สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จัดงาน เวที “สานพลัง สร้างนวัตกรรม สู่สุขภาวะชุมชนที่ยั่งยืน” ปี 2566 วาระ : พลังชุมชนท้องถิ่น ตอบโจทย์ประเทศ โดยมี นพ.โกเมนทร์ ทิวทอง รองผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ดร.ภูนท สลัดทุกข์ เลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เข้าร่วม ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชนกล่าวในการบรรยาย “ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะแนวใหม่” ว่า สสส. โดยแผนสุขภาวะชุมชน ปรับวิธีการทำงานแนวใหม่ โดยมองภาพงานแบบองค์รวมขยายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น และเอกชน เพื่อให้เกิดการขยายทรัพยากรในการทำงาน บูรณาการสร้างเสริมสุขภาวะในประเด็นต่าง ๆ ร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง อาทิ สุรา ยาสูบ อุบัติเหตุ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางด้านอาหาร เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการส่งต่อกลไกทำงานร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย เกิดห่วงโซ่ผลลัพธ์ในการกำหนดมาตรการในการสร้างเสริมสุขภาพ ปัจจัยที่ส่งผลต่อตัวกำหนดสุขภาพ ตัวกำหนดสุขภาพ สู่สุขภาวะที่ดี ทั้งด้านวิถีชีวิตและพฤติกรรมของแต่ละคน ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคมและกายภาพ
“ตำบลสุขภาวะ ชุมชนสุขภาวะ ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง ด้วย “ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น: S-2I (เอสทูไอ) S คือ จัดการพื้นที่ Systematization "คน- กลไก-ข้อมูล” I คือ การสร้างและพัฒนานวัตกรรมชุมชน และบูรณาการภายในชุมชนท้องถิ่น และหน่วยงานสนับสนุนภายนอก หนุนเสริม “ยุทธศาสตร์สาน 3 พลัง ของ สสส. คือ พลังปัญญา พลังสังคม พลังนโยบาย ด้วยกิจกรรมเชิงยุทธศาสตร์ 1. การจัดการพื้นที่ 2. การสร้างและพัฒนานวัตกรรมชุมชน 3. การบูรณาการภายในชุมชนท้องถิ่น และร่วมมือกับหน่วยงานสนับสนุนจากภายนอก ร่วมกับการสรุปบทเรียนจากประสบการณ์ร่วม การสร้างสังคมสุขภาวะแนวใหม่ ต้องเปลี่ยนฐานคิด เปลี่ยนวิธีคิด ด้วย 3 สร้าง คือ สร้างการเรียนรู้ สร้างการมีส่วนร่วม และสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น”ดร.ประกาศิต กล่าว
นพ.โกเมนทร์ ทิวทอง รองผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ สธ. กล่าวว่า มิติใหม่ของการถ่ายโอน รพ.สต. ไปที่ อบจ. ในความดูแลของท้องถิ่น คือการมี Community care บริการที่ใกล้บ้าน ที่สามารถเข้าถึงได้ เน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เป็นบริการที่ตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน เกิดการดูแลกันในสังคม ให้ชุมชนมีความสามารถในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น โดยใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ที่เริ่มจากผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน เดินหน้าการทำงานระบบสุขภาพที่ครอบคลุม ในระดับปฐมภูมิ สร้างความเท่าเทียมในการรักษาพยาบาล ยกระดับการดูแลรักษาด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการเข้าถึงการรักษา เมื่อมีการถ่ายโอนจะต้องมีการแบ่งหน้าที่ถึงบทบาทองค์กรท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมทำงานพัฒนาแผนสุขภาพอย่างเป็นระบบ เป็นประโยชน์ต่อสุขภาวะชุมชนอย่างสูงสุด
นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า การปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินภารกิจด้านสาธารณสุขของ อปท. พัฒนาสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนให้มีสุขภาพที่ดี รวมถึงการจัดการบริการสาธารณสุขระดับท้องถิ่น รพ.สต. เป็นสถานพยาบาลในระบบสุขภาพปฐมภูมิที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นด่านหน้า ของบริการสุขภาพในชุมชนท้องถิ่น เช่นเดียวกับ อปท. ที่เป็นด่านหน้าของระบบสาธารณะที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่เช่นกัน การถ่ายโอน รพ.สต. จึงเป็นสิ่งที่องค์การต่าง ๆ ทั้งด้านสุขภาพ สาธารณสุข อปท. จะต้องร่วมมือ สานพลัง ให้เกิดหน่วยสุขภาพที่มีประสิทธิภาพในท้องถิ่น ผลักดันให้เกิดนโยบายขับเคลื่อนงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ บูรณาการส่วนต่าง ๆ นำไปสู่นโยบายภาครัฐที่ยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต