เปิดแล้ว “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023” ชมเครื่องจักรรุ่นใหม่กว่า 2,000 แบรนด์ พร้อมงาน “ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023” ยกเครื่ององค์ความรู้ยานยนต์สมัยใหม่

เปิดแล้ว มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo) 2023”  พร้อมกับงาน “ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023” อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เชิญชวนนักอุตสาหการทุกแขนง เข้าชม 8 งานแสดงสินค้าเฉพาะทาง  และพื้นที่พาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ชมสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องจักรและบริการล้ำสมัยกว่า 2,000 แบรนด์จาก 30 ประเทศ พร้อมจับมือหน่วยงานภาครัฐ จัดองค์ความรู้ 5 ฟอรั่มใหญ่ รวมกว่า 50 หัวข้อสัมมนา คาดคนชมงานไม่ต่ำกว่า 70,000 คน

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023 และงาน ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023 “พลิกโฉมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันยานยนต์ กับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ที่ได้จัดงานร่วมกันมาปีนี้เป็นปีที่ 10 และเป็นปีที่สถาบันยานยนต์ครบรอบปีที่ 25 ว่า การจัดงานในลักษณะ 8-in-1 Mega Event ที่อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ได้นำอุตสาหกรรมการผลิตเฉพาะทาง 5 งาน พร้อมด้วยงานเพื่ออุตสาหกรรมสนับสนุนอีก 3 งานมาจัดแสดงรวมกันภายใต้มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน หรือ “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023” ในปีนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะขนาดของงานที่ใหญ่กว่าการจัดงานในปีก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมไทยทั้งในฝั่งผู้ผลิตและผู้นำเสนอเทคโนโลยี อีกทั้งความกระตือรือร้นของนักลงทุนต่างชาติที่มองเห็นโอกาสของธุรกิจด้วยการเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิตภายใต้แนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพใน Supply Chain โดยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการใช้หุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรกลอัตโนมัติ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการวางแผนและบริหารการผลิตแบบ real time โดยผลักดันการพัฒนาผ่านมาตรการต่างๆ มาโดยตลอด เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) กล่าวถึงงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo 2023) ว่า ได้เปิดให้เข้าชมงานแล้ววันนี้ (21 มิถุนายน) เป็นวันแรก และงานจะมีไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2566  โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ ‘The Path’ ที่หมายถึง ‘เส้นทาง’ ที่จะสื่อว่า นักอุตสาหการที่มาเยี่ยมชมงานนี้ จะได้พบกับ ‘เส้นทาง’ สู่ความสำเร็จ ซึ่งการจัดแสดงงานในปีนี้ มีผู้แสดงสินค้าชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลังจากห่างหายไม่สามารถมาร่วมงานได้เป็นเวลาสองปี ทำให้ผู้เข้าชมงานในปีนี้ มีโอกาสได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากหลายประเทศ รวมทั้งในพาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง

ภายในงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป จะมีด้วยกัน 8 งานแสดง และยังมีพื้นที่ส่วนแสดงพิเศษ ได้แก่ “Sustainovation Showcase”  แสดงกระบวนการผลิตสินค้าพลาสติกชีวภาพ “EV Conversion Zone” จัดแสดงการเปลี่ยนยานยนต์สันดาปภายในดั้งเดิมเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมเปิดตัวรถวิ่งไปชาร์จไปในตัว และพบต้นตำรับที่ชาร์จรถยนต์ไร้สายของไทย “Service Robot Zone” จัดแสดงหุ่นยนต์ภาคบริการเชิงพาณิชย์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำและชมการสาธิตชงม็อกเทลสูตรพิเศษโดยบาร์เทนเดอร์ Cobot  “GFT Industry Mind Map” จัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักรสุดล้ำเพื่อใช้ผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ การตกแต่งภายใน โรงงานอุตสาหกรรม และยานยนต์ “Fashion Showcase” จัดแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น “GFT Display” จัดแสดงชุดคอสตูมที่ผลิตขึ้นจากวัสดุของผู้แสดงสินค้า ภายใต้การออกแบบของโรงเรียนบุนกะแฟชั่น (BUNKA Fashion School)  “Printing Tech Talks” เวทีพูดคุยแนะนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันค้นหาสุดยอดช่างเชื่อม ใน IPC Hand Soldering & Rework Competition เพื่อหาผู้ชนะไปแข่งในสนามระดับโลก พร้อมกับรับชมเนื้อหา เทคโนโลยี และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาจัดแสดง ทั้งผู้ให้บริการในส่วนแสดงพิเศษ “Tools & Tooling Zone” และ “Metrology Zone” รวมถึงพื้นที่สัมมนาทางวิชาการที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน 5 ฟอรั่มกับหัวข้อสัมมนากว่า 50 หัวข้อที่จะเป็นองค์ความรู้สำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาอีกด้วย

