วันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมต้อนรับ ณ สำนักงานใหญ่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อ.วังจันทร์ จ.ระยอง
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายสำคัญในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี มาอย่างต่อเนื่อง และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลงในปัจจุบัน ทำให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะที่จังหวัดระยองถือเป็นหนึ่งในจังหวัดเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดในพื้นที่อีอีซีผ่านโครงการต่างๆ เช่น ม.33 เรารักกัน โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ 29 จังหวัด โครงการเยียวยาฯ สถานบันเทิง เอสเอ็มอี ฉีดวัคซีน และโครงการแฟคทอรี่แซนด์บ็อกซ์ รวมเม็ดเงินช่วยเหลือกว่า 19,789 ล้านบาท
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการผลิตกำลังคนเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่อีอีซีนั้น กระทรวงแรงงานได้จ้างงานกว่า 1 แสนตำแหน่ง นอกจากนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยังมีศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะทาง MARA เพื่อฝึกกำลังคนในสาขาเทคโนโลยีการผลิต อัจฉริยะและหุ่นยนต์ จ.ชลบุรี รวมทั้งมีหลักสูตรฝึกอบรมรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S- curves) จำนวน 3,247 หลักสูตร เพื่อผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ อาทิ รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โครงการ PPP ร่วมทุนจากรัฐบาลและเอกชน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ มีทักษะฝีมือ มีงานทำ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางอีกด้วย
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานปัจจุบันในพื้นที่อีอีซี จังหวัดระยองมีผู้ประกันตนทั้งสิ้น 656,813 คน สถานประกอบการ 9,248 แห่ง จังหวัดชลบุรีมีผู้ประกันตนทั้งสิ้น 1,205,778 คน สถานประกอบการ 21,778 แห่ง และจังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ประกันตนทั้งสิ้น 417,040 คน สถานประกอบการ 5,050 แห่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
"พิพัฒน์“ รุก! เพื่อแรงงาน เพิ่มรายได้กองทุนฯ พบบริษัทจัดการสินทรัพย์สวีเดน กางแผนผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 8 -10% ต่อปี เพื่อกองทุนยืน
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี
‘พิพัฒน์’ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก ! ระบบบำนาญสวีเดน สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ
มื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) รวมถึงผู้บริหาร
'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน