นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โรคใบด่างมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเดินหน้าสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และร่วมหารือแนวทางบริหารจัดการสถานการณ์
การระบาดกับเกษตรกรในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรคใบด่างมันสำปะหลังเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จากการที่คณะผู้บริหารของกรมส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง และร่วมเจรจากับพี่น้องเกษตรกรตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังสำคัญของประเทศ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโรคใบด่างมันสำปะหลังได้โดยเกิดผลกระทบน้อยที่สุดนั้นพบว่า เกษตรกรรับรู้และให้ความสำคัญกับการใช้พันธุ์มันสำปะหลังทนทานต่อโรค ได้แก่ พันธุ์ระยอง 72 พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 และพันธุ์ห้วยบง 60 เพื่อลดการติดโรคและการแพร่ระบาด ประกอบกับมีการปรับเปลี่ยนพืชปลูกหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือปลูกพืชเเซมมันสำปะหลัง ได้เเก่ ฝรั่ง มะละกอ เเละทุเรียน ซึ่งสร้างรายได้ทดแทน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถลดพื้นที่การปลูกมันสำปะหลังและลดพื้นที่การระบาดไม่ให้ขยายวงกว้างได้ในอนาคต
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกพืชทดแทนมันสำปะหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาโรคใบด่าง หรือการปลูกพืชแซมมันสำปะหลัง คาดว่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคลงได้ โดยพืชผลเศรษฐกิจที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของโลก เละปัจจุบันตลาดยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ในการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิด เกษตรกรควรทำการวิเคราะห์สภาพของดินและความเหมาะสมในพื้นที่เพาะปลูกของตนเองก่อนการเพาะปลูก เพื่อประเมินความคุ้มทุน และควรปลูกพืชผสมผสาน ป้องกันการถูกโจมตีหรือเข้าทำลายโดยศัตรูพืชชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบสูง
สำหรับพืชอาศัยของแมลงหวี่ขาวยาสูบ พาหะนำโรคใบด่างมันสำปะหลัง ได้แก่ กะเพรา โหระพา
มันฝรั่ง พืชตระกูลพริกมะเขือ พืชตระกูลถั่ว และวัชพืชที่ติดมากับพืชอาศัย เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังควรหลีกเลี่ยงการปลูกพืชอาศัยดังกล่าวในบริเวณพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง และหมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกมันสำปะหลังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของแมลงหวี่ขาวยาสูบด้วย ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โชว์ศักยภาพภาคเกษตรไทยด้านความมