ปลัด มท. ควงนายกแม่บ้าน มท. นำทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรม "ผ้าไทยใส่ให้สนุก ร้อยหลาก พรรณราย ผ้าไทยนครพนม"

วันนี้ (10 พ.ค. 66) เวลา 14:40 น. ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก ร้อยหลาก พรรณราย ผ้าไทยนครพนม" โดยมี นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางสงวน จันทร์พร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครพนม นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ เด็ก เยาวชน และภาคีเครือข่าย ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน

ในโอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้เป็นประธานมอบโถสุขภัณฑ์ปันสุขให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 20 ท่าน ตามโครงการ "นครพนมโถสุขภัณฑ์ปันสุข ลุกนั่งปลอดภัย ใส่ใจผู้สูงอายุ" แล้วชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าของจังหวัดนครพนมในเพลงออนซอนนครพนม ประกอบด้วย ชนเผ่าภูไทเรณูนคร อำเภอเรณูคร, ชนเผ่าไทกะเลิง อำเภอนาแก, ชนเผ่าไทญ้อ อำเภอท่าอุเทน และชนเผ่าไทแสก อำเภอเมืองนครพนม การแสดงรำวงมหาดไทย โดยทีมชนะเลิศระดับจังหวัด จากอำเภอเรณูนคร และรับชมการแสดงเดินแบบ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" จากส่วนราชการ ภาคเอกชน กลุ่ม/องค์กรเครือข่าย นักเรียน นักศึกษา ในจังหวัดนครพนม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมยินดีกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และพี่น้องภาคีเครือข่ายผู้ร่วมงาน "ผ้าไทยใส่ให้สนุก ร้อยหลาก พรรณราย ผ้าไทยนครพนม" ในวันนี้ทุกท่าน ที่ได้แสดงออกถึงความเป็นผู้มีความรัก ความหวงแหน ความเสียสละ ในการสนองพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้ทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องชาวจังหวัดนครพนมและชาวไทยทุกคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วโดยทั่วกันว่า จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณนับเนื่องมาแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จวบจนถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงมีเป้าหมาย คือ การทำให้คนไทยทั้งมวลได้มีความสุข โดยประการแรก คือ ทรงอยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงขอให้ทุกท่านได้ภูมิใจว่า ท่านได้ร่วมสนองแนวพระราชดำริและพระดำริของทุกพระองค์ด้วยการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการช่วยเหลือพี่น้องชาวไร่ชาวนาที่ใช้เวลาว่างในการทำผ้าทุกประเภท ทำงานหัตถกรรมไทยทุกชนิด ให้มีรายได้ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ประการที่ 2 ท่านโปรดภาคภูมิใจว่า การที่ท่านได้เสียเวลา เสียสละ ในการให้ความสำคัญมาร่วมทำกิจกรรมในวันนี้ เป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านเครื่องนุ่งห่มแก่ประเทศชาติของเรา ซึ่งเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 อันได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่ม ที่มวลมนุษยชาติถือว่าสำคัญและตระหนักดีว่า "เครื่องนุ่งห่ม" เป็นความมั่นคงที่ชีวิตมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันถือว่าขาดไม่ได้

"การที่พวกเราได้อุดหนุนสวมใส่ผ้าไทยทำให้ภูมิปัญญาผ้าไทยยังคงอยู่ ซึ่งคำว่า "ภูมิปัญญาผ้าไทยให้คงอยู่" มีนัยสำคัญตรงกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานไว้ให้พวกเราทุกคนได้ตระหนักและ "พึ่งพาตนเอง" โดยเครื่องนุ่งห่มนอกจากเป็นความมั่นคงที่เป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่เราขาดไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้ know-how (ภูมิปัญญา) วิชาปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ปลูกฝ้าย ย้อมสีธรรมชาติ วิชาทอผ้ายังคงอยู่ และจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำให้ผ้าไทยเป็นเครื่องนุ่งห่มที่ทำให้ประเทศไทยเรามีความมั่นคงด้านเครื่องแต่งกาย เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีอุบัติภัย มีโรคระบาด หรือภัยใด ๆ เกิดขึ้นอีกหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการต่อลมหายใจให้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่เป็นความมั่นคงนี้ได้มีชีวิตต่อไปได้ เพราะทุกท่านได้ช่วยกันทำให้เด็ก เยาวชนคนรุ่นหลังได้เห็นถึงประโยชน์ ได้เห็นถึงคุณค่า และสานต่อสืบสานด้วยการมุ่งมั่นทำต่อไป" ปลัด มท. กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ทุกท่านได้ทำในวันนี้ ที่จังหวัดนครพนมแห่งนี้ เป็นการสนองพระราชดำริที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ทรงริเริ่มไว้เป็นแบบอย่างเมื่อปี 2513 ก่อกำเนิดเกิดศูนย์ศิลปาชีพแห่งแรกที่จังหวัดนครพนม และเป็นต้นแบบของศูนย์ศิลปาชีพในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และการที่พวกเราทุกคนได้ร่วมกันทำในวันนี้เอง เป็นการตอกย้ำทำให้รู้ว่า "ผ้าไทยทุกชนิดเป็นผ้าไทยใส่ให้สนุก" อันมีความหมายว่า ขอให้พวกเราได้ช่วยกันขบคิด ช่วยกันพัฒนาต่อยอดผ้าไทย ทั้งเรื่องของแบบ ลวดลาย สีสัน มาตลอดจนถึงการตัดเย็บให้เหมาะสมกับรสนิยม กับความต้องการของพี่น้องทุกเพศ ทุกวัย สอดคล้องกับกับโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทยว่า "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" คือ การสวมใส่ผ้าไทยได้อย่างมีความสุข ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส แล้วแต่ว่าพวกเราจะคิดนำไปประยุกต์ ดัดแปลง และพัฒนาให้เหมาะ ให้ถูกอกถูกใจกับผู้คน และขอให้กิจกรรมในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผ้าไทยของนครพนมมีความแข็งแรง เป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้จากผ้าไทยให้มั่นคง เกิดการต่อยอดสร้างสรรค์กิจกรรมลักษณะนี้ให้มีมากขึ้น เพื่อทำให้พี่น้องที่อยู่ในวันนี้ได้เป็นผู้นำในการ Change for good ให้เกิดขึ้นกับวงการแฟชั่นผ้าไทยของนครพนม และของประเทศไทยอย่างยั่งยืนสืบไป

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานหน้าที่ของสตรีไทย 4 ประการ คือ 1) พึงทำหน้าที่เป็น “แม่ที่ดีของลูก” ดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทั้งปวง ในยามอุ้มท้องต้องฝากครรภ์ดูแลครรภ์เพื่อให้ลูกแข็งแรง และเมื่อลูกคลอดมาแล้ว ก็เลี้ยงดูทะนุถนอมให้นมแม่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก ให้ความรัก ความอบอุ่น ดูแลให้ลูกหลานของเราได้เติบโตมีคุณภาพ ได้รับการศึกษา เป็นคนดีของสังคม 2) พึงเป็น “แม่บ้าน” ทำหน้าที่ดูแลบ้านของเราให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำให้บ้านมีความน่าอยู่ของสมาชิกในครอบครัว ช่วยเก็บออมและเพิ่มพูนทรัพย์สินให้ครอบครัว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่คนรอบข้างตามสมควร 3) พึงพัฒนาตนเองให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง 4) สืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติไทยของเราให้สืบสานส่งต่อไปยังลูกหลานต่อไป ซึ่งทั้ง 4 ประการนี้ ล้วนเป็นหน้าที่สำคัญของสตรีทุกท่าน ซึ่งทุกท่านล้วนเป็นสตรีที่ทรงเกียรติ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือ การพัฒนาตนเองให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันสร้างชุมชนเล็ก ๆ สร้างบ้านของเรา สร้างชุมชนของเราให้เข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พี่น้องสตรีชาวจังหวัดนครพนมทุกท่าน ได้น้อมนำหน้าที่ของพวกเราทั้ง 4 ประการ ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อทำให้ชีวิตของพวกเราทุกคนได้ทำให้ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ได้มีแต่ความสงบสุข ร่มเย็น ด้วยพลังของสตรีไทย

"จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทรงริเริ่มทำให้ผืนผ้าไทยได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ที่บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จึงเป็นสิ่งที่พวกเราชาวนครพนมจะต้องร่วมกันในการสืบสานพระราชปณิธานนี้ ด้วยการน้อมนำพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาเป็นหน้าที่ของคนนครพนมทุกคนที่เราจะต้องสืบสาน รักษา ผ้าไทย ให้ได้รับการตกทอดสู่ลูกหลานของพวกเรา ทำให้ผืนผ้าไทย เป็นผืนผ้าแห่งความรัก ผืนผ้าแห่งความเสียสละ ผืนผ้าที่จะทำให้คนไทยทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" ดร.วันดีฯ กล่าวในช่วงท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

“ผู้ประกอบการ ราชบุรี” ชม “อนุทิน” ฟื้นกีฬาวัวลาน ให้แข่งตอนกลางคืน มั่นใจ เป็นงานเฟสติวัลระดับโลก

จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ให้การแข่งขันวัวลานจัดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเปิดการแข่งขันวัวลานที่

กมธ.ที่ดินฯ วืดสอบเขากระโดง องค์ประชุมไม่ครบ

กรรมาธิการ(กมธ.)ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดยนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ. , นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกกมธ

มท.2 คิ๊กออฟปล่อยคาราวานโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 69 จังหวัด

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณอาคารรังวัดและทำแผนที่ กรมที่ดิน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายสมเกียรติ กิจเจริญ คณะทำงานฯ

'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร

'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%