การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงถึงชีวิต และทำให้ผู้สูบเกิดความพิการตลอดชีวิตได้ เนื่องจากมีสารพิษต่างๆ ควันบุหรี่มือสอง เสี่ยงต่อโรคถุงลมโป่งพอง มะเร็ง โควิด-19 โดยเฉพาะสถานที่ทำงานที่พนักงานต้องใช้ชีวิตร่วมกันยาวนาน 8-10 ชั่วโมง/วัน การปล่อยให้พนักงานสูบบุหรี่โดยไม่มีมาตรการควบคุมมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน โอกาสที่จะเกิดอัคคีภัย การเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการกำจัดกลิ่นของควันบุหรี่
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังคงเดินหน้ารณรงค์สร้างเสริม ความรู้ และต่อยอดกระตุ้นแนวทางการส่งเสริมการตระหนักรู้ในการดูแลป้องกันปัญหาสุขภาพอันเกิดจากควันบุหรี่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างเครือข่าย Happy Workplace ในสถานประกอบการต่างๆ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการควบคุมการสูบบุหรี่ในสถานประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม
ล่าสุด ในงานสัมมนา “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ของแรงงานและการพัฒนาสถานประกอบการปลอดบุหรี่ให้โดนใจผู้ประกอบการ” ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร ของสสส. ระบุว่า สสส.สนับสนุนสมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ดำเนินโครงการส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพแรงงานในสถานประกอบการ ตั้งแต่ปี 2551 และพบว่าปัจจุบันสถานประกอบการเห็นความสำคัญการควบคุมปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่, สุรามากขึ้น โดยสามารถพัฒนาสถานประกอบการปลอดบุหรี่ได้ 2,000 แห่ง คุ้มครองสุขภาพของแรงงานจากควันบุหรี่ได้กว่า 300,000 คน และช่วยให้แรงงานเลิกบุหรี่ได้สำเร็จกว่า 4,000 คน
ขณะที่ผลสำรวจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดปี 2562 พบว่า ประชากรวัยแรงงานสูบบุหรี่สูงที่สุด 21% มีอัตราการตาย 70,000-80,000 คน คนไทยตายจากบุหรี่มือสอง 10,000 คน โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สูบบุหรี่ หากต้องการให้อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยลดลง จำเป็นต้องทำให้อัตราการสูบบุหรี่ของประชากรวัยทำงานลดลงให้ได้
“การขยายผลในระยะต่อไป สสส.จะเร่งผลักดันและส่งเสริมผู้ประกอบการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยสร้างกลไกให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือต่างๆ ที่ช่วยให้การป้องกันและควบคุมการสูบบุหรี่ของแรงงาน เช่น เครื่องมือ สื่อ ระบบให้บริการช่วยเลิกบุหรี่ และระบบส่งต่อการบำบัดเพื่อให้เลิกบุหรี่ได้สำเร็จ โดยบูรณาการประเด็นการทำงานสร้างเสริมสุขภาพอื่นๆ ของ สสส. พร้อมขยายเครือข่ายการทำงานร่วมกับเครือข่าย Happy Workplace ที่มีมากกว่า 10,000 หน่วยงาน จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
จากการสำรวจของสำนักวิจัยประชากร มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ผู้ชายมีอายุยืนเฉลี่ย 71-73 ปี ในขณะที่ผู้หญิงมีอายุยืนเฉลี่ย 78 ปี ทั้งนี้ ในปี 2583 ทั้งหญิงและชายจะมีอายุยืนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอีก 3 ปี องค์การอนามัยโลก (WHO) แจงตัวเลขคนทั่วโลกเสียชีวิตจากโรค NCDs (non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) 70% สำหรับเมืองไทยผู้ป่วย NCDs 74% ด้วยโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง หลอดเลือด คนกลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตหรือป่วยหนัก ยิ่งในกลุ่มผู้สูงวัยที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีกิจกรรมทางกาย ไม่รับประทานอาหารครบหมู่ จะทำให้อัตราการตายก่อนวัยอันควรถึง 20 ปี บางคนเสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 50 ปี ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเมื่อเริ่มป่วย องค์กรก็ต้องเตรียมรับมือกับการรักษาพนักงานที่ติดบุหรี่
ดังนั้น ต้องหามาตรการให้พนักงานลด ละ เลิกบุหรี่ เพื่อการมีสุขภาพที่ดี สสส.ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ ในการบริโภคบุหรี่และเหล้าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยองค์รวม ทุกวันนี้นวัตกรรมในการเสพสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีช่องทางในการซื้อผ่านออนไลน์ ทั้งๆ ที่ใช้มาตรการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ เพราะถ้ากลุ่มนี้ติดบุหรี่จะติดยาวนาน โอกาสเลิกได้ยากมาก
ดร.ศันสนีย์ กีรติวิริยาภรณ์ ผู้จัดการโครงการส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพแรงงานในสถานประกอบการ กล่าวว่า ได้สำรวจสถานการณ์และพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของแรงงานในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 53สถานประกอบการ เดือน ม.ค.-พ.ค.2565 พบแรงงานในสถานประกอบการสูบบุหรี่ 20.5% เพศชายสูบบุหรี่สูงกว่าเพศหญิง กลุ่มแรงงานที่มีระดับการศึกษาสูงจะสูบบุหรี่น้อยกว่ากลุ่มแรงงานที่มีการศึกษาต่ำกว่า พฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นความเคยชิน กินข้าวอิ่มแล้วสูบบุหรี่ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด มีคนอยากสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น คนที่ทำงานร้านค้าขายส่งแบกของยกของจะสูบบุหรี่สูง
แรงงานส่วนใหญ่ 56% เริ่มสูบบุหรี่อายุ 16-20 ปี เพราะอยากลองและสูบตามเพื่อน สูบบุหรี่โรงงาน 77% (สูบ 1-10 มวนต่อวัน) มีเพียง 8% ที่สูบทั้งบุหรี่โรงงานและบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนใหญ่สูบบุหรี่หลังตื่นนอนมากกว่า 60 นาที มีแหล่งซื้อคือร้านค้าใกล้บ้านและร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยพบการสูบในที่ทำงาน 70% แบ่งเป็นสูบในพื้นที่ที่บริษัทจัดไว้ให้ 87% และสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ 13% ซึ่งพบเห็นการสูบในที่ห้ามสูบ 21% และมีแรงงานที่คิดจะเลิกสูบสูงถึง 79%
ดร.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจเลิกบุหรี่คือ ครอบครัวอยากให้เลิก โดยเฉพาะลูกที่ยังเล็กอยู่เป็นแรงจูงใจสำคัญให้เลิกบุหรี่ได้ และเป็นห่วงสุขภาพ ใช้ยาสมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน เคี้ยวหมากฝรั่ง ปรึกษาคลินิกฟ้าใส สอบถาม 1600 สายเลิกบุหรี่ การเลิกบุหรี่ได้อยู่ที่การปรับ Mind Set ให้คิดถึงครอบครัวเป็นสำคัญ การเลิกบุหรี่สำเร็จต้องพึ่งตัวเอง ขณะที่ยังมีแรงงานพยายามเลิกสูบ แต่เลิกไม่สำเร็จ 59% ส่วนใหญ่พยายามเลิก 1-3 ครั้ง โดยใช้การเลิกด้วยตนเอง ไม่ขอคำปรึกษาจากหน่วยงานให้บริการช่วยเลิกสูบบุหรี่ โดยนิยมใช้วิธีหักดิบ ส่วนใหญ่เมื่อดื่มเหล้าก็อยากสูบบุหรี่ด้วย รองลงมาคือ ลดจำนวนมวนที่สูบ ส่วนสาเหตุที่เลิกไม่สำเร็จ เพราะไม่สามารถเอาชนะความเคยชินได้ และเห็นคนอื่นสูบแล้วอยากสูบตาม ทั้งนี้ ผลสำรวจนี้เป็นประโยชน์ให้สถานประกอบการมีข้อมูลการสูบบุหรี่ของแรงงานในสถานประกอบการของตน นำไปใช้ในการวางแผนดำเนินงานและออกแบบกิจกรรมช่วยให้สถานประกอบการตนเองปลอดบุหรี่ได้อย่างถูกต้อง และช่วยให้หน่วยงานราชการนำไปวางแผนพัฒนาการช่วยเหลือการเลิกบุหรี่ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
***
สุพิชญ์ชญา เสถียรยานนท์ ผู้จัดการแผนก CSR บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด
สมัยที่ทำงานบริษัทในเครือสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เคยสูบบุหรี่วันละซอง 20 มวน เมื่อ 15 ปีก่อน แล้วเลิกได้ เพราะรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูก วันรุ่งขึ้นก็หยุดทั้งบุหรี่และเหล้าทันที
หลังจากเปลี่ยนมาทำงานในโรงงาน บ.คิวพีฯ ซึ่งมีคอนเซปต์จะให้เป็นโรงงานปลอดบุหรี่ For a Better Life เพราะพบว่าพนักงานมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค NCDs เนื่องจากมีพนักงานชายจำนวนหนึ่งที่สูบบุหรี่ 95 คน จากพนักงานกว่า 1,000 คน จำนวนนั้นเป็นพนักงานชาย 91 คน พนักงานหญิง 4 คน เมื่อชักชวนเพื่อนร่วมงานให้เลิกบุหรี่ เพื่อนก็ตอบรับ เพราะรู้ว่าเราก็เคยเป็นนักสูบมาก่อน พูดคุยกันได้ การปรับเปลี่ยน Mind Set การสร้างแรงบันดาลใจเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การประเมินผลด้วยการให้พนักงานตอบแบบสอบถามทุกเดือน ใครอยากเลิกบุหรี่ส่งไปปรึกษาคลินิกฟ้าใส รพ.ราชบุรี มีพยาบาลวิชาชีพคอยให้คำแนะนำ มีกล้อง CCTV จับไปที่จุดสูบบุหรี่ เฝ้าระวังพฤติกรรมการสูบบุหรี่เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม บางคนไม่สูบบุหรี่ในที่ทำงานเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ที่บ้าน มีการประสานกับสมาชิกในครอบครัวนำสติกเกอร์ไปติดที่บ้านเพื่อเป็นการเตือนสตินักสูบทางอ้อม ปีแรกมีพนักงานเลิกบุหรี่ได้ 5 คน บริษัทได้รางวัล Healthy Happy Enterprise
พนักงานจำนวน 5 คนตั้งใจเลิกบุหรี่ในวันที่ในหลวง ร.9 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 เป็นการร่วมกันทำความดีถวายในหลวง หลังจากที่พนักงาน 5 คนพร้อมใจกันเลิกบุหรี่ สุขภาพของเขาก็ดีขึ้น.
***
ชาคริต หนูสงค์ พนักงาน บ.เคซี อิเล็กทรอนิก ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า
ผมเลิกสูบบุหรี่ได้จากเดิมสูบบุหรี่วันละซอง สมัยก่อนผมเคยเล่นเป็น stuntman ในฉากภาพยนตร์ที่ป๋า ส.อาสนจินดา กำกับการแสดง ป๋า ส.เป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก ป่วยเข้าห้องไอซียูโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สมัยนั้นคุณศันสนีย์เป็นพยาบาลอยู่ที่นั่น ผมเลิกสูบบุหรี่เพราะเห็นว่าบุหรี่เป็นทูตมรณะ ผมใช้เวลาเลิกบุหรี่ตั้งแต่ปี 2523-2551 ถึงเลิกบุหรี่ได้ ดังนั้นผมขอให้กำลังใจคนที่คิดจะเลิกสูบบุหรี่ให้ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว
"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น
“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.
วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั
สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ
สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ
เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน
สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต