“สกลธี” ชูนโยบายเพิ่มเงินในกระเป๋า ยันไม่ใช่ประชานิยม แต่ดูแลกลุ่มเปราะบาง ชี้แจงที่มาของงบประมาณได้

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหาร และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนสะพานไม้ 1-2 ริมคลองบางบัว เขตหลักสี่ ร่วมกับ ดร.อนันตชาติ บัวสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.หมายเลข 8 เขต 9 เขตบางเขน (ยกเว้นแขวงท่าแร้ง) เขตจตุจักร (เฉพาะแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) เขตหลักสี่ (เฉพาะแขวงตลาดบางเขน)

โดยนายสกลธีกล่าวว่า ตนเข้าใจความเดือดร้อนของชาวชุมชนต่างๆ ในช่วงหลังโควิด เพราะทำมาค้าขายไม่คล่องเหมือนเดิม สินค้าแพงขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ถึงชุมชน พรรคพลังประชารัฐจึงเน้นออกนโยบายช่วยแก้ปัญหาปากท้องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องทุกคน เช่น การเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท พร้อมเพิ่มประกันชีวิตให้อีกคนละ 2 แสนบาท หากเกิดอะไรขึ้นมาคนที่อยู่ข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก และยังมีสิทธิ์กู้เงินเพื่อประกอบอาชีพได้อีกคนละ 5 หมื่นบาท ดอกเบี้ยถูก ไม่ต้องไปยุ่งกับเงินกู้นอกระบบ ส่วนผู้สูงอายุก็จะมีบำนาญเดือนละ 3,000-5,000 บาทเป็นขั้นบันได เอาไว้ดูแลตัวเองได้ ลูกหลานไม่ต้องส่งเสีย และยังเหลือเงินให้ค่าขนมหลานๆ ได้ด้วย

นายสกลธีกล่าวต่อว่า ในส่วนของราคาพลังงาน หากไม่ทำอะไรราคาก็จะขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เติมน้ำมันมอเตอร์ไซค์ครั้งละ 100-200 บาท ใช้แป๊บเดียวหมด ก๊าซถังหนึ่งอย่างต่ำก็ 480 บาท ลุงป้อมและพรรคพลังประชารัฐรู้ความเดือดร้อนของพี่น้อง จึงจะลดราคาพลังงานทั้งระบบทันทีที่เป็นรัฐบาล เบนซินลด 18 บาท ดีเซลลด 6.80 บาท ก๊าซ 15 กิโลเหลือถังละ 250 บาท ไม่ต้องใช้เงินภาษี แค่ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันและปรับโครงสร้างราคาบางส่วน ในส่วนของค่าไฟฟ้า ตอนนี้หน่วยละเกือบ 5 บาท ถ้าพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล อย่างน้อยลดลงมาแน่หน่วยละ 1-2 บาท

“ทั้งหมดนี้จะไปเพิ่มเงินในกระเป๋า ให้ทุกคนเหลือเงินนำไปใช้ซื้อของอย่างอื่น ซึ่งไม่ใช่นโยบายประชานิยม ไม่ได้แจกเงินหว่านให้ทุกคนแบบไม่ผ่านการคิดอะไร แต่นี่เป็นสวัสดิการสำหรับกลุ่มเปราะบาง สำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐจริงๆ พรรคพลังประชารัฐคิดมาแล้วว่าทำได้จริง และจะมีการแสดงที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ทำนโยบายเหล่านี้แน่นอน”

นายสกลธีกล่าวอีกว่า พื้นที่เขตหลักสี่นี้เป็นพื้นที่เก่าที่ตนเคยเป็น ส.ส.มาในปี 2550 มีความผูกพันกับคนในพื้นที่มานาน ตนจึงเลือกคนที่ไว้ใจได้มาดูแลพื้นที่ต่อ ซึ่ง ดร.อนันตชาติ บัวสุวรรณ เคยเป็น ส.ก.มา 2 สมัย คุ้นเคยกับการดูแลพื้นที่ หากได้รับโอกาส พี่น้องเขตหลักสี่เรียกใช้ได้คล่องแน่นอน จึงขอฝาก ดร.อนันตชาติ บัตรสีม่วง เบอร์ 8 และพรรคพลังประชารัฐ บัตรสีเขียว เบอร์ 37 ด้วย

ด้าน ดร.อนันตชาติ บัวสุวรรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 หมายเลข 8 กล่าวว่า ตนเป็น ส.ก.เขตจตุจักรมา 2 สมัย ลงพื้นที่มาตลอด ครั้งนี้มีการแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่มาพ่วงกับแขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ และแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน ที่ผ่านมาตนก็พบปะคุ้นเคยกับพี่น้องหลายๆ คน จึงมาขอโอกาส หากตนได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.จะติดตามดูแลปัญหาปากท้อง และไม่ให้ห้างร้านต่างๆ ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบพี่น้องในชุมชนแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟิล์ม-รัฐภูมิ ยื่น กกต.ไขก๊อกพ้นสมาชิก พปชร. ‘ไพบูลย์’ ชี้เรื่องส่วนตัวไม่กระทบพรรค

เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังไม่รู้ว่าเขาผิดหรือเขาถูก เพราะเราไม่เกี่ยวข้อง และเรื่องนี้ไม่กระทบกับภาพลักษณ์พรรค ไม่ทำให้เรามีปัญหา

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้

ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การ​บริหาร​ส่วน​จังหวัด​ (อบจ.)​ อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก

'ลุงป้อม' ร่วมลอยกระทง อวยพรคนไทย สุขสมหวัง สิ่งใดไม่ดีขอให้หลุดพ้น

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ พล.ต.ท ปิยะ

'ทักษิณ' คุยเลือกตั้งครั้งหน้า 'เพื่อไทย' กวาด สส. ไม่ต่ำกว่า 200 ที่นั่ง

"ทักษิณ" ประกาศถ้าเจอพ่อค้าเสพติดช่วยบอกว่าทักษิณกลับมาแล้ว ยัน รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม ชวนคนเสื้อแดงสีตกใส่กลับมา โว คราวหน้า ไม่มีแพ้ ไม่ต่ำกว่า 200 เสียง พร้อม เสนอตัวเอง ใช้สมองช่วยประเทศฟื้นจากความลำบาก