“ศ.ดร.นฤมล”เปิดวิธีแก้จนด้วยการแก้ที่ดินทำกิน ยกระดับที่ดินส.ป.ก.ให้เข้าถึงเกษตรกรสร้างอาชีพ

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ Facebook ส่วนตัวระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนประชากรในภาคเกษตรมากถึง 25 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด แต่เป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ อีกทั้งยังขาดความมั่นคงทางรายได้ มีความผันผวนตามฤดูกาล

กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5,000 บาท ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของแรงงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 16,000 บาท ประมาณร้อยละ 40 ถือครองที่ดินเพียง 1 - 10 ไร่ และอีกร้อยละ 8 ไม่มีที่ดินทำกิน นอกจากนี้ ที่ดินที่ถือครองในหลายพื้นที่ มีสภาพไม่เหมาะสมกับการทำการเกษตร

ปัญหาที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ ส.ป.ก. มีมายาวนาน เป็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในประเด็นดังนี้

1. พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พ.ศ. 2518 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรที่ยากจนทำการเกษตร ถึงวันนี้ 48 ปีแล้วสภาพพื้นที่ดินและเศรษฐกิจบางพื้นที่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแต่ยังคงต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่ออกมาใช้เมื่อ 48 ปีก่อน ซึ่งไม่สะท้อนความเป็นจริง

2. ที่ดินซึ่ง ส.ป.ก.ได้รับมาจากกรมป่าไม้จำนวน 36 ล้านไร่ ไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าพื้นที่ใดเหมาะสมกับการทำเกษตรหรือไม่ เช่น ที่ดินไม่มีน้ำหรือเป็นที่ดินที่สภาพดินไม่ดี ทำให้ที่ดินจำนวนมากซึ่งไม่เหมาะสมกับการทำเกษตร เกษตรกรผู้ถือครองควรจะทำอาชีพอื่นก็ทำไม่ได้ เกษตรกรจึงไม่มีรายได้และยากจนจนถึงปัจจุบัน

3. ประชาชนที่ได้รับมอบที่ดินไปแล้วประมาณ 2.85 ล้านครอบครัว หลายรายมีอายุเกินกว่า 60 ปีซึ่งมีมากกว่า 1 ล้านครอบครัวไม่มีความสามารถทำการเกษตรและ ไม่มีบุตรหลานที่จะมารับช่วงทำการเกษตรต่อได้ ก็ยังถือครองที่ดินไว้ แต่ปล่อยที่ดินว่างเปล่าหรือขายให้กับเกษตรกรด้วยกันแบบไม่ถูกต้อง

4. มีการถือครองที่ดินอย่างไม่ถูกต้องหรือมีนายทุนไปบุกรุกจับจองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสะสางให้ถูกต้องและนำที่ดิน ส.ป.ก. มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวม

ทางแก้ไขปัญหา คือ
1. ต้องจำแนกประเภทที่ดินให้ตรงกับสภาพที่แท้จริงของการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้อย่างเหมาะสมและถูกต้องตามความเป็นจริง
2. ปรับแก้ไขคุณสมบัติของผู้ถือครองที่ดินในปัจจุบันซึ่งได้รับมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายสามารถขอใช้ที่ดินได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตรงกับสภาพที่แท้จริงของพื้นที่และความต้องการของตนเอง
3. หากผู้ถือครองที่ดิน รายใดไม่สามารถนำที่ดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ก็สามารถสละสิทธิ์ หรือเปลี่ยนมือให้กับผู้อื่นซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายรับสิทธิ์การครอบครองเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแทน
4. ที่ดินส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมยังคงมีไว้เหมือนเดิมเพื่อให้เกษตรกรที่มีอาชีพการทำการเกษตรและมีรายได้จากการเกษตรเป็นหลักทำอาชีพเดิมต่อไป โดยรัฐ (ส.ป.ก.)จะต้องประสานและสนับสนุนให้มีการพัฒนาเรื่องแหล่งน้ำและสาธารณูปโภค แก่เกษตรกรในพื้นที่ดินของ ส.ป.ก. ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

แก้ปัญหาที่ทำกินให้เกษตรกรได้ เราจึงจะสามารถแก้ปัญหาความยากจนของพี่น้องเกษตรกรได้อย่างแท้จริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กป้อม' เปิดบ้านป่ารอยต่อ คุย สส.พปชร. ย้ำทำหน้าที่ กมธ.งบ 68 อย่างรอบคอบ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค

แล้วกัน! พรรคร่วมยังไม่คอนเฟิร์ม ร่วมโต๊ะดินเนอร์ พปชร. เป็นเจ้าภาพ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี

สะดุ้ง 'เศรษฐา' ไม่เดินเข้าป่า!บอกให้รอดูต่อไปเขี่ย พปชร. พ้นรัฐบาลหรือไม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

'ธรรมนัส' ขอบคุณนายกฯ ไม่เขี่ย พปชร. พ้นรัฐบาล พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดดินเนอร์พรรคร่วม

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ในส่วนของพรรคพปชร.ไม่ได้มีปัญหาอะไร เห็นได้จากการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)

'ภูมิธรรม' ไม่ยี่หระ! ฝ่ายค้านคว่ำงบ 68 ลั่นรัฐบาล 314 เสียงแน่นปึ้ก

'ภูมิธรรม' เมิน​ฝ่ายค้านคว่ำร่างงบ 68 มั่นใจ​รัฐบาล​ 314​ เสียงเหนียวแน่น ​ สยบข่าวขับ พปชร. พ้นพรรคร่วม ยัน​ยังคุยกันดีกับ 'ธรรมนัส'