หมดยุครีดเลือดจากปู ! “ภราดร” มั่นใจ กยศ. อยู่ได้ แม้ ไร้เบี้ยปรับ ตัดดอกเบี้ย ชี้ มีงบลงทุนมหาศาล

นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลักดันนโยบายเงินกู้ กยศ.ปลอดดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ ว่า เรื่องนี้ ผ่านการพิจารณาของชั้นสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว เสียงข้างมากมีมติให้ผ่าน นี่คือความสวยงามของประชาธิปไตย ตอนนี้ ต้องให้ ส.ว.พิจารณา แต่ถ้าท่านท้วงติง ก็ต้องกลับมาตั้งกรรมาธิการร่วม แล้วหาทางเดินหน้ากันต่อ แต่พรรคภูมิใจไทย ทำสุดความสามารถ เรามองเห็นปัญหาจากการลงพื้นที่ และนี่คือปัญหาหนึ่งที่ต้องแก้ไข อันที่จริง นโยบาย กยศ.ของพรรค คือ ตัดผู้ค้ำ ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ เขานำเสนอเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2557 แต่ตอนนั้น มีปัญหาทางการเมือง แล้วก็เว้นวรรคกันไป กลับมาคราวนี้ ต้องลุยกันต่อ เรื่องแรกผ่านไปแล้ว เหลืออีก 2 เรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่มีเบี้ยปรับ จะจูงใจให้ผู้กู้ไม่จ่ายหรือไม่ นายภราดร ตอบว่า ไม่เคยมีข้อมูลว่า ถ้าไม่มีเบี้ยปรับแล้วผู้กู้จะไม่จ่าย แต่ข้อมูลที่มีคือ การไม่จ่าย เพราะดอกเบี้ย และเบี้ยปรับทำให้เขาจ่ายไม่ไหว เลยตัดสินใจเบี้ยวเลย ยกตัวอย่าง บางคนกู้มาแสนเดียว เรียนจบมามีปัญหาครอบครัว ทำงานไปได้สักพัก ต้องกลับมาดูแลพ่อแม่ เงินทองขัดสน ผ่อนผันแล้ว ก็ยังหาเงินมาจ่ายไม่ทัน ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง พอจะลืมตาอ้าปากได้ จากหนี้ 1 แสนบาท กลายเป็นหนี้ 3-4 แสนบาท จึงตัดสินใจไม่จ่าย ทั้งนี้ สมมุติ ถ้ากฎหมายผ่าน ทาง กยศ.สามารถออกกติกาใหม่ได้อยู่แล้ว ทั้งการคุบกับนายจ้าง ธนาคาร ถึงกระบวนการติดตาม ไปจนถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่มีวินัย ตั้งใจ เบี้ยวหนี้

“เราอย่าไปคิดว่าคนจนต้องเลว เลวจนถึงขั้นไม่จ่ายหนี้ นี่คือสมมุติฐานที่ผิด ความเป็นจริง การที่เขาไม่จ่าย มันเป็นเพราะปัจจัยอื่นหรือไม่ กู้มา 1 แสนบาท แต่จ่ายคืน 3-4 แสนบาท มันยุติธรรมไหม ก็ไหนบอกว่าเป็นกองทุนเพื่อการศึกษา ทำไมไปเอากำไรจากคนจนขนาดนี้ล่ะ แล้วถ้าเราช่วยเขาได้ เขาก็พร้อมชำระหนี้แน่นอน ทุกคนมีศักดิ์ศรี และไม่มีใครอยากทำผิดหรอก มันเป็นตราบาป”

ขอเรียนชี้แจงว่าปัจจุบัน กองทุน กยศ.เป็นกองทุนขนาด 3-5 แสนล้านบาท มีรายได้จาก 3 ทาง 1. กำไรจากการฝากธนาคาร ประมาณ 6-8 ร้อยล้าน 2. เบี้ยปรับ 3.ดอกเบี้ย 2 อย่างหลังประมาณ 5-6 พันล้านบาท เป็นรายได้หลัก ปัญหาคือ กยศ.มีรายได้หลัก จากการหากินกับประชาชน คนที่ไม่ค่อยจะมีทรัพยากรเป็นฐานทุน เพราะผู้ที่ไปกู้ กยศ. ไม่ใช่คนที่ร่ำรวยเงินทองแน่ๆ แบบนี้ เรียกว่ารีดเลือดจากปูหรือไม่ ตนไม่ได้กล่าวร้ายบุคลากรที่ทำงานใน กยศ. แต่ระบบมันบิดเบี้ยว มันก็ต้องกลับไปแก้ให้มันถูกต้อง กองทุนระดับ กยศ. ถือว่ามีความมั่นคงมาก มีวิธีนำเงินไปลงทุนอยู่แล้ว กองทุนขนาดใหญ่แบบนี้ มีความั่นคงสูง อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ รับรองว่า มีแต่คนเวลคัม และสามารถมีรายได้ โดยไม่ต้องไปเก็บดอกเบี้ย และไปเอาเบี้ยปรับกับคนจน ทำให้กองทุนเป็นบริการสาธารณะที่สมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมา ทุกพรรคการเมือง ก็เสนอเรื่องการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา การเรียนฟรี เรื่อง กยศ.มาอยู่ตรงหน้า ก็หวังว่าจะเข้าใจกันได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิใจไทย' นัดหลังปีใหม่ ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป ว่า

'อนุทิน' ไม่หวั่น 'ทักษิณ' โวกวาด 200 เสียง ยัน 'รมต.-สส.' ภท. ขยันทำงาน

'อนุทิน' ชี้ 'ทักษิณ' โวเลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 200 เสียง มีสิทธิตั้งเป้า ยัน ภท. ไม่เงียบ 'รมต.-สส.' ลงพื้นที่ทำงานขึ้นเหลือล่องใต้ ปัดส่งผู้สมัครชิง นายก อบจ. ในนามพรรค

เคาะ 'รองปลัดคลัง-อธิบดี กสร.' นั่งบอร์ดไตรภาคี ลุยขึ้นค่าแรง 400 ของขวัญปีใหม่

'กระทรวงแรงงาน' เตรียมเสนอชื่อ 'ตัวแทน กสร.-รองปลัดคลัง' นั่งบอร์ดไตรภาคี ขง ครม. 19 พ.ย. เดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่

จับตา ส่อแตกหัก! เพลงกระบี่อำมหิตบรรเลงแล้ว 'เพื่อไทย' เดือด! กระซวกคืน 'ภูมิใจไทย'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย นักวิจารณ์การเมือง โพสต์ข้อความว่า เพลงกระบี่อำมหิตบรรเลงแล้วเพื่อไทยเดือดกระซวกคื

'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร

'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%

"ไชยชนก" นำ รมต. - รมช. - กก.บห. - สส. พรรคภูมิใจไทย วางพวงมาลาถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช 23 ต.ค.

23 ตุลาคม 2567 ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล