สังคมอย่างไทย..ในวันนี้ มีปรากฏการณ์ที่มองข้ามความจริงมิได้ว่า "วัยแรงงาน" ต้องรับภาระการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น
ประเด็น..การสร้างประสิทธิภาพในการรับมือต่อปัญหาที่หนีไม่พ้น เลี่ยงไม่ได้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อสุขภาวะของทุกวัยในสังคม ซึ่งการให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ โดยไม่ปล่อยให้ครอบครัวหรือผู้สูงอายุเผชิญปัญหาโดยลำพัง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ถือเป็นทางออก อีกทั้งยังเป็นหนทางในการพัฒนาเชิงรุกที่ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรง เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง ส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สุขภาวะในชุมชนหลากหลายมิติทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม สภาพแวดล้อม กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
มื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สานพลังภาคี สถาบันอาศรมศิลป์ คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล เทศบาลเมืองไร่ขิง อสม. ผู้นำชุมชน จัด Workshop สร้างจิตอาสาสร้างเสริมสุขภาพ ขับเคลื่อนต้นแบบพัฒนานวัตกรรมเสริมกิจกรรมทางกายผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงวัยคลายเหงา ช่วยกันปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษหน้าลานกว้างอาคารสูง 5 ชั้น ณ ชุมชนเอื้ออาทรสาย 5 จ.นครปฐม
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส.และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สสส.สานพลังสถาบันอาศรมศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, บริษัท สวนสามพราน จำกัด และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมบูรณาการ “แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานส่งเสริมสุขภาวะระดับพื้นที่” ที่ อ.พุทธมณฑล และ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 3 และ 5 สสส., ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนอาหารเพื่อสุขภาพ คณะที่ 5 สสส., ประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการแผนคณะที่ 5 สสส., นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร อดีตหัวหน้าทีมโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติประจำเอเชียและแปซิฟิก (UNAIDS), อ.ชนวน รัตนวราหะ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ, ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ คณะกรรมการ สสส., ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้เชี่ยวชาญการควบคุมยาสูบ และภาคีเครือข่าย ตลอดจนตัวแทนจาก รพ.น่าน รพ.บ้านแพ้ว เข้าร่วมกิจกรรม
คณะทำงานนำชมพื้นที่สุขภาวะต้นแบบดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชน ชุมชนบ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 นครปฐม ซึ่งมีอาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 1,232 ห้อง ผู้อาศัย 2,200 คน มีแปลงปลูกผักพืชสวนครัวปลอดสารพิษ เป็นเกษตรอินทรีย์บนพื้นที่ว่างโดยแบ่งให้ผู้สูงอายุช่วยกันดูแลเป็นการคลายความเหงา เนื่องจากวัยแรงงานออกไปทำงานและเด็กไปโรงเรียน ทั้งนี้นำวัสดุเหลือใช้ อาทิ หม้อหุงข้าว ถังน้ำ ท่อน้ำ ใช้ประโยชน์ในการปลูกใบย่านาง พริกขี้หนูสวน พริกกะเหรี่ยง ต้นคูน ก้านจอง สาบเสือ พลูเหลือง ไผ่น้ำ มะระขี้นก ผักชีล้อม ผักชีน้ำ กล้วยเตี้ย ผลผลิตที่ได้ก็นำไปแบ่งกันรับประทาน
การเรียนรู้นวัตกรรมกลไกพื้นที่สุขภาวะควบคู่กับงานส่งเสริมกิจกรรมทางกาย มุ่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ สร้างสภาพแวดล้อมและการมีส่วนร่วมตามบริบทของพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะต้นแบบ ทั้งรูปแบบชุมชนเมือง 6 แห่ง รูปแบบชุมชนชนบท 6 แห่ง พร้อมจัดการระบบอาหารเพื่อสุขภาวะครบวงจรในระดับชุมชนท้องถิ่น ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อ (NCDs)
“การมีสุขภาพดี การกินมีส่วนสำคัญ สสส.บูรณาการจัดการอาหารโดยชุมชนท้องถิ่น มียุทธศาสตร์หลัก 3 ข้อ คือ 1.ขับเคลื่อนและบูรณาการแนวคิด 'ระบบอาหารที่ยั่งยืน' สู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ 2.สานเสริมพลังภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ ต่อยอดและขยายผลเชิงนโยบาย 3.ยกระดับต้นแบบงานอาหารเพื่อสุขภาวะในระดับพื้นที่ โดยมีจุดเน้นส่งเสริมโภชนาการเชิงรุก ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ สร้างความเข้มแข็งของประชาชน ให้เกิดความรอบรู้และเฝ้าระวังความปลอดภัยของอาหาร พัฒนาและใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีสร้างสมรรถนะผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ผลิตอาหารที่ยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม บูรณาการภาคีเครือข่ายยกระดับทางด้านนโยบาย เพื่อสุขภาวะอย่างสมดุล ภายใต้ระบบอาหารที่ยั่งยืน” ดร.นพ.ไพโรจน์กล่าว
นายประยงค์ โพธิ์ศรีประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสถาปัตยกรรมเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม สถาบันอาศรมศิลป์ กล่าวว่า ชุมชนเอื้ออาทรพุทธมณฑลสาย 5 (หลังองค์พระ) จ.นครปฐม เป็นต้นแบบพื้นที่สุขภาวะรูปแบบชุมชนเมือง ปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกกลุ่มวัยได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเน้นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีถึง 138 คนจากสมาชิกชุมชน มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชน จัดกิจกรรมร้องเพลง เต้นรำ ทำบุญ ส่งเสริมอาชีพ รวมถึงจัดตั้งคณะทำงานดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางร่วมกับสาธารณสุขท้องถิ่นและจิตอาสาในชุมชน วางแผนดูแลผู้ป่วยติดเตียง พัฒนานวัตกรรมเครื่องยกตัวผู้ป่วย อุปกรณ์ลดการเกิดอุบัติเหตุ และระบบ Telehealth ดูแลผู้ป่วยทางไกล
สถาบันอาศรมศิลป์ พร้อมด้วยคณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล และทีมงานชุมชนร่วมกันเก็บข้อมูลผู้อยู่อาศัยในบ้านเอื้ออาทรพุทธมณฑลสาย 5 การเคหะแห่งชาติ มีผู้สูงอายุ 138 คน และเข้าไม่ถึงข้อมูลอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่ที่นี่เจ้าของอยู่เอง 80% ปล่อยให้เช่า 20% ผู้อยู่อาศัย 70% ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม การดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชนและกองทุนช่วยเหลือปรับปรุงบ้าน การจัดทำกิจกรรมสุขภาวะในชุมชน
อ.ดร.กภ.เจนจิรา ธนกำโชคชัย นักกายภาพบำบัดชุมชน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า พื้นที่ชุมชนบ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 มีนักกายภาพบำบัด ม.มหิดล เข้ามาทำงานชุมชน 7 ปี มี อสม.เป็นตัวเชื่อมนักภายภาพชุมชน อบรมหลักสูตร Care Giver มีภาระในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง ภาวะที่เลือกไม่ได้ส่งผลต่อความเครียดในจิตใจ ดังนั้นการรับฟังปัญหาแบบเปิดใจกว้างจะทำให้รู้ลึกถึงปัญหาและหาทางแก้ไข
การลงพื้นที่เป็นครั้งคราวพบว่า ผู้สูงอายุที่ติดเตียงมีแผลกดทับจะมีปัญหาโรค NCDs ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องด้วยระบบ Telehealth ติดต่อกับผู้ดูแลผู้ป่วย มีการพัฒนากายอุปกรณ์ สร้างเครื่องยกตัวเพื่อดึงรั้งร่างกายท่อนบนของคนไข้ เพื่อปรับเปลี่ยนท่าทางจากนอนหงายเป็นการพับตัวมาด้านหน้า สำหรับทำความสะอาดและขับถ่าย ซึ่งแต่เดิมต้องใช้แรงงานของผู้ดูแลซึ่งสูงวัยแล้ว เพื่อลดปัญหาจากการยกตัวคนไข้ด้วยมือที่อาจจะทำให้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย หากปล่อยให้คนไข้ใช้ชีวิตอยู่ในท่านอนตลอดเวลา จะทำให้ปอดทำงานได้น้อยลงและมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย จำเป็นต้องปรับปรุงให้อยู่ในท่านั่ง เพื่อส่งเสริมการทำงานของปอด และยังทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย เครื่องมือนี้จิตอาสาทำเองได้ด้วยสนนราคาอุปกรณ์ 5,000 บาท
การจัดทำแผ่นพับแบบพกพา “แค่มีกำลังใจก็ลุกขึ้นมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง” ท่าเคลื่อนย้ายปลอดภัยในทุกสถานการณ์และตารางนัดหมาย ดูแลดี มีการฟื้นตัว จัดท่าให้ถูกต้อง นั่งเก่ง เร่งฟื้นตัว กลืนดี ไม่มีสำลัก ขยับข้อต่อ ป้องกันข้อติด ขาแข็งแรง ทรงตัวดี ไม่มีล้ม พร้อมคู่มือในการออกกำลังกายเบื้องต้นสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ลำตัวและความสามารถในการทรงตัว ควรหยุดออกกำลังกายเมื่อรู้สึกมึนศีรษะ แน่นหน้าอก เมื่อมีอาการเหนื่อยมากจนไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้.
***
ชุมชนกำลังสำคัญ..ดูแลผู้สูงอายุ
ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่าจะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 26.9 ของประชากรทั้งหมดในปี พ.ศ.2573 โครงสร้างประชากรเปลี่ยนไปทำให้ประเทศไทยต้องรับมือการดูแลผู้สูงอายุ โดยคนวัยทำงานมีภาระต้องออกไปประกอบอาชีพนอกบ้าน ส่งผลให้ผู้สูงอายุในบ้านขาดคนดูแล โครงการรักเฒ่ากันมีเป้าหมายให้ “ชุมชนเป็นกำลังสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีส่วนร่วม และเชื่อมประสานหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการดูแลอย่างเป็นองค์รวม” การสร้างกลไกการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนโดยการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุให้แก่ชุมชน โดยคาดหวังว่าจะนำไปสู่การดูแลอย่างบูรณาการ มีประสิทธิภาพ ประหยัด แบ่งเบาภาระของภาครัฐ สามารถตอบโจทย์ปัญหาสังคมผู้สูงอายุได้อย่างยั่งยืน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต