“คนพิการอยู่ร่วมกับคนปกติได้”
“คนพิการต้องไม่ดูถูกตัวเอง เราห้ามความคิดคนอื่นที่คิดไม่ดีไม่ได้ แม้เราจะมีข้อจำกัดทางร่างกาย แต่ให้ทดลองทำดูก่อน ปรับตัวแล้วเรียนรู้ให้ได้”
“ไม่จำเป็นว่าจะต้องรอโอกาสจากสังคม แต่ให้รู้จักตัวเองว่าเราถนัดทำอะไรแล้วลงมือทำ” “คนพิการทำงานเป็นการเปิดโลกให้กับตัวเอง”
.....................................
คำกล่าวข้างต้นเป็นการสื่อสารให้กำลังใจกันและกันมาอย่างสม่ำเสมอในโลกของเด็กพิการ แต่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง การลงมือทำ การดำเนินการในภาคปฏิบัติ เพื่อปั้นฝัน และสานความหวังให้บรรลุเป้าหมายนั้น เป็นพันธกิจที่ทุกฝ่ายในสังคมจำเป็นต้องใส่ใจ ให้ความร่วมมือขับเคลื่อน ผลักดัน ช่วยเหลืออย่างจริงใจ จริงจัง และต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมานั้น คนพิการมักเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถูกละเลย ไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการ และหลุดจากระบบการศึกษากลางคัน เนื่องจากอยู่ในครอบครัวที่มีสถานะยากจน การเดินทางมาเรียนต้องใช้ต้นทุนสูงกว่าคนปกติ มีอุปสรรคในการใช้ชีวิต นั่งรถแท็กซี่มาเรียน อีกทั้งสถานที่เรียน ห้องน้ำ ก็ต้องเอื้ออำนวยที่จะพึ่งพาตัวเองได้ และเรายังพบว่ามีคนพิการเพียง 1.37% ที่ได้เข้าถึงการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย"
ข้อมูลเชิงประจักษ์จาก นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ แห่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า จากสถิติทุกปีคนพิการส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาเท่านั้น ในขณะที่คนพิการที่มีโอกาสศึกษาระดับอุดมศึกษาเมื่อเรียนจบแล้ว ก็อยากขอโอกาสขอความร่วมมือสถานประกอบการ เปิดรับนักศึกษาพิการให้มีโอกาสได้ทำงานด้วย
เพราะเล็งเห็นปัญหาดังกล่าว และการสร้างสุขภาวะทั้งร่างกายและจิตใจของทุกคนในสังคมไทย เป็นภารกิจและพันธสัญญาตามเจตนารมณ์และปรัชญาของ สสส. เมื่อเร็วๆ นี้ สสส.จึงได้ร่วมกับมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม และ เทใจ ดอต คอม ..Taejai.com จัดงาน “เด็กพิการเรียนไหนดี ปี 66” ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ โดยมี ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวเปิดงาน มีการจัดกิจกรรม Workshop วิชา 3 ปั้น วิชาปั้นฝันเป็นตัว ปั้นพอร์ต ปั้นคำ ชมบูธจากสถาบันการศึกษา และบูธเครือข่ายคนพิการ กิจกรรมบนเวทีรุ่นพี่มาแชร์ประสบการณ์ชีวิตการค้นหาตัวเอง การเรียน การทำงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ทุกกิจกรรมมีล่ามภาษามือที่เรียนจบจากหน่วยบริการสนับสนุนนักศึกษาพิการ วิทยาลัยราชสุดา ม.มหิดล เพื่อทำความเข้าใจ
"สสส.สานพลังภาคีเครือข่าย พัฒนานวัตกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการทุกมิติ หนึ่งในนั้นคือ 'การศึกษา' เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ช่วยให้คนพิการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ได้เหมือนทุกคนในสังคม จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนโครงการเด็กพิการเรียนไหนดี ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน มีสมาชิกกว่า 500 คน ในงานได้สร้างกิจกรรมแนะแนวการศึกษา มีที่ปรึกษาช่วยบ่มเพาะศักยภาพของเด็กพิการ ให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมกับพรสวรรค์และพรแสวงของตัวเอง เพื่อเป็นประตูด่านแรกในการก้าวสู่การมีอาชีพ รายได้ และสุขภาวะที่ดี จนเป็นส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงสังคมในทิศทางที่ดีขึ้นได้" นางภรณีกล่าว
ที่ผ่านมา สสส.เน้นการสร้างสรรค์ให้เกิดแนวทางและการแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนพิการมีสุขภาวะที่ดีขึ้น เช่น พัฒนาแอปพลิเคชันพรรณนา และแอปพลิเคชันโวหาร ให้คนพิการทางการมองเห็นได้ดูภาพยนตร์ได้เหมือนคนทั่วไป, พัฒนานวัตกรรมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ภายใต้มาตรา 33 และมาตรา 35 ที่ทำให้คนพิการมีอาชีพกว่า 7,000 อัตรา 20,000 โอกาสงาน, พัฒนาระบบ Health Tracking เก็บข้อมูลสุขภาพ และการออมเงินของคนพิการที่ได้รับการจ้างงาน เพื่อเป็นต้นทุนที่ดีในการใช้ชีวิตไปจนถึงวัยเกษียณอีกด้วย
"ส่วนใหญ่นักศึกษาพิการจะเลือกเรียนคณะต่างๆ ที่รุ่นพี่ได้เรียนจบ มีตำราอักษรเบรลล์และประกอบอาชีพ อาทิ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 'โครงการเด็กพิการเรียนไหนดี' เรียกอีกอย่างว่า 'ชุมชนนักเรียนพิการ' แต่ในความเป็นจริง กิจกรรมนี้เป็นห้องเรียนสำหรับนักศึกษาพิการและไม่พิการ ที่ต้องการพัฒนาทักษะของตัวเองให้แข่งขันในตลาดแรงงานได้ และเป็นแหล่งรวบรวมการสอบเข้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เปิดรับคนพิการให้ได้เข้าศึกษาต่อ อยากให้น้องๆ เปิดใจ เปิดโอกาสให้ตัวเอง ปั้นฝันให้เป็นจริงตามที่ตั้งใจ และขอเชิญชวนให้ทุกคนมารู้จักโครงการนี้ เพื่อจุดประกายให้เกิดสังคมแห่งความสุขและสังคมที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน” นางภรณี กล่าว
ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ มุ่งเน้นทำงานร่วมกันหลายกระทรวง เพื่อแบ่งปันข้อมูลด้านต่างๆ ของคนพิการทั่วประเทศ ในการบริหารจัดการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและดูแลได้ทั่วถึง มีเป้าหมายทำให้คนพิการพึ่งพาตนเองได้ เข้าถึงการศึกษา และมีงานที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละบุคคล ปัจจุบันกระทรวงได้ส่งเสริมให้เกิดรูปแบบการเรียนเพื่อคนพิการในรูปแบบเครดิตแบงก์ คือ คนพิการสามารถสะสมหน่วยกิตในมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนรู้ได้ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี จากเดิมที่ต้องเรียนให้จบ 4 หรือ 6 ปี ปัจจุบันได้ยกเลิกแล้ว เพราะต้องการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาเรียนรู้ได้ตลอดชีพ และเรียนรู้ในสิ่งที่ถนัดและเหมาะสม
“ขอบคุณมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม, สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส., รอยัล พารากอน ฮอลล์, เทใจ ดอต คอม, สถาบันการศึกษาทุกสถาบัน, ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และน้องๆ นักเรียน นักศึกษา และอาสาสมัครทุกคนที่มีส่วนระดมความคิด เสนอแนวทางเพื่อยกระดับชีวิตของคนพิการได้อย่างยั่งยืน เช่นเดียวกันกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในงานนี้ ที่จัดงานขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่ออยากเห็นสังคมที่คนพิการ สามารถเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้เท่าเทียมกับคนไม่พิการ และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน” ดร.ดนุชกล่าว
นายฉัตรชัย อภิบาลพูนผล ประธานมูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม กล่าวว่า สสส.สนับสนุนงานมหกรรมแนะแนวการศึกษาสำหรับคนพิการ “เด็กพิการเรียนไหนดี” เข้าสู่ปีที่ 5 เพื่อให้โอกาสคนพิการได้เข้าถึงการศึกษาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปีนี้ยังร่วมกับพันธมิตรอย่าง รอยัล พารากอน ฮอลล์ (Royal Paragon Hall) และเทใจ ดอต คอม - Taejai.com รวมถึงสถาบันอุดมศึกษาอีกเกือบ 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนพิการที่ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
ภายในงานจัด Workshop ที่ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ได้แก่ กิจกรรมปั้นฝัน, การค้นหาเส้นทางอาชีพที่ใช่, ปั้นพอร์ต, แนะแนวการทำแฟ้มสะสมผลงาน, ปั้นคำ, เทคนิคการเตรียมตัวสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนต่อ และปีนี้มีความพิเศษเพิ่มเข้ามาคือ วงดนตรี Happy Unlimit เป็นการรวมตัวของคนพิการและคนไม่พิการที่ชื่นชอบการเล่นดนตรี รวมถึงมีรุ่นพี่คนพิการจากหลากหลายสาขาอาชีพและที่กำลังศึกษา มาร่วมแชร์ประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นแนวทางให้น้องๆ ที่ต้องการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาให้มีความมั่นใจมากขึ้น ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “เด็กพิการเรียนไหนดี”
อนึ่ง นักศึกษาพิการสามารถเลือกช่องทางพิเศษสอบตรงเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา หรือช่องทางปกติด้วยการสอบเข้าพร้อมกับเด็กปกติได้ ขณะนี้มหาวิทยาลัย 20 แห่งเปิดรับสมัครรอบแรกทางออนไลน์ตั้งแต่บัดนี้ และยังมีรอบสองที่จะประกาศให้ทราบอีก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงปีนี้พร้อมรับสมัครเด็กพิการทางความเคลื่อนไหว สายตา หู พฤติกรรมทางด้านจิตใจจำนวน 66 คน ขณะนี้มีนักศึกษาพิการเรียนอยู่ 26 คน บัณฑิตพิการ 21 คน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ KU Happy Place Center พร้อมรับนักศึกษาพิการจำนวน 60 คน มทร.ธัญบุรีพร้อมรับสมัครเด็กพิการ 23 คน จากนักศึกษาจำนวน 2.4 หมื่นคน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต