ในยุคที่ค่าน้ำมันพุ่งทะยาน จนหลายคนโอดครวญว่าทั้งชีวิตไม่เคยจ่ายค่าน้ำมันต่อลิตรสูงขนาดนี้ ประชาชนคนธรรมดายังแทบเอาตัวไม่รอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงธุรกิจเอกชนที่ต้องเผชิญกับค่าน้ำมันที่ทบเท่าทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทด้านการขนส่ง คมนาคม โลจิสติกส์ แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ บริษัทที่ให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงได้ร่วมกับสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาสภาพคล่องด้านการเงินของภาคธุรกิจที่ต้องเสียไปกับค่าน้ำมัน ด้วยฟลีทการ์ด (Fleet Card) ลองดูว่ามีข้อดีและข้อจำกัด อย่างไรกันบ้าง และตัวช่วยใหม่ที่อุดทุกช่องว่างให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจหรือบริษัทเอกชนที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนนั้น มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ หรือแม้แต่ค่าบำรุงรักษายานพาหนะก็ตาม เหล่านี้ค่อนข้างเป็นต้นทุนที่สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าจะเป็นประมาณเท่าไหร่ หรือเป็น Fix Cost ที่ต้องเตรียมจ่ายในแต่ละเดือนนั่นเอง แต่ค่าน้ำมันนั้นเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป เพราะความผันแปรของราคาน้ำมันในปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่าแทบจะขึ้น-ลงกันเป็นรายวันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิกฤตการณ์น้ำมันโลกที่ต้องเผชิญกันในขณะนี้ด้วยแล้ว ค่าน้ำมันสำหรับบริษัทด้านการขนส่ง คมนาคม และโลจิสติกส์ ยิ่งต้องเผชิญความผันผวนไปกันใหญ่ ดังนั้น จึงมีความพยายามจากบริษัทน้ำมันเชื้อเพลิงและสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ออกผลิตภัณฑ์ฟลีทการ์ด เพื่อช่วยให้สภาพคล่องด้านการชำระค่าน้ำมันรายเดือนของภาคเอกชนให้ดีขึ้น
ข้อดีของบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด
บัตรเติมน้ำมัน หรือฟลีทการ์ด เป็นนวัตกรรมบัตรเครดิตสำหรับนิติบุคคลใช้สำหรับชำระค่าน้ำมันแทนเงินสด มีระยะเวลาในการชำระเงินคืนและปลอดดอกเบี้ยสูงสุด 55 วัน ซึ่งด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ถือเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องเงินทุนหมุนเวียนในภาคธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินสดไปกับการชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยสามารถกำหนดวงเงินเติมน้ำมันเป็นต่อครั้ง ต่อวัน ต่อสัปดาห์ และต่อเดือนก็ได้ ทำให้สามารถควบคุมจำนวนการเติมในแต่ละครั้งได้ พร้อมทั้งตรวจสอบรายการใช้จ่ายน้ำมันได้ง่าย ๆ ผ่านระบบ Web Report ทำให้สามารถดูภาพรวมของการใช้เงินไปกับค่าน้ำมันได้อย่างถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ด
ในอดีตบัตรเติมน้ำมันนั้น มีข้อจำกัดอยู่หลายประการ เช่น ไม่สามารถกำหนดผู้ถือบัตรได้ ไม่สามารถระบุคันรถและประเภทน้ำมันที่เติมได้ ทำให้มีแนวโน้มที่พนักงานขับรถจะร่วมทำการทุจริตได้ ซึ่งยิ่งทำให้บริษัทเสียเงินค่าน้ำมันไปอย่างเสียเปล่าและไม่สามารถจัดการได้อย่างรัดกุมเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการพัฒนาบัตรเติมน้ำมันฟลีทการ์ดให้สามารถระบุยี่ห้อและทะเบียนรถลงบนหน้าบัตรได้แล้ว รวมทั้งยังกำหนดประเภทน้ำมันที่เติมได้ด้วย ถึงกระนั้น หากเกิดการเติมน้ำมันที่ทุจริตระบบฟลีทการ์ดก็ยังไม่สามารถแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการให้ทราบทันทีได้
ตัวช่วยใหม่กับระบบวงแหวนอัจฉริยะ RFID Ring
ดังนั้น เพื่ออุดช่องว่างของการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นในระบบฟลีทการ์ด จึงมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ด้วยระบบวงแหวนอัจฉริยะ RFID Ring หรือ (Radio Frequency Identification) คือ การระบุเอกลักษณ์ด้วยคลื่นวิทยุในรูปแบบของวงแหวนที่ติดตั้งบริเวณฝาน้ำมันของรถที่กำหนดให้มีการเติมน้ำมันอย่างเฉพาะเจาะจง
ระบบ RFID Ring จะจดจำข้อมูลของรถแต่ละคันไว้ เช่น ยี่ห้อ, ทะเบียนรถ, ประเภทน้ำมันที่เติม, ยอดเงินคงเหลือ ทำให้ยืนยันการเติมน้ำมันในแต่ละครั้งได้ไม่ผิดพลาด นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นจนสามารถส่งข้อมูลระยะเลขไมล์ที่วิ่ง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวณอัตราการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและป้องกันการทุจริตอย่างได้อย่างดี ที่พิเศษคือ ระบบ RFID Ring สามารถแจ้งเตือนได้ทันทีหากเกิดการเติมน้ำมันอย่างทุจริตขึ้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้สามารถตรวจสอบและเรียกดูได้แบบ Real-time ผ่าน Cloud ทำให้บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างรัดกุม
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของระบบฟลีทการ์ดและระบบวงแหวนอัจฉริยะ ลองปรึกษากับบริษัทให้บริการน้ำมันชั้นนำได้แล้ววันนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของธุรกิจคุณให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฆษกพลังงาน บอกแค่ 60 วัน ลดทั้ง ‘น้ำมัน-ไฟฟ้า’ ฟุ้งรอดูฝีมือ ‘พีระพันธุ์’ อีก
กระทรวงพลังงานยุคใหม่ ภายใต้ผู้ชายชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะเดินหน้าเต็มสูบ มีโรดแมปมาตรการระยะกลาง-ยาว
'เจ๊เกียว' ร้องขนส่งฯขอขึ้นค่าตั๋วรถทัวร์กิโลเมตรละ 1 สตางค์
“เจ๊เกียว”บุกขนส่งทางบก ยื่นหนังสือขอปรับค่าโดยสารขอปรับขึ้น 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร พ่วงขอให้ลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้าน “ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง” แนะขนส่งฯใช้ประกาศโครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลที่กรมเคยใช้พิจารณาเมื่อปี55
อ่วมเรือคลองแสนแสบประกาศปรับขึ้นราคาอีก 1 บาทเริ่ม 14 ม.ค.นี้
ประกาศเรือคลองแสนแสบ ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารระยะทางละ 1 บาท จาก 8-18 บาท เป็น 9-19 บาทตามระยะทาง หลังตรึงราคามาเกือบ 2 ปี หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และราคาน้ำมันที่พุ่งในปัจจุบัน