‘จุติ ไกรฤกษ์’ รมว.พม. ร่วมถอดบทเรียนความรุนแรงหนองบัวลำภู ขณะที่กองทุนสวัสดิการชุมชนร่วมสมทบน้ำใจเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

รมว.พม. (เสื้อในสีเหลือง) เยี่ยมครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

หนองบัวลำภู / ‘จุติ  ไกรฤกษ์’  รมว.พม.  นำคณะผู้บริหารกระทรวง พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมถอดบทเรียนการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมตั้งทีมงาน 39 ทีมเข้าไปดูแลเยียวยาฟื้นฟูครอบครัว  ขณะที่กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบล 67 กองทุนร่วมสมทบน้ำใจเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม  เวลา 10.00  น.  นายจุติ  ไกรฤกษ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พม.  ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำพู   เพื่อประชุมถอดบทเรียนการให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ตำบลอุทัยสวรรค์  อำเภอนากลาง โดยมีนายสุวิทย์ จันทร์หวร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู  (รักษาการ ผวจ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดหนองบัวลำภูและอุดรธานีเข้าร่วมประชุม

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.

ทั้งนี้เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและพื้นที่ข้างเคียงในตำบลอุทัยสวรรค์เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงของวันที่  6 ตุลาคม  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลาง  รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภูและใกล้เคียง  ได้ระดมทีมงานนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาเข้าไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

พม.จัด 39 ทีมงานลงพื้นที่ดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

นายจุติ  ไกรฤกษ์   รมว.พม.  กล่าวว่า  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดหนองบัวลำภูนั้น วันนี้จึงมาถอดบทเรียน   และมาจัดการเรื่องทีมงานเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลเยียวยาครอบครัวที่ประสบเหตุ   โดยแบ่งทีมงานเป็น 39 ทีม เข้าไปดูแลเรื่องภาวะสุขภาพจิต   ภาวะเศรษฐกิจ  และคุณภาพชีวิตให้ครบถ้วน   รวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชุมชนในพื้นที่ที่มีปัญหา   และจากนี้ไปจะติดตามเรื่องการสร้างเครือข่ายในการป้องกันความรุนแรง

รมว.พม. กล่าวต่อไปว่า    หลังจากนี้ไปกระทรวง พม. ซึ่งมีหน้าที่ติดตามเยียวยาสังคมจะลงพื้นที่อย่างเข้มข้น และจะรายงานความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน   และหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับสังคมไทยที่จะใช้เหตุการณ์นี้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสแก้ปัญหาของสังคม   แก้ปัญหายาเสพติด  แก้ปัญหาการใช้อาวุธปืนที่ไม่เหมาะสม   แก้ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด

ส่วนการดำเนินการหลังจากการถอดบทเรียนแล้ว  ทีมงานทั้ง  39 ทีมงานจะลงพื้นที่เพื่อเร่งพื้นฟูสุขภาพสภาวะทางจิต   ฟื้นฟูอาชีพ  และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้ครบถ้วนในทุกครอบครัวที่สูญเสีย  โดยจะจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาทั้งชายหญิง  กีฬาผู้สูงอายุ   รวมทั้งการฝึกอาชีพในระยะสั้นเพื่อให้ครอบครัวผู้สูญเสียสามารถประกอบอาชีพได้เลย

รมว.พม. และคณะผู้บริหาร  ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

น้ำใจจากกองทุนสวัสดิการชุมชน

หลังจากนั้นในช่วงบ่ายของวันที่ 14  ตุลาคม  รมว.พม. พร้อมด้วยผู้บริหาร  คณะเจ้าหน้าที่  และนายกฤษดา  สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ  พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภค - บริโภคให้แก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้  

นอกจากนี้กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลในจังหวัดหนองบัวลำภูรวม 67 กองทุน  ได้ร่วมกันสมทบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบและครอบครัวจำนวน  160,000 บาท   แยกเป็น  1.เครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู   ช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 2,000 บาท  จำนวน 36 คน   ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ  รายละ 1,000 บาท 11 ราย  รวมเป็นเงิน 85,000 บาท   2.กองทุนสวัสดิการตำบลอุทัยสวรรค์  ช่วยเหลือจำนวน 4 ราย  รวม 42,000 บาท   และ 3.ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ไม่ได้เป็นสมาชิก  จำนวน 33 ราย  รายละ 1,000 บาท   รวม 33,000 บาท

ทั้งนี้กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลเป็นกองทุนที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ ‘พอช.’ สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ  ร่วมกันจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อเป็นกองทุนสำหรับช่วยเหลือสมาชิก (รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก) โดยมีหลักการสำคัญคือ  สมาชิกจะต้องสมทบเงินเข้ากองทุนวันละ 1 บาท  หรือปีละ 365 บาท 

ขณะที่รัฐบาลจะสมทบเงินสนับสนุนกองทุนผ่าน พอช. รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เช่น  อบต. สามารถร่วมสมทบเงินเข้ากองทุนได้  เพื่อให้กองทุนเติบโต  ช่วยเหลือสมาชิกในยามเดือดร้อนจำเป็น  เช่น  เกิด  เจ็บป่วย  เสียชีวิต  ฯลฯ  ปัจจุบันมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนในระดับตำบล/เทศบาลทั่วประเทศประมาณ 5,500 กองทุน  มีเงิน กองทุนรวมกันเกือบ 20,000 ล้านบาท

นายกฤษดา  สมประสงค์  ผอ.พอช. ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บ้านน้ำเชี่ยว 2 ศาสนา3 วัฒนธรรม” สานพหุวัฒนธรรม นำสู่การจัดการจัดการตนเอง (2)

พวกเราได้รู้จักบ้านน้ำเชี่ยวจังหวัดตราดไปแล้ว ต้องบอกว่าเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

เครือข่ายพัฒนาที่อยู่อาศัย 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ผนึกพลังทุกภาคส่วนสร้างบ้านเพื่อทุกคน เสนอรัฐหนุนเสริมบ้านโดยชุมชน ปลดล๊อกสิทธิที่ดินและระบบการเงิน สู่ความยั่งยืนมั่นคง

กทม. : วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนจาก 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ร่วมเสนอแนวทางการการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ

ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เปิดวงแลกเปลี่ยนบทเรียนการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ

วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน หน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน ประชาสังคม นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ

วราวุธ รมว.พม. เยี่ยมบ้านมั่นคงเมืองย่าโม ย้ำนอกจากมีบ้านแล้วต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกครัวเรือน

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบ้านมั่นคง