกไทย อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ศดปช. ตำบลจอมปลวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม และศดปช. ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยได้รับเกียรติบัตร และเงินรางวัล 5,000 บาท
สำหรับศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลนาหนองไผ่ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เนื่องจากมีจุดเด่นและได้คะแนนตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการฯกำหนด โดยเฉพาะการนำองค์ความรู้ใหม่ ๆ เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ มาถ่ายทอดให้สมาชิกและเกษตรกรทั่วไปได้นำไปปรับใช้ในพื้นที่หรือแปลงเกษตรของตัวเอง ประกอบด้วย 1. การปรับที่นาด้วยเลเซอร์ 2. การดีท็อกดินด้วยชีวภัณฑ์ (Detox Din) 3. การเพาะเลี้ยงและขยายแหนแดงพันธุ์ Azolla microphylla 4. การใช้แบค - บอล (Bac – Ball) เพื่อย่อยสลายสารเคมีและควบคุมโรคพืชที่ตกค้างในดิน 5.การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ PGPR II เพื่อลดต้นทุนการผลิต และ6.การให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินแก่สมาชิกและเกษตรกรอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 – 2566 โดยให้คำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ย และให้บริการกับเกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิก นอกจากนี้ ศดปช. ตำบลนาหนองไผ่ ยังมีการวิเคราะห์ศักยภาพและจัดทำแผนพัฒนา ศดปช. ด้วยเครื่องมือ Smart A4 และบรรจุแผนดังกล่าวไว้ในแผนพัฒนาการเกษตรระดับตำบล ปี 2566 – 2570
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลราชกรูด จังหวัดระนอง โดดเด่นในด้านการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปจัดการอย่างเหมาะสม ได้แก่การนำเศษวัสดุเหลือใช้จากปาล์มน้ำมันมาผลิตปุ๋ยหมัก และไบโอชาร์ มีเครือข่ายด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน และสามารถบริหารจัดการงบประมาณหรือเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่ม ก่อให้เกิดรายได้ สำหรับการดำเนินกิจกรรมของ ศดปช. เช่น มีการระดมหุ้น จากสมาชิก จำนวน 142 ราย และมีเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 2,000,000 บาท
และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนตำบลแม่น้ำคู้ จังหวัดระยอง โดดเด่นในด้านการวางแผนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อจัดการของเหลือใช้ทางการเกษตรสู่กระบวนการผลิตปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน โดยได้นำเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยหมักเติมอากาศของกรมวิชาการเกษตรมาปรับใช้อย่างเหมาะสม การเพาะขยายแหนแดงเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ มีแปลงเรียนรู้ยางพาราและมันสำปะหลังในการลดต้นทุนโดยการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ร่วมกับการใช้ปุ๋ยหมักเติมอากาศเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และสมาชิกร่วมกันวิเคราะห์กลุ่มและจัดทำแผนพัฒนา ศดปช. ด้วยเครื่องมือ SWOT Analysis และ TOWs Matrix และนำแผนที่ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น
สำหรับการประกวด ศดปช. ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.คัดเลือก ศดปช. ดีเด่นระดับประเทศ ที่มีผลงานดีเด่นในด้านบริหารจัดการและการขยายผลการส่งเสริมการจัดการดินและปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต จนเป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชนได้ 2.เพื่อให้ ศดปช. ดีเด่น ระดับประเทศ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชน สร้างความภาคภูมิใจในการดำเนินกิจกรรมที่มีส่วนในการพัฒนาเกษตรกรในชุมชน 3.เผยแพร่ผลงานของ ศดปช. ที่ได้รับการคัดเลือก และ4.สร้างขวัญกำลังใจในการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานของ ศดปช. โดย ศดปช. ที่จะเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศ ต้องดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี และได้รับการคัดเลือกเป็น ศดปช. ดีเด่น ระดับเขต ประจำปี 2566 ส่วนหลักเกณฑ์การให้คะแนนจะเน้นใน 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ความคิดริเริ่ม 2.ความสำเร็จในการดำเนินงานของ ศดปช. 3. ความสามารถในการบริหารจัดการ 4. การมีส่วนร่วมของสมาชิก และ 5. ความมั่นคง ยั่งยืน
ทั้งนี้ ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน เป็นเครือข่ายด้านดินและปุ๋ยของกรมส่งเสริมการเกษตร แหล่งเรียนรู้และส่งเสริมการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต บริการตรวจวิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจสอบ N P K และ pH ในดินแบบรวดเร็ว บริการงานวิชาการ จัดกระบวนการเรียนรู้ด้านดินและปุ๋ย พร้อมจัดทำแปลงเรียนรู้ และจุดสาธิตให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แปลงใหญ่กล้วยน้ำว้า เพชรบุรี วางแผนกู้วิกฤต
นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร เช่นเดียวกับเกษตรกรแปลงใหญ่กล้วย หมู่ 2,3,6
กรมส่งเสริมการเกษตร ยกชุมพร “เมืองมะพร้าวคุณภาพ” สร้างมาตรฐานเกิดทั้งจังหวัด
มะพร้าว ยังคงเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ มีพื้นที่ปลูกโดยรวมทั้งประเทศ 862,718 ไร่ โดยให้ผลผลิตแล้วเนื้อที่ 834,000 ไร่ ผลผลิตออกสู่ตลาด 842,306 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1,010 กิโลกรัมต่อไร่ สร้างมูลค่ากว่า 6,887 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการเกษตร ดัน 'กาแฟบ้านมณีพฤกษ์' สู่แปลงใหญ่ เพิ่มรายได้เกษตรกร
กรมส่งเสริมการเกษตร เข้าพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านมณีพฤกษ์ สู่แปลงใหญ่กาแฟบ้านมณีพฤกษ์ และมุ่งเป้าพัฒนาสู่เกษตรมูลค่าสูง ภายใต้แนวคิด ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม
แปลงใหญ่ผักบ้านบางท่าข้าม สุราษฎร์ธานี ผลิตพืชผักคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สร้างรายได้สู่ชุมชนกว่า 4 ล้านบาทต่อปี
นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2558 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายสำคัญในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตรดันฉะเชิงเทราเป็นแหล่งผลิตมะม่วงคุณภาพดี ส่งเสริมการรวมกลุ่มแปลงใหญ่ พัฒนาเป็นผลไม้อัตลักษณ์ ก้าวสู่สินค้า GI
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า มะม่วงเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากมีรสชาติดี
กรมส่งเสริมการเกษตรสนับสนุนต้นพันธุ์เบญจมาศสะอาด ส่งเสริมสมาชิกแปลงใหญ่ จ.อุบลฯ
แปลงใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับบ้านตาติด จ.อุบลราชธานี ขยายพื้นที่ปลูกเบญจมาศมากขึ้น หลังตลาดอีสานขยายตัว ทำให้ต้องการต้นพันธุ์ดีจำนวนมาก ด้านกรมส่งเสริมการเกษตรโดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 5