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023 และงาน ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023 “พลิกโฉมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันยานยนต์ กับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ที่ได้จัดงานร่วมกันมาปีนี้เป็นปีที่ 10 และเป็นปีที่สถาบันยานยนต์ครบรอบปีที่ 25 ว่า การจัดงานในลักษณะ 8-in-1 Mega Event ที่อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ได้นำอุตสาหกรรมการผลิตเฉพาะทาง 5 งาน พร้อมด้วยงานเพื่ออุตสาหกรรมสนับสนุนอีก 3 งานมาจัดแสดงรวมกันภายใต้มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน หรือ “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023” ในปีนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะขนาดของงานที่ใหญ่กว่าการจัดงานในปีก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมไทยทั้งในฝั่งผู้ผลิตและผู้นำเสนอเทคโนโลยี อีกทั้งความกระตือรือร้นของนักลงทุนต่างชาติที่มองเห็นโอกาสของธุรกิจด้วยการเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก   

กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิตภายใต้แนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพใน Supply Chain โดยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการใช้หุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรกลอัตโนมัติ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการวางแผนและบริหารการผลิตแบบ real time โดยผลักดันการพัฒนาผ่านมาตรการต่างๆ มาโดยตลอด เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) กล่าวถึงงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo 2023) ว่า ได้เปิดให้เข้าชมงานแล้ววันนี้ (21 มิถุนายน) เป็นวันแรก และงานจะมีไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2566  โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ ‘The Path’ ที่หมายถึง ‘เส้นทาง’ ที่จะสื่อว่า นักอุตสาหการที่มาเยี่ยมชมงานนี้ จะได้พบกับ ‘เส้นทาง’ สู่ความสำเร็จ ซึ่งการจัดแสดงงานในปีนี้ มีผู้แสดงสินค้าชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลังจากห่างหายไม่สามารถมาร่วมงานได้เป็นเวลาสองปี ทำให้ผู้เข้าชมงานในปีนี้ มีโอกาสได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากหลายประเทศ รวมทั้งในพาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง

ภายในงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป จะมีด้วยกัน 8 งานแสดง และยังมีพื้นที่ส่วนแสดงพิเศษ ได้แก่ “Sustainovation Showcase”  แสดงกระบวนการผลิตสินค้าพลาสติกชีวภาพ “EV Conversion Zone” จัดแสดงการเปลี่ยนยานยนต์สันดาปภายในดั้งเดิมเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมเปิดตัวรถวิ่งไปชาร์จไปในตัว และพบต้นตำรับที่ชาร์จรถยนต์ไร้สายของไทย “Service Robot Zone” จัดแสดงหุ่นยนต์ภาคบริการเชิงพาณิชย์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำและชมการสาธิตชงม็อกเทลสูตรพิเศษโดยบาร์เทนเดอร์ Cobot  “GFT Industry Mind Map” จัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักรสุดล้ำเพื่อใช้ผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ การตกแต่งภายใน โรงงานอุตสาหกรรม และยานยนต์ “Fashion Showcase” จัดแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น “GFT Display” จัดแสดงชุดคอสตูมที่ผลิตขึ้นจากวัสดุของผู้แสดงสินค้า ภายใต้การออกแบบของโรงเรียนบุนกะแฟชั่น (BUNKA Fashion School)  “Printing Tech Talks” เวทีพูดคุยแนะนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันค้นหาสุดยอดช่างเชื่อม ใน IPC Hand Soldering & Rework Competition เพื่อหาผู้ชนะไปแข่งในสนามระดับโลก พร้อมกับรับชมเนื้อหา เทคโนโลยี และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาจัดแสดง ทั้งผู้ให้บริการในส่วนแสดงพิเศษ “Tools & Tooling Zone” และ “Metrology Zone” รวมถึงพื้นที่สัมมนาทางวิชาการที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน 5 ฟอรั่มกับหัวข้อสัมมนากว่า 50 หัวข้อที่จะเป็นองค์ความรู้สำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สศอ. ปลื้ม ขับเคลื่อนอุตฯ ฮาลาลไทยในปี พ.ศ. 2567 สร้างมูลค่าการค้า 335 ล้านบาท เสริมแกร่งไทย พร้อมขึ้นแท่น “ศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน” (ASEAN Halal Hub)

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงผลสำเร็จโครงการกิจกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2567 – 2570) ในปี พ.ศ. 2567