นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค เปิดเผยว่า การที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค ครั้งที่ 29 หรือ เอเปค 2565 ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพให้ทั่วโลกได้เห็นว่าไทยมีความสามารถแข่งขันในเวทีโลก อาหารไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถต่อยอดทางธุรกิจและพัฒนาให้มีความเป็นสากลได้ ทั่วโลกยกย่องอาหารไทย โดยสังเกตได้จากร้านอาหารไทยที่กระจายอยู่หลายประเทศ และเรามีความสมบูรณ์ทางทรัพยากรอาหาร สิ่งนี้ถือเป็น Soft Power ซึ่งหากเชฟชาวไทยได้มีโอกาส ได้พัฒนาทักษะ ก็จะเป็นหนทางในการสร้างรายได้ ต่อยอดทางธุรกิจการทำอาหาร ตนจึงได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ จัดทำโครงการ Future Food for Sustainability ส่งเมนูอาหารอนาคต เทรนด์อาหารยุคใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม ผสมผสานกับความเป็นไทย เพื่อเตรียมนำไว้ให้คณะผู้นำเอเปค และชาวต่างชาติได้สัมผัส ในช่วงสัปดาห์การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน นี้
สำหรับโครงการ Future Food for Sustainability เป็นโครงการประกวดทำอาหาร ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีใจรักการทำอาหารได้เข้าร่วมและนำเสนอแนวคิดเมนูอาหารแห่งอนาคตที่ถูกรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบไทย โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 ทีม มีการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันแต่ละรอบ อาทิ รอบการคัดกรองแนวคิด รอบการเข้าแคมป์พัฒนาศักยภาพ และรอบกิจกรรมแข่งทำอาหาร จนกระทั่งได้ทีมชนะเลิศในที่สุด
“ไทยเรามีชื่อเสียงระดับนานาชาติว่าเป็นครัวของโลก อาหารไทยจึงเป็น Soft Power ที่จะพาคนไทยให้ทั่วโลกได้รู้จักและต่อยอดการพัฒนาด้านอื่น คนไทยที่มีใจรักการทำอาหาร และคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาสนใจการทำอาหารมากขึ้น ขณะที่เทรนด์การรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนกำลังมาแรง เวทีการประกวดทำอาหาร Future Food for Sustainability จึงเป็นโอกาสที่ผู้เข้าแข่งขันกว่า 2,000 ทีม จะได้แสดงฝีมือและฝึกฝนจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการทำอาหารไทย ซึ่งการประกวดปัจจุบันกำลังเข้มข้น ท้ายที่สุดจะเหลือเพียง 21 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อจะได้ทำการเฟ้นหาสุดยอดอาหารแห่งอนาคตของไทย เตรียมรับคณะผู้นำและผู้เข้าร่วมการประชุมเอเปค 2565 หวังให้ผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประทับใจในรสชาติอาหารไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หวังเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้
นายกฯ ถึงสหรัฐ เตรียมประชุมเอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ หารือภาคธุรกิจ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
เปิดภารกิจนายกฯบินพบนักธุรกิจ-คนไทยในแอลเอ. ชวน ‘บิ๊กระดับโลก’ ลงทุนไทย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม ด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะออกเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
ส่องฐานะ 3 อดีตรัฐมนตรีที่พ้นเก้าอี้ในรัฐบาลเศรษฐา
ป.ป.ช.เปิดเซฟ อดีต 3 รมต. 'อนุชา' 28.9 ล้านบาท 'เจ๊แจ๋น' 877 ล้านบาท 'หมอชลน่าน' 559 ล้านบาท
รัฐบาลเตรียมพร้อม รับมือภัยแล้ง จ่อจัดงาน วันน้ำโลก 22 มี.ค.
'รัดเกล้า' เผย รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งให้ความสำคัญบริหารจัดการน้ำ พร้อมเตรียมจัดงานวันน้ำโลก 22 มีนาคม
รัฐบาลโอ่ผลงานร่วมประชุม FAO ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
'รัดเกล้า' เผย ไทยร่วมประชุม FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก แสดงศักยภาพการเกษตรไทยในเวทีโลก พร้อมเดินหน้าความร่วมมือเพื่อพลิกโฉมระบบเกษตรและอาหารเพื่อการผลิตที่ยั่งยืน