4 ทศวรรษ กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร เกี่ยวกับโครงการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อความกินดีอยู่ดี หรือพออยู่พอกินให้แก่ประชาชนในชนบทที่อยู่ห่างไกลและยากจน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีส่วนสำคัญที่เข้าไปเสริมแผนงานต่างๆ ของรัฐบาลก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงเป็นส่วนรวม

ในการปฏิบัตินั้น หากจะปล่อยให้การดำเนินงานสนองพระราชดำริของหน่วยงานต่างๆ เป็นไปอย่างในอดีตที่ผ่านมา ที่แต่ละหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเอกเทศต่างฝ่ายต่างทำไม่มีการประสานงานกับหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลจึงได้กำหนดให้มีองค์กรระดับชาติรับผิดชอบเรียกว่า "คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" หรือเรียกโดยย่อว่า "กปร."

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2524 นายลลิต ถนอมสิงห์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่าปัจจุบันโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีทั้งหมด 5,151 โครงการ ตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 9 จนถึงรัชกาลที่ 10 พระองค์ทรงให้ความสำคัญในการพัฒนาแหล่งน้ำซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพของราษฎร ตลอดถึงพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 6 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อศึกษาทดลองจนประสบความสำเร็จแล้วขยายผลสู่การนำไปปฏิบัติใช้ของราษฎร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจึงนับเป็นโอกาสของประชาชนที่จะเข้าไปเรียนรู้และนำสิ่งเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และประกอบอาชีพ
อย่างเช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จ.สกลนคร ที่นอกจากการศึกษาทดลองด้านพันธุ์พืชแล้วยังมีด้านสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม นำมาเป็นอาหารในครัวเรือน และขายได้ เช่น 4 ดำภูพานแล้ว ประกอบด้วย ไก่ดำภูพาน สุกรภูพาน โคทาจิมะ (โคเนื้อ) และกระต่ายดำ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงความสำเร็จด้านการพัฒนาพันธุ์สัตว์ และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างชัดเจน

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานแนวทาง และวางรากฐานไว้ว่าการพัฒนานั้นต้องเป็นการพัฒนาแบบพึ่งพาตนเองเพื่อให้ตนเองเกิดความเข้มแข็ง และผู้อื่นก็สามารถที่จะดำเนินการได้ด้วยการเพิ่มทักษะ องค์ความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกที่ดีมีคุณธรรมต่อตนเองและผู้อื่น เหล่านี้เป็นพื้นฐานความคิดที่ดีที่ถูกต้อง สามารถนำไปเป็นแนวทางพัฒนาและปรับใช้ในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในทุกๆ ด้าน เป็นสัมฤทธิ์ผลได้” นายลลิต ถนอมสิงห์ เลขาธิการ กปร. กล่าว

“41 ปีที่ผ่านมาทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักคือประโยชน์สุขของประชาชน และต่อจากนี้จะมีการสืบสานรักษาต่อยอดตามพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการขัยเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในทุกด้านให้บรรลุผลตามพระราชประสงค์ต่อไป” เลขาธิการ กปร. กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในหลวง พระราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพุ่มดอกไม้ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ร่วมบูรณาการ รัฐ เอกชน มูลนิธิ และประชาชน จัดงาน ‘ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร’ ปี 67 อย่างยิ่งใหญ่

นางพิชญดา หัศภาค รองเลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า สำนักงานกปร.จะจัดนิทรรศการที่แสดงถึงผลสำเร็จของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่ง และศูนย์สาขา ทั่วประเทศ ในรูปแบบจับต้องสัมผัสได้ในผลสำเร็จต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันในงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร” ปี 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ

ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก น้อมรำลึก ร.9

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์และประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระราชทานพระราชานุญาตให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดงาน “ชัยพัฒนาแฟร์” ขึ้น เพื่อแสดงแนวคิดด้านการพัฒนา

เตรียมพบกับคอนเสิร์ตเพลงพระราชนิพนธ์ครั้งยิ่งใหญ่ 'H.M. Blues'

ปรากฏการณ์ดนตรีแจ๊สครั้งสำคัญที่คนไทยจะได้ร่วมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีแจ๊สของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงแจ๊สที่มีคุณค่าเป็นจำนวนมาก

เอกลักษณ์ คน กปร. ตัวคูณ ร่วมสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สำนักงาน กปร. เดินหน้า 10 ปี ต่อเนื่อง โครงการศึกษาอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) ก้าวสู่รุ่นที่ 12 และหลักสูตรนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 11 ภายใต้โครงการ RDPB Talk ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

43 ปี "อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" สร้างสุข สู่รอยยิ้ม และความยั่งยืน

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศนั้น มีส่วนสำคัญต่อการเสริมแผนงานต่าง ๆ ของรัฐบาลและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง อันเป็นผลจากพระราชกรณียกิจ