กระทรวงดิจิทัลฯ Kick off โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ รองรับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วันนี้ (4 มกราคม 2566) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ร่วมกันจัดงานสัมมนาประชาสัมพันธ์เปิดตัว (Kick off) โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งนักวิชาการเข้าร่วมงานกว่า 300 คน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาประชาสัมพันธ์เปิดตัว (Kick off) โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และ คอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า จากการที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีลักษณะเป็นกฎหมายกลาง ที่ครอบคลุมการดำเนินการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับเงื่อนไขตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ส่งผลให้ทุกหน่วยงานรวมถึงภาครัฐต้องทำความเข้าใจต่อกฎหมาย การดูแลเรื่องความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรของหน่วยงาน

“เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทุกภาคส่วน ในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้จัดทำ (ร่าง) นโยบายการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ในคราวการประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เพื่อเป็นกรอบทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาแพลตฟอร์มฯ ช่วยสนับสนุนการดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไขตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลดภาระด้านงบประมาณในภาพรวมของภาครัฐ รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยมอบหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกันดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้ง การขยายผลการใช้งานแพลตฟอร์มฯ ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนต่อไป รวมถึงเห็นชอบในการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ทุกส่วนราชการนำแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) ไปใช้” นายชัยวุฒิ กล่าว

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์มที่ให้บริการในปัจจุบันล้วนเป็นแพลตฟอร์มของต่างประเทศซึ่งจะคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายปี ทำให้หน่วยงานเมื่อเริ่มใช้แล้ว จะต้องตั้งงบประมาณผูกผันในปีต่อไปทุกปี ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน จึงเป็นเหตุผลหลักที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและงบประมาณของราชการได้กว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และในอนาคตก็มีแนวโน้มจะจัดทำโครงการต่อเนื่องรองรับภาคเอกชน เปิดให้ผู้ประกอบการใช้งานแพลตฟอร์ม อำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคเอกชนสามารถนำไปใช้เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และพัฒนาต่อยอด open source ได้

ด้าน นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance: GPPC) มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้แพลตฟอร์มภาครัฐฯ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงศึกษาแนวทางการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกระบวนการติดตาม กำกับ การปฏิบัติตามในระดับนานาชาติ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งใน 200 หน่วยงานเป้าหมายของโครงการนี้ ซึ่งจะได้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งความรู้จากการจัดอบรมหลากหลายรูปแบบที่สร้างความเข้าใจในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และได้แนวทางในการที่จะดำเนินการให้หน่วยงานเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และยังได้ใช้งานแพลตฟอร์มภาครัฐฯ ที่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติตามกฎหมายอีกด้วย โดยหน่วยงานที่สนใจสมัครเข้าร่วมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อีเมล [email protected]

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นหลักการทั่วไป ซึ่งครอบคลุมการดำเนินการของบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตามที่ทำการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักร จะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทยที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้น หน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลซึ่งมีภารกิจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในประเทศ จึงถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายนี้

ั้งนี้ ตามหน้าที่และอำนาจในมาตรา 44 (5) และ มาตรา 44 (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฯ ด้วยเหตุนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดทำโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance: GPPC) ขึ้นเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการดำเนินการโครงการนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศในภาพรวมอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ย้ำจุดยืนตลอดกาล! แก้รธน. ไม่แตะหมวด 1-2 ท่าทีส.ส.ภูมิใจไทย ไม่เกี่ยวสว.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสัญญาณกา

'อนุทิน' ลั่น! อุดมการณ์ 'พรรคปฎิบัติการ' พูดแล้วทำ มั่นใจถูกขวางยิ่งโต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงจุดแข็งแล

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ ไร้อำนาจเก่าไม่แตกแถว ผู้ว่าฯ ทำงานเกียร์ 10

'มท.หนู' ลั่นมหาดไทยยุคนี้ไม่แตกแถว ไร้ปัญหาฝ่ายการเมืองปะทะขรก.ประจำ ยันผู้ว่าฯ เข้าเกียร์ 10 ชี้ใครไม่สนองงานชาวบ้าน มีวิธีจัดการร้อยแปดพันเก้า

'อนุทิน​' โวรัฐบาลชุดนี้​ มีเสถียรภาพมากสุด เชื่ออยู่ครบเทอม

นายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ ​รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณี

ภูมิใจไทย เฮ! รอดคดียุบพรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย พ.ต.ท. ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. , น.ส.โชติกา แก้วผล ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ร่วมสังเกตการณ์การรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรีและนายก อบจ.จังหวัดปราจีนบุรี ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

'อนุทิน' ขอบคุณสื่อตั้งฉายา ภูมิใจทำประโยชน์บ้านเมือง ปัดขวางใคร อุ้ม 2 รมต.โลกลืม

'อนุทิน' น้อมรับฉายาสื่อทำเนียบฯ ลั่นภูมิใจทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่ได้คิดขวางใคร อวย 'แพทองธาร' ตั้งใจทำงาน แจงแทน 2 รมต.โลกลืม 'เพิ่มพูน' พูดน้อยแต่ผลงานอื้อ