"ซิโน-ไทย"แจงปมสร้างสภาปฏิบัติตามขั้นตอนตรวจสอบได้ขอฝ่ายการเมืองหยุดข่มขู่กรรมการตรวจงาน

รัฐสภา - จากกรณีที่ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวในเชิงกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาเกียกกาย ล่าสุด 17 ตุลาคม 2565 นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารได้แถลงข่าวชี้แจงต่อประเด็นการโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า
.
ที่ผ่านมามีการโจมตีการดำเนินงานของบริษัทผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง แม้กลุ่มบุคคลดังกล่าวจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับโครงการ และอ้างว่าเป็นการทำเพื่อตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการตรวจการจ้างของรัฐสภา แต่บริษัทฯก็ได้รับความเสียหาย และตระหนักดีว่าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสังคมและสื่อมวลชน จึงขอเรียนชี้แจง ดังนี้
.
การส่งมอบงานที่ทางบริษัทได้ดำเนินการขอส่งมอบไปนั้น เป็นกระบวนการระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้าง โดยผู้รับจ้างมีหน้าที่แสดงความจำนงให้ผู้ว่าจ้างรับทราบเพื่อเริ่มต้นกระบวนการตรวจส่งมอบงาน ซึ่งในโครงการที่มีขนาดใหญ่อย่างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภานั้น การตรวจส่งมอบงานจะต้องทำไปทีละส่วน และเป็นหน้าที่ตามปกติของผู้ตรวจที่จะต้องตรวจสอบตามข้อกำหนด หากไม่เป็นไปตามรายละเอียดตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ งานในส่วนนั้นก็จะไม่สามารถผ่านการตรวจส่งมอบงานได้ ความพยายามสกัดขัดขวางกระบวนการนี้ จึงไม่เป็นประโยชน์ใดๆต่อใครเลย และไม่เป็นธรรมกับบริษัทฯด้วย หากผู้ร้องต้องการให้เกิดความโปร่งใสเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐตามที่กล่าวอ้าง ก็ควรอยากเห็นกระบวนการนี้ดำเนินไป ไม่ใช่สกัดขัดขวาง
.
ในส่วนรายละเอียดของการก่อสร้าง ทางบริษัทฯขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตามสัญญา ซึ่งข้อมูลของการก่อสร้างตามแบบมีรายละเอียดที่ซับซ้อน อาจเป็นการยากที่คนนอกอุตสาหกรรมจะเข้าใจ และการปรับแบบก็อาจเกิดขึ้นได้ภายใต้ความสมเหตุสมผลของการใช้งาน ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบ นอกจากนี้ พื้นที่บางส่วนที่มีการใช้งานไปแล้วก็อาจมีการสึกหรอได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอาคารรัฐสภาในการซ่อมแซมแก้ไขหรือให้คำแนะนำในการดูแลตามหลักวิศวกรรมตลอดมา

ขอย้ำว่า การยื่นหนังสือขอส่งมอบงานเป็นไปตามหน้าที่และตามสิทธิของผู้รับจ้าง เพื่อเริ่มกระบวนการตรวจรับมอบ หากมีส่วนใดมีปัญหา คณะกรรมการก็จะไม่รับงาน การขอส่งมอบงานของบริษัทซิโน-ไทย จึงไม่อาจก่อให้เกิดความเสียหายใดๆต่อใครได้ โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ และมีการใช้งานไปแล้ว บางส่วนอาจมีการชำรุดสึกหรอจากการใช้งานที่เกิดขึ้นได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะรอให้ทุกส่วนสมบูรณ์พร้อมๆกัน และในกระบวนการตรวจรับก็จะตรวจเป็นส่วนๆ ซึ่งเป็นไปตามปกติของการส่งมอบงานในโครงการขนาดใหญ่
.
มีรายงานว่า นายภาคภูมิ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่ทางผู้ร้องได้ยื่นเรื่องต่อ ปปช. เพื่อให้สอบคณะกรรมการตรวจการจ้างว่า “การตรวจสอบทำได้ แต่สิ่งที่ทางบริษัทมีความกังวลคือ กระบวนการกดดันและการสร้างกระแสผ่านสื่ออย่างต่อเนื่องนี้ อาจทำให้กระบวนการตรวจรับมอบงานไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ทางบริษัทเพียงต้องการความเป็นปกติในกระบวนการนี้”
.
ต่อข้อสงสัยว่าการร้องเรียนต่างๆเป็นเพราะเรื่องการเมืองหรือไม่ นายภาคภูมิกล่าวว่า “โดยรูปการณ์ก็อาจทำให้คิดอย่างนั้นได้ เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้ก็ถูกพูดถึงโดยโยงกับผู้มีตำแหน่งทางการเมืองมาตลอด ทั้งที่ตัวท่านผู้ถูกโยงนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทมาเป็นสิบๆปีแล้ว ขอย้ำว่า บริษัทซิโน-ไทย ไม่ต้องการอะไรนอกจาก “ความเป็นปกติ” ของการตรวจรับงานในโครงการนี้ และหากมีกระบวนการกลั่นแกล้งให้เกิดความไม่เป็นธรรม เราก็จะขอใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป” พร้อมทิ้งท้ายว่า วันนี้จึงต้องมาชี้แจงและขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็คือ บริษัทฯได้ทำงานตามแบบและตามสัญญา และให้ความร่วมมือสนับสนุนรัฐสภาในการดูแลพื้นที่ตลอดมา หากกระบวนการตรวจรับงานได้ดำเนินไปตามปกติ ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ข้อกังวลต่างๆก็จะได้รับการตรวจสอบ ผลประโยชน์ก็จะตกกับรัฐสภา