ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยผลงานกระทรวงแรงงานโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีการจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนจากการจ้างงานเป็นเงินทั้งสิ้น 261,241,791.04 บาท ลูกจ้าง 18,912 ราย
นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงาน หรือตาย หรือในกรณีอื่นตามที่กำหนดโดยมีคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นผู้บริหาร ซึ่งเงินสงเคราะห์ของกองทุนดังกล่าวจะจ่ายให้กับลูกจ้างที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย หรือนายจ้างไม่สามารถจ่ายค่าจ้าง หรือเงินอื่นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แต่ไม่รวมถึงทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตายที่ได้ยื่นคำร้องทุกข์ไว้ โดยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการกองทุนฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินสงเคราะห์ เป็นเงินทั้งหมด 261,241,791.04 บาท มีลูกจ้างที่รับเงินสงเคราะห์ 18,912 ราย แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีค่าชดเชย จำนวน 11,337 ราย เป็นเงิน 172,713,835.16 บาท และ 2.กรณีอื่นนอกจากค่าชดเชย จำนวน 7,575 ราย เป็นเงิน 88,527,955.88 บาท สำหรับในส่วนการรับชดใช้เงินคืน/เงินรับคืนกองทุนฯ จำนวน 59,839,406.18 บาท และดอกเบี้ยเงินสงเคราะห์ จำนวน 4,477,061.53 บาท
ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า เงินสงเคราะห์ลูกจ้างจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ซึ่งกองทุนฯ จะจ่ายเงินสงเคราะห์ 2 กรณี คือ 1.เงินสงเคราะห์ในกรณีที่นายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมาย โดยจะจ่ายเงินสงเคราะห์ให้บางส่วน หรือไม่เต็มสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด คือจ่ายให้ ลูกจ้างผู้ขอรับเงินสงเคราะห์ในอัตรา 30 เท่า หรือ 60 เท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันที่ลูกจ้างพึงได้รับ และ 2.เงินสงเคราะห์ในกรณีอื่นนอกจากค่าชดเชย เช่น ค่าจ้างค้างจ่าย ฯลฯ จะให้การสงเคราะห์เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุนฯ สำหรับอัตราเงินที่จะจ่ายให้แก่ลูกจ้างจะจ่ายในอัตราไม่เกิน 60 เท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันของลูกจ้างที่พึงได้รับตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. 2541 ทั้งนี้ หากนายจ้าง ลูกจ้าง มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02–660-2059 กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กองคุ้มครองแรงงาน หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิพัฒน์' รมว.แรงงาน ห่วงทายาทพนักงานกวาดถนนเทศบาลนครอ้อมน้อย ประสบเหตุถูกรถกระบะชนเสียชีวิต 2 ราย มอบประกันสังคม จ่ายเงินทดแทนกรณีตายในงาน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบหมายให้ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ
"พิพัฒน์" ขออภัย APP SSO PLUS กู้เพื่อที่อยู่อาศัย ล่ม ! สั่งการปลัดฯ เร่งแก้ไข เกาะติดหลังผู้ประกันตนแห่ลงทะเบียน 1 พ.ย.67
1 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงโรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ “
"พิพัฒน์" แสดงความเสียใจ 4 แรงงานเสียชีวิตในอิสราเอล สั่งการปลัดประสานเอกอัคราชทูต อพยพแรงงานภาคเหนือ ไปทางภาคใต้ของอิสราเอล ด่วน
1 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ออกมาแสดงความเสียใจ กรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า
“พิพัฒน์” ย้ำ ในเวทีรัฐมนตรีอาเซียน แรงงานไทยรุ่นใหม่ มีทักษะ รองรับงานท่องเที่ยว เทคโนโลยี เกษตรอัจฉริยะ พร้อมเป็นเจ้าภาพ ปี 69 ต่อจากสิงคโปร์
วันที่ 31 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน
"พิพัฒน์” ห่วงใย เหตุการณ์ลูกจ้างถูกปั้นจั่นเฉี่ยวเสียชีวิตที่สมุทรปราการ มอบประกันสังคมเยียวยาทายาท 9.5 แสนบาท
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุลูกจ้างถูกปั้นจั่นเฉี่ยวชนเสียชีวิตในพื้นที่จัดเก็บสินค้าของการบินไทย บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์
ให้ไว!! ‘พิพัฒน์’ ชวนแรงงานอยากมีบ้าน ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน วงเงินไม่เกินคนละ 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ เข้า App SSO Plus ขอสินเชื่อ เริ่ม 1 พ.ย.นี้
วันที่ 29 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงข่าวดีสำหรับพี่น้องแรงงานที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง หรือเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย