ปธส. รุ่นที่ 10 ประชุมวิชาการ 'Sustainable Management and Collaboration for Climate Change in Action'

วันนี้ (15 กรกฎาคม 2566) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) จัดประชุมวิชาการ “Sustainable Management and Collaboration for Climate Change in Action” ภายใต้หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 10 (ปธส.10) เพื่อเสริมศักยภาพผู้นำการเปลี่ยนแปลงและเป็นต้นแบบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการสิ่งแวดล้อมทุกภาคส่วน ซึ่งได้รับเกียรติจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาร่วมเสวนา ในหัวข้อ “Sustainable Management and Collaboration for Climate Change in Action” โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม คณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้ได้รับเกียรติเป็นผู้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “Sustainable Management and Collaboration for Climate Change in Action” มีสาระสำคัญ ได้แก่ แนวทางการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ Net zero emission ของแต่ละภาคส่วน ความร่วมมือเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายควรเป็นอย่างไร และ Collaboration to net zero จะพลิกโฉมประเทศไทยได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาเวทีการประชุมในระดับโลกและระดับภูมิภาค ได้หยิบยกปัญหาโลกร้อนมาเป็นประเด็นสำคัญ รวมถึงประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง มีค่าดัชนีความเสี่ยงด้านภูมิอากาศโลก (Global Climate Risk Index : CRI) เป็นลำดับที่ 9 ของโลก ดังนั้นการเสวนาในวันนี้จึงมีความสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพครบทุกมิติ เดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 และที่สำคัญการจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นรูปแบบคาร์บอนนิวทรัลอีเว้นท์ (Carbon Neutral Event) โดยชดเชยการปล่อยคาร์บอนจากการจัดกิจกรรมด้วยคาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER อีกด้วยนอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายทบทวน ปรับบทบาท ภารกิจและโครงสร้างของหน่วยงาน เสนอเปลี่ยนชื่อ “กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม” เป็น “กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” โดยนำภารกิจของกองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ ผนวกรวมกับภารกิจของ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีจุดแข็งด้านการสร้างจิตสำนึก สร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มขีดความสามารถของประชาชน มีฐานเครือข่ายความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงมีการศึกษา วิจัย พัฒนาสารสนเทศ และถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนชื่อ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็น กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม แล้วเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 และในวันนี้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการเปิดศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ณ ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 2 อาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลาง บูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลของทุกจังหวัด รวบรวมข้อมูลการลดและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ เป็นศูนย์เรียนรู้และสื่อสารข้อมูลองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเป็นศูนย์ติดตาม การพยากรณ์และคาดการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การที่จะบรรลุเป้าหมายได้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงนักศึกษา ปธส.10 ที่จะมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและเป็นต้นแบบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ กล่าวทิ้งท้าย

*******************

ขอบคุณที่พิจารณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : กลุ่มสื่อสารสิ่งแวดล้อม กองส่งเสริมและเผยแพร่ /กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
โทรศัพท์ : 0-2298-5630, 0-2278-8400 ต่อ 1555-1556

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ดร.เฉลิมชัย” ชูโครงการธรรมจักรสีเขียว สร้าง “วัดต้นแบบ” - เพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศ

ป่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง รวมถึง “พระพุทธศาสนา” ที่มีความสัมพันธ์กับป่าไม้อย่างลึกซึ้ง

'ประเสริฐ' แจงม็อบพีมูฟ ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ที่ทำกินให้คนอยู่กับป่าได้

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ) นำโดย นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานและที่ปรึกษาพีมูฟ รวมตัวจัดกิจกรรมคัดค้านการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

ครม. ไฟเขียวร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ยันไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกา โครงการอนุรักษ์ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ มาตรา 64

ชาวบ้านลุกฮือ ค้าน พรฎ.ของกรมอุทยานฯ ชี้สร้างความขัดแย้งชุมชนกับภาครัฐ

ชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.แม่ฮ่องสอน ได้ทำหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อขอให้ยกเลิกการออกพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ

ฉีกสัญญาพีมูฟ 'กรมอุทยาน' ดันร่างกม.ลูกเข้า ครม.ส่อพิพาทป่าทับคนรุนแรงขึ้น

ส่อความขัดแย้งเพิ่ม พีมูฟเบรกร่างกม.ลูกกรมอุทยานฯ เข้า ครม . ชี้ยิ่งจุดชนวนสร้างข้อพิพาทป่าทับคนรุนแรงขึ้น  

เตรียมรับมือหมอกควัน-ฝุ่นพิษ 2568

ใกล้จะเข้าสู่ฤดูกาลฝุ่นช่วงเวลาที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะเริ่มสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาประเมินช่วงหลังวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีฝนที่ลดลง และจะมีมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย