ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พอช.ร่วมสวดมนต์บท ‘โพชฌังคปริตร’ ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

พอช. /  วันนี้ ( 3 มกราคม) ตั้งแต่เวลา 8.00 -9.00 น. ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  หรือ ‘พอช.’  ถนนนวมินทร์  เขตบางกะปิ  กรุงเทพฯ      มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ   เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา  นเรนทิราเทพยวดี  กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร  มหาวัชรราชธิดา  โดยมีพระสงฆ์จำนวน 10  รูปจากวัดสาครสุ่นประชาสรรค์  (เขตลาดพร้าว) สวดเจริญพระพุทธมนต์  ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พอช. ประมาณ  80 คน  นำโดยนายกฤษดา  สมประสงค์  ผู้อำนวยการ พอช.  ร่วมกันถวายพระพรชัยมงคลและร่วมสวดมนต์บทโพชฌังคปริตรเพื่อขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน

ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พอช. ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์

โพชฌงค์ เป็นหลักธรรมหมวดหนึ่งที่อยู่ในบทสวดมนต์ ‘โพชฌังคปริตร’  ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้วสามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้  คติความเชื่อนี้มีที่มาจากบันทึกในพระไตรปิฎกว่า  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะ (พระอรหันต์สาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า) ที่อาพาธ  พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ  พบว่าพระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้

อีกครั้งหนึ่ง  พระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ  หลังจากนั้น  พบว่าพระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้ในที่สุด  เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ  จึงตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่าพระพุทธเจ้าก็หายประชวร

พุทธศาสนิกชนจึงเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น  สวดแล้วช่วยให้หายโรค  ซึ่งในพระไตรปิฎกกล่าวว่า  ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง  เป็นธรรมเกี่ยวกับปัญญา  เป็นธรรมชั้นสูง  ซึ่งเป็นความจริงในเรื่องการทำใจให้สว่าง  สะอาดผ่องใส  ซึ่งสามารถช่วยรักษาใจ  เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับร่างกาย  เนื่องจากกายกับใจเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน  หลักของโพชฌงค์เป็นหลักปฏิบัติทั่วไปซึ่งไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น  เพราะโพชฌงค์แปลว่าองค์แห่งโพธิหรือองค์แห่งโพธิญาณเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ซึ่งเป็นเรื่องของปัญญา   (ข้อมูลจาก  https://dhammatha.org)

(ภาพ  : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ)

บทสวดโพชฌังคปริตร

      โพชฌังโค สะติสังขาโต   ธัมมานัง วิจะโย ตะถา

วิริยัมปีติปัสสัทธิ    โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร

สะมาธุเปกขะโพชฌังคา        สัตเตเต สัพพะทัสสินา

มุนินา สัมมะทักขาตา            ภาวิตา พะหุลีกะตา

สังวัตตันติ อะภิญญายะ        นิพพานายะ จะ โพธิยา

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ           โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ

      เอกัสมิง สะมะเย นาโถ   โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง

คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา             โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ

เต จะ ตัง อะภินันทิตวา         โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ           โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ

      เอกะทา ธัมมะราชาปิ      เคลัญเญนาภิปีฬิโต

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ         ภะณาเปตวานะ สาทะรัง

สัมโมทิตวา จะ อาพาธา        ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ           โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ

      ปะหีนา เต จะ อาพาธา   ติณณันนัมปิ มะเหสินัง

มัคคาหะตะกิเลสาวะ             ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง

เอเตนะสัจจะวัชเชนะ            โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ

คำแปลบทสวดโพชฌังคปริตร

โพชฌงค์  คือ องค์แห่งการตรัสรู้ 7 ประการ  เหล่านี้  คือ  สติ  ความระลึกได้   ธรรมวิจยะ  ความใคร่ครวญในธรรม   วิริยะ  ความเพียร  ปีติ  ความอิ่มใจ  ปัสสัทธิ  ความสงบ   สมาธิ  ความตั้งใจมั่น   อุเบกขา  ความวางเฉย

เป็นธรรมที่พระมหามุนีเจ้าผู้เห็นธรรมทั้งปวงได้ตรัสไว้ชอบแล้ว ซึ่งถ้าบุคคลเจริญให้มากแล้ว ย่อมทำให้เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง  เพื่อพระนิพพาน  และเพื่อความตรัสรู้  ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านตลอดการทุกเมื่อ ฯ

ในสมัยหนึ่ง  พระบรมโลกนาถได้ทอดพระเนตรเห็น พระโมคคัลลานะ กับ พระกัสสปะ เป็นไข้มีทุกขเวทนา  จึงได้ทรงแสดงธรรมอันเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ 7 ประการนี้  พระเถระทั้ง 2 ท่าน ก็มีใจเพลิดเพลินกับพระธรรมที่พระบรมโลกนาถทรงกล่าวแล้วนั้น  และได้หายจากความเจ็บไข้ในขณะนั้น  ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านตลอดการทุกเมื่อ ฯ

ในกาลครั้งหนึ่ง  แม้พระพุทธเจ้า  ผู้เป็นพระธรรมราชาเอง ก็ถูกความเจ็บป่วยไข้เบียดเบียนเช่นกัน  พระองค์ทรงมีรับสั่งให้พระจุนทเถระแสดงธรรมอันเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ 7 ประการนี้โดยความยินดี  แล้วพระองค์ก็ทรงบันเทิงพระทัยหายจากความป่วยไข้ไปโดยฐานะอันควรนั่นแล  ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้  ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านตลอดการทุกเมื่อ ฯ

ก็ความเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหลายนั้น  เป็นสภาวะที่พระผู้แสวงหาคุณใหญ่ทั้ง 3 องค์ละได้แล้ว  ถึงความไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้อีกโดยธรรม  ประดุจดังกิเลสทั้งหลายถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้วฉะนั้นนั่นแล  ด้วยการกล่าวคำสัตย์จริงนี้   ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านตลอดการทุกเมื่อเทอญ

(ข้อมูลจาก  https://kalyanamitra.org/th/)

 

เรื่องและภาพ :  สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมพลังคนจนเมืองทั่วประเทศ เปลี่ยนสลัม สู่บ้านมั่นคง บ้านแห่งศักดิ์ศรีที่ทุกคนร่วมสร้าง!

เมื่อความฝันของคนจนไม่บ้านกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ วันนี้พร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด เปลี่ยนแปลงสลัมให้เป็น "บ้านมั่นคง" ที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์

ประกาศผล 8 กองทุน เข้ารับรางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชนดีเด่น ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2567

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหารชน) หรือ พอช. ร่วมกับ คณะทำงานพิจารณารางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชนประจำปี 2567 จัดเวทีพิจารณา รางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชน

ชุมชนทั่วประเทศ ระดมข้อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้รัฐ ในการประชุม ‘ระดับชาติสภาองค์กรชุมชนตำบล’ ครั้งที่ 16 ปี 2567 เชื่อมั่น “พลังชุมชน พลังประชาชน สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้”

การประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลครั้งที่ 16’ ปี 2567 ผู้แทนสภาองค์กรชุมชน ทั่วประเทศ ระดมข้อเสนอเชิงนโยบายให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

“16 ปี สภาองค์กรชุมชนตำบล” “พัฒนาประชาธิปไตยฐานราก สร้างพลังชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง”

‘สภาองค์กรชุมชนตำบล’ จัดตั้งขึ้นมาตาม ‘พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551’ ปัจจุบันเป็นระยะเวลา 16 ปี มีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนในระดับตำบล เทศบาล และเขต

โค้งสุดท้าย 26 กองทุนฯทั่วไทย ลุ้นรางวัลกองทุนสวัสดิการชุมชนดีเด่น ‘ป๋วย อึ๊งภากรณ์’

กรุงทพฯ/(16 ธ.ค. 67) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหารชน) หรือ พอช. ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย คณะทำงานพิจารณารางวัลองค์กรสวัสดิการชุมชนประจำปี 2567

พอช. หนุน “ศูนย์กระจายสินค้าชุมชน” โมเดลสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ที่กาญจนบุรี

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดกาญจนบุรี จัดพิธีเปิดศูนย์กระจายสินค้าชุมชนตำบลหนองตากยา