กรมจัดฯ ส่งอีกเกือบ 300 บินเกาหลี- อิสราเอล ถูกกฎหมาย

วันที่ 28 มีนาคม 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมให้โอวาทแก่แรงงานไทย จำนวน 241 คน ที่เข้ารับการอบรมก่อนเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ตามโครงการ EPSและภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ TIC ณ ห้องอบรมคนหางานก่อนไปทำงานต่างประเทศ ชั้น 11 อาคารสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 เขตดินแดง กรุงเทพฯ

นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า ในปี 2566 ประเทศไทยได้โควตาการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 4,400 คน โดยปีนี้ดำเนินการจัดส่งไปแล้ว 1,697 คน แยกเป็นประเภทงานภาคอุตสาหกรรม 1,061 คน ภาคการเกษตรและปศุสัตว์ 163 คน ภาคการก่อสร้าง 176 คน และเป็นแรงงานที่ได้รับการจ้างงานซ้ำ (Re-Entry) 297 คน สำหรับแรงงานไทยที่ผ่านการอบรมในวันนี้ เป็นแรงงานที่จะเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีและรัฐอิสราเอล รวมจำนวนทั้งสิ้น 241 คน แยกเป็นเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreign Workers: EPS) ในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรปศุสัตว์ จำนวน 133 คน และภาคเกษตรรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย - อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers: TIC) จำนวน 108 คน โดยอธิบดีกรมการจัดหางาน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนที่จะเดินทางไปทำงาน พร้อมมอบโอวาทแก่แรงงานไทยให้ทุกคนตั้งใจทำงาน รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เรียนรู้วัฒนธรรมและปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่ไปทำงานอย่างเคร่งครัด เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงาน จดจำและนำกลับมาใช้ในประเทศไทยเพื่อช่วยพัฒนาประเทศ เมื่อครบสัญญาจ้างและเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว ความรู้และประสบการณ์ที่มีจะช่วยต่อยอดในการประกอบธุรกิจ หรือช่วยให้หางานทำได้ง่าย และยังสามารถถ่ายทอดความรู้ไปยังสมาชิกในครอบครัว หรือคนในชุมชนได้ด้วย

นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรมคนหางานก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จะได้ทราบวิธีเตรียมความพร้อมด้านบุคลิกภาพเพื่อการทำงาน ข้อปฏิบัติขณะเดินทางไปทำงาน การอยู่ร่วมกับนายจ้างและเพื่อนร่วมงานในต่างประเทศ ความรู้เกี่ยวกับงาน สัญญาจ้างงาน สภาพการจ้างงาน การปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน การบริหารและจัดการรายรับ รายจ่าย รวมถึงวัฒนธรรมประเพณี และกฎหมายของประเทศที่จะไปทำงาน เป็นต้น ซึ่งการอบรมคนหางานเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่แรงงานทุกคนที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายต้องเข้าร่วม หากทุกคนนำสิ่งที่ได้จากการอบรมไปปฏิบัติจะเป็นประโยชน์กับตัวเอง ครอบครัว และชื่อเสียงของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้การจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในรุ่นต่อ ๆ ไป ไม่เกิดปัญหาและมีจำนวนมากขึ้นทุก ๆ ปี

“ผมขอประชาสัมพันธ์ให้คนไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมี 5 วิธี คือ 1.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 2.กรมการจัดหางานจัดส่ง 3.เดินทางด้วยตัวเอง 4.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานในต่างประเทศ และ5.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานในต่างประเทศ เพราะจะทำให้แรงงานไทยสามารถทำงานได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องหลบซ่อน ได้รับการคุ้มครองตามหลักสากลและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการประกาศรับสมัครได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th/overseas และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมการจัดหางาน จัดงานใหญ่แห่งปี “JOB EXPO THAILAND 2024 - มหกรรมหางานสร้างรายได้ที่สนุกที่สุด” พบตำแหน่งงานร่วม 700,000 อัตราจากบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

กรุงเทพมหานคร, วันที่ 28 -30 มิถุนายน 2567 เวลา 11.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (HALL 6-7) กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จัดงานใหญ่แห่งปี “JOB EXPO THAILAND 2024

“พิพัฒน์” ช่วยลูกจ้างถูกเลิกจ้าง ขยายเพดานยกเว้นภาษีค่าชดเชย เป็น 6 แสนบาท ใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค. 66

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติสำเร็จ ผลักดันกฎหมายช่วยลูกจ้างเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้าง

ข่าวดี! รับสมัครด่วน ทำงานเกาหลี เดือนละ 5.79 หมื่นบาท

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอแจ้งข่าวดี โอกาสมาถึงแล้ว สำหรับแรงงานไทยที่ต้องการทำงานภาคประมงตามฤดูกาล ด้วยวีซ่า E – 8

“อารี” ประธาน เปิดงานสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ย้ำเสริมสร้างวินัยการออม เป็นแหล่งเงินกู้ไว้ใช้เมื่อจำเป็น

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน