ก.แรงงาน จับมือกองทัพเรือ พัฒนาทักษะทหารกล้า สร้างทักษะด้านอาชีพ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานมีความพยายามแก้ไขมาโดยตลอด กลุ่มทหารจึงเป็นอีกเป้าหมายที่ควรได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อป้อนตลาดแรงงาน ล่าสุดได้มอบหมายให้นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมหารือกับพลเรือเอก โกวิท อินทร์พรหม ประธานกรรมการพัฒนาอาชีพทหารกองประจำการ กองทัพเรือ ในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ทหารกองประจำการและก่อนปลดประจำการ ณ ห้องประชุม กรมจเรทหารเรือ อาคาร 5 พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร นางสาวบุปผา เรืองสุด ได้กล่าวภายหลังการหารือว่า ทหารเกณฑ์เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากนายจ้างและสถานประกอบกิจการ มีความต้องการรับทหารเข้าทำงานหลังปลดประจำการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีระเบียบ วินัยดี และมีความอดทน เมื่อได้รับการพัฒนาทักษะแล้ว จะมีฝีมือที่ได้มาตรฐานสามารถทำงานที่สอดรับกับความต้องการของสถานประกอบกิจการได้

นางสาวบุปผา เรืองสุด กล่าวต่อว่า การหารือการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ทหารกองประจำการและก่อนปลดประจำการของกองทัพเรือในครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะจัดฝึกอบรมให้แก่ทหารเรือในสาขาอาชีพต่าง ๆ เช่น ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อให้มีงานทำหลังปลดประจำการ รวมถึงระหว่างที่ประจำการก็สามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปซ่อมแซมเครื่องมืออุปกรณ์ในหน่วยงาน เป็นทีมช่างให้บริการประชาชน หรือช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดอุทกภัยและวาตภัยได้ และพัฒนาทักษะทางด้านช่างให้แก่ครูฝึกของกองทัพเรือ เพื่อเป็นวิทยากรต้นแบบในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ทหารเรือในรุ่นต่อไป และเพื่อขยายผลในการถ่ายทอดความรู้ไปยังประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีการลงนามความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานเพื่อให้ความร่วมมือมีความเข้มแข็งมากขึ้น และส่งผลดีต่อทหารเรือได้มีอาชีพหลังปลดประจำการ ตอบโจทย์การจ้างงานของนายจ้างและสถานประกอบกิจการ ที่ผ่านมาในช่วงระหว่างปี 2564-2566 กรมได้จัดฝึกอบรมให้แก่ทหารเรือในพื้นที่ต่าง ๆ ไปแล้ว จำนวน 349 คน มีงานทำร้อยละ 69.53 โดยนำความรู้ไปประกอบอาชีพทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมรวมถึงเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการ และมีรายได้เฉลี่ย 9,794 บาทต่อเดือน หลักสูตรที่จัดอบรมให้ทหารเรือไปแล้ว เช่น ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างสีอาคาร ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ช่างปูกระเบื้อง การขับรถโฟล์คลิฟท์อย่างปลอดภัยและถูกวิธี เป็นต้น

"ความร่วมมือของทั้ง 2 หน่วยงาน จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารเรือหลังปลดประจำการให้ดีขึ้น มีความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ความร่วมมือนี้เป็นเครื่องการันตีการดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สถานประกอบกิจการได้อย่างแน่นอน” นางสาวบุปผา กล่าวในท้ายสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย

รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย

ทร. เตรียมจัดเสวนาเรื่องเส้นเขตแดนทางทะเล ปม MOU 44 หวังสื่อสารให้สังคมเข้าใจ

พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวภายหลังทำพิธีวันสถาปนากองทัพเรือ ครบรอบ 118 ปี เมื่อถามว่า อดีต ผบ.ทร. ได้ฝากถึงกรณี MOU 44

"พิพัฒน์“ รุก! เพื่อแรงงาน เพิ่มรายได้กองทุนฯ พบบริษัทจัดการสินทรัพย์สวีเดน กางแผนผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 8 -10% ต่อปี เพื่อกองทุนยืน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

‘พิพัฒน์’ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก ! ระบบบำนาญสวีเดน สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ

มื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) รวมถึงผู้บริหาร

'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน