'ศ.ดร.นฤมล' ตอกย้ำไม่ควรยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ เน้นบริหารตามกม.ช่วยป้องกันความเสี่ยงศก.ไทย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ Facebook ส่วนตัวย้ำถึงทิศทางการบริการจัดการราคาพลังงานโดยระบุว่า “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ตั้งขึ้นเมื่อปี 2516 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศก็ปรับสูงขึ้นตาม กองทุนฯ ก็จะนำเงินมาช่วยจ่ายชดเชยราคา เพื่อตรึงให้ราคาขายปลีกไม่ปรับตัวสูงขึ้นมากและเร็วเกินไป ส่วนช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง รัฐบาลก็จะเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ไปชดเชยกับเงินที่จ่ายไปตอนราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น

แนวคิดในการยกเลิกกองทุนฯ ที่บางฝ่ายเสนอ จึงไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับการทำลายกลไกป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาขายปลีกน้ำมัน ทำนองเดียวกัน แนวคิดที่จะให้งดการเก็บเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับน้ำมันบางประเภทเป็นการชั่วคราว ก็จะสร้างปัญหาเช่นกัน เพราะถึงแม้จะทำให้ราคาขายปลีกของน้ำมันประเภทนั้นลดลงทันที แต่เมื่อระยะเวลางดการจัดเก็บเงินสิ้นสุดลง ก็ต้องกลับมาเก็บเงินเข้ากองทุนฯ อีกครั้ง คราวนี้ราคาขายปลีกของน้ำมันประเภทนั้นจะดีดตัวสูงขึ้นทันที ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ และราคาสินค้าต้องดีดตัวขึ้นสูงตาม ทำให้เกิดช็อคในระบบเศรษฐกิจถ้าไม่ควรยกเลิกและไม่ควรงดการเก็บเงินกองทุนฯ แล้วทางออกคืออะไร คำตอบคือ !!!

ต้องย้อนกลับไปดูที่วัตถุประสงค์และประโยชน์ของการมีกองทุนฯ นี้กันอีกครั้ง นั่นคือ มีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่พอย้อนดูการใช้เงินกองทุนฯ ที่ผ่านมา พบว่าไม่ได้นำไปใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเท่านั้น แต่ถูกนำไปใช้อุดหนุนราคาก๊าซ LPG สูงถึง 9.0486 บาทต่อกิโล (จากโครงสร้างราคา ณ วันที่ 24 ก.พ. 66) เพราะใช้กันทุกครัวเรือน รวมตลอดถึงร้านอาหาร รัฐบาลจึงพยายามรักษาราคาให้ต่ำไว้เพื่อไม่ให้กระทบครัวเรือนรายได้น้อยจำนวนมาก

แต่การอุดหนุนราคาจนราคาบิดเบือนไปจากราคาตลาดมากและเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน ทำให้พฤติกรรมผู้ใช้พลังงานบิดเบือนตามไปด้วย จนถึงขนาดมีการดัดแปลงรถยนต์ราคาแพงมาใช้แก๊สแทนน้ำมัน ทางออกจึงต้องหันกลับมาทบทวนมาตรการการอุดหนุนที่เหมาะสม คือ การช่วยเหลือกลุ่มที่ควรได้รับการช่วยเหลือเป็นสำคัญ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางเฉพาะอื่น ๆ ด้วยการตั้งงบประมาณแยกเฉพาะ จะได้ช่วยให้ถูกฝาถูกตัว

นอกจากนั้น บางห้วงเวลา เงินกองทุนฯ ยังถูกนำไปปรับลดราคาขายของแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอล ซึ่งผลิตจากกากน้ำตาลหรือมันสำปะหลัง และไบโอดีเซล ที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม เหตุที่เอาเงินกองทุนฯ ไปแทรกแซงราคาให้ต่ำ ก็เพื่อทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันชนิดนี้มากขึ้น และมองว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร แต่การสนับสนุนเกษตรกรไม่ควรส่งผลให้เกิดการบิดเบือนราคาจนเกินพอดี และทางออกคือควรตั้งงบประมาณอุดหนุนเกษตรกรแยกออกไปจากกองทุนฯ เพื่อจะได้สามารถติดตามตรวจสอบว่าเกษตรกรได้รับประโยชน์จริง

ฉะนั้น ควรดำรงกองทุนฯ ไว้ แต่เก็บเงินเข้ากองทุนฯ เท่าที่เพียงพอสำหรับการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมัน ปรับลดการบิดเบือนของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ให้เร็วและเหมาะสมที่สุด วิธีนี้จะสามารถทำให้เม็ดเงินที่จำเป็นต้องจัดเก็บเข้ากองทุนฯ ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงทันที

อนึ่ง การที่เงินกองทุนน้ำมันถูกนำไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์นั้น ฝ่ายนิติบัญญัติได้ผ่านพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2562 โดยมีการกำหนดวัตถุประสงค์หลักไว้ประการเดียวในมาตรา 5 คือ เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น พร้อมทั้งกำหนดให้มีการยกเลิกการชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ แต่ก็มีบทเฉพาะกาล ตามมาตรา 55 ที่ยังคงให้มีการชดเชยต่อไปอีก 3 ปี และสามารถขยายได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี นั่นคือ สามารถขยายระยะเวลาชดเชยต่อไปได้อีกจนถึงเดือนกันยายน 2569 เท่านั้น หลังจากนั้นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย

รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย

"พิพัฒน์“ รุก! เพื่อแรงงาน เพิ่มรายได้กองทุนฯ พบบริษัทจัดการสินทรัพย์สวีเดน กางแผนผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 8 -10% ต่อปี เพื่อกองทุนยืน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

“รมว.นฤมล”นำถก อนุฯ นบข.ด้านการผลิต มีมติยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เปลี่ยนเป็นช่วยชาวนาไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่ 1/2567

‘พิพัฒน์’ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก ! ระบบบำนาญสวีเดน สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ

มื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) รวมถึงผู้บริหาร

'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน