ชี้เทคนิคสำคัญในการเลือกหลอดไฟ แอลอีดี ก่อนเรียกช่าง!

หลอดไฟ แอลอีดี หลอดดีที่ขึ้นชื่อว่ากินไฟน้อยแต่ให้แสงสว่างเจิดจ้า โดยหลอดไฟชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้บริโภค เนื่องจากช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ใช้ว่าหลอดไฟ แอลอีดีทุกชนิดจะสามารถนำมาใช้งานในจุดเดียวกันได้ ดังนั้นก่อนจะเปลี่ยนจากหลอดไฟแบบทั่วไปมาใช้งานหลอดประหยัดไฟ ควรเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกซื้อหลอดชนิดนี้ให้ชัดเจนเสียก่อนจะเรียกหาช่างให้มาติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าหลอดที่ซื้อสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่ต้องการใช้งาน

ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานร่วมกับหลอดไฟ LED

เทคนิคขั้นแรกที่จะต้องคำนึงถึงและให้ความสำคัญ เพื่อตัดสินใจเลือกซื้อหลอดไฟแอลอีดี คือ ‘อุปกรณ์ที่นำมาใช้งานร่วม’ เพราะถ้าเกิดเราเลือกซื้อหลอด LED มาแล้วไม่สามารถใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์ได้ อาจจะกลายเป็นการซื้อมาโดยเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ แถมยังต้องเสียเวลาเพื่อไปหาซื้อใหม่ ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนซื้อ คือ รูปแบบและขนาดของตัวโคม ชนิดของขั้วรับหลอด ระบบไฟฟ้า การต่อวงจร และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอย่าง หม้อแปลง สวิตช์ไฟ ทั้งหมดคือสิ่งที่ควรรีเช็คเพื่อความแน่ใจ จะได้เลือกซื้อหลอดไฟที่เหมาะสม พร้อมใช้งานได้ทันทีหลังซื้อ

ตรวจสอบสเปคหลอดไฟ LED

เทคนิคขั้นถัดมาที่สำคัญพอกันกับการตรวจสอบอุปกรณ์ คือพระเอกของงานอย่างหลอดไฟแอลอีดี เพราะการตรวจสอบสเปคของหลอดไฟว่ามีขนาดเป็นอย่างไร รูปทรงแบบไหน และมีขั้วหลอดไฟอย่างไร เพื่อหาหลอดไฟที่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ได้อย่างลงตัว แต่ถ้าในกรณีที่มีโคมหรืออุปกรณ์ที่ใช้อยู่แล้ว แต่อยากเปลี่ยนหลอด ก็ให้พิจารณาจากรูปทรง ขนาด และขั้วหลอดที่สามารถใช้งานได้กับของเดิมได้ เพื่อสามารถซื้อมาและนำไปติดตั้งได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดเหตุขัดข้องเมื่อใช้งานจริง และที่สำคัญอย่าลืมทดลองการใช้งานจริงกับอุปกรณ์ดั้งเดิม เช่น ในกรณีสวิตช์ไฟเป็นแบบปรับหรี่แสงได้ ก็ต้องแน่ใจว่าหลอดไฟแอลอีดีที่เราจะซื้อมาใช้สามารถใช้งานกับสวิตช์ชนิดนี้ได้

ตรวจสอบระดับของแสงสว่างที่หลอดไฟ LED ให้ได้

เทคนิคขั้นสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการพิจารณาจากระดับแสงสว่างของหลอดไฟแอลอีดีที่จะเลือกซื้อ โดยทั่วไปแล้วจะมีการบอกถึงปริมาณแสงในหน่วยลูเมน ซึ่งระบุไว้เป็นสัญลักษณ์ lm อยู่ที่กล่อง และบนตัวหลอดไฟเอง หลายคนอาจสับสนระหว่างหน่วยดังกล่าวกับหน่วยแบบวัตต์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณแสงในหน่วยลูเมนและวัตต์ สามารถเทียบกันได้เช่นกัน เช่น 600 ลูเมน เทียบเท่า 60 วัตต์ นั่นก็หมายความว่า หากหลอดไฟแบบเดิมที่ใช้งานอยู่มีขนาดที่ 60 วัตต์ และคิดว่ามันสามารถให้แสงสว่างที่เพียงพอตามต้องการแล้ว อยากจะเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ก็ให้เลือกหลอดที่มีความสว่างอยู่ที่ 600 ลูเมน