สสส. สานพลัง เครือข่ายพลเมือง 15 หน่วยงาน ลงนาม MOU โคราชเมืองยิ้ม เมืองสร้างสรรค์ สร้างสุขภาพและการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2565 ที่ Art Gallery Korat อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมโคราชเมืองยิ้ม เมืองสร้างสรรค์ สร้างสุขภาพ เพื่อเด็กและเยาวชนทุกคน เปิดเวทีพลังเครือข่ายพลเมือง “ร่วมเปลี่ยนสร้างเมือง” พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง 15 หน่วยงาน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ออกแบบเมืองสร้างสรรค์ ด้วยระบบนิเวศสื่อสุขภาวะ มีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี

นายภูมิสิทธิ์ กล่าวว่า การพัฒนาเมืองต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการแก้ปัญหา เมืองโคาชเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ขอบคุณ สสส. และภาคีเครือข่ายที่ช่วยการสร้างพื้นที่ปลอดภัย เพื่อทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ลดช่องว่างระหว่างวัย และขับเคลื่อนเมืองให้เกิดระบบสื่อสร้างสรรค์และสื่อสุขภาวะ

นายชัชวาล วงศ์จร รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายส่งเสริมการออกแบบเมืองสร้างสรรค์ ด้วยระบบนิเวศสื่อสุขภาวะหลากหลาย ผ่านสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และเอื้อประโยชน์ต่อการเรียนรู้ เพิ่มพื้นที่สื่อสารให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เพื่อบ่มเพาะให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ชุมชน และสังคม จนเป็นฐานทุนสำคัญของพื้นที่ ที่ได้นำภูมิปัญญา วัฒนธรรม สื่อ ศิลปะร่วมสมัย และพลังการสื่อสารมาเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่สร้างสรรค์

“การทำให้เด็กมีสุขภาพดีทุกมิติ ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการเด็กให้เหมาะสมตามวัย และทำให้มีทักษะชีวิตเท่าทันศตวรรษที่ 21 ที่ต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีดิจิทัลได้ การให้ความรู้และแก้ปัญหาสุขภาวะเร่งด่วนในเด็กปฐมวัย และเยาวชน กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู แกนนำ อาสาสมัคร ให้ตระหนักเรื่องระบบนิเวศสื่อที่ดี จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบเมืองสร้างสรรค์ได้” นายชัชวาล กล่าว

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า โลกในปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่มีความผันผวน ความไม่แน่นอน ความสลับซับซ้อน ความคลุมเครือ หรือเรียกสั้นๆ ว่า VUCA World ที่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลายด้าน เช่น เทคโนโลยี โรคอุบัติใหม่ ภัยพิบัติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจไม่เอื้อต่อการพัฒนาเมืองหรือการใช้ชีวิตของผู้คน และการใช้ความรู้แบบเดิมกับเรื่องเดิม อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป จนกระทบกับวิถีชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจในชุมชน การลงนามความร่วมมือระหว่าง 15 หน่วยงานครั้งนี้ สสส. เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาเมือง ให้มีระบบนิเวศสื่อสุขภาวะด้วยพลังเยาวชน พลังชุมชนและพลังเครือข่าย ที่จะช่วยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสส่งเสริมการเรียนรู้ สู่การพัฒนาเมืองโคราชทิศทางที่ดีขึ้นเพราะหากประชาชนรู้เท่าทันสื่อและเทคโนโลยี จะช่วยให้เกิดสุขภาวะด้านต่างๆ ในชีวิต ทั้งกาย จิต ปัญญา และสังคม ดีขึ้น หนึ่งในภารกิจของ สสส. คือการบ่มเพาะ “นักสื่อสารสุขภาวะ” ที่ช่วยให้สังคมรู้จักใช้ รู้เท่าทัน และใช้สื่อได้สร้างสรรค์

น.ส.ปรัชทิพา หวังร่วมกลาง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา (มยพ.) กล่าวว่า พบปัญหาในเด็กและเยาวชน ขาดการส่งเสริมและการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ สู่การพัฒนาสร้างสรรค์ จนทำให้มีโอกาสเข้าถึงปัจจัยเสี่ยงง่าย จากช่องว่างระหว่างวัย ถูกทิ้งขว้างแปลกแยก ขาดการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง  ไม่เท่าทันสื่อเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะหลายด้าน การขับเคลื่อนครั้งนี้มี 7 เป้าหมาย 1.พัฒนาความรู้ ทักษะเพื่อเติบโตอย่างสร้างสรรค์ มีทักษะเท่าทันตนเอง เท่าทันสื่อ เท่าทันสังคม เป็นพลเมืองจิตอาสา เข้าใจสิทธิเด็กขั้นพื้นฐาน และเคารพในสิทธิผู้อื่น 2.พัฒนาศักยภาพ เสริมพลัง และยกระดับครู แกนนำพลเมืองอาสา แกนนำสภาเด็กและเยาวชน แกนนำชุมชน เป็นนักปฏิบัติการขับเคลื่อนสังคม รวมถึงครอบครัว โรงเรียน และพื้นที่สาธารณะ 3.ส่งเสริมพลเมืองจิตอาสา เป็นนักสร้างสรรค์ นักสื่อสาร พลเมืองคนรุ่นใหม่ ที่ร่วมออกแบบปฏิบัติการเมืองสร้างสรรค์ ชุมชนสร้างสรรค์

“เป้าหมายที่ 4.พัฒนาสร้างสรรค์ ยกระดับองค์ความรู้และเครื่องมือด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน สอดคล้องบริบทและความต้องการของเด็กเยาวชน ชุมชน ท้องถิ่น 5.พัฒนาพื้นที่เรียนรู้ แบ่งปันและจัดการความรู้ ขยายผลการดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชน 6.สานพลัง 15 องค์กร กำหนดเป้าหมาย ออกแบบ ขับเคลื่อน สนับสนุน ติดตาม เสริมพลัง ร่วมสร้างนิเวศสื่อสุขภาวะ เพื่อเด็กและทุกคน มีพื้นที่ปลอดภัยสร้างสรรค์  พื้นที่เรียนรู้ พื้นที่สื่อสาร ทั้งทางนโยบาย ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และพื้นที่สาธารณะ 7.พัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสร้างกระแสความตระหนักต่อสังคม ส่งเสริมพัฒนาการเด็กและเยาวชน สร้างสิ่งแวดล้อม ผ่านงานสื่อสารหลายช่องทาง รูปแบบออนไลน์ เทศกาลชุมชน เทศกาลโคราชเมืองสร้างสรรค์” น.ส.ปรัชทิพา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว

"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น

“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.

วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั

สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม

สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ

สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ

"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ

เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน

สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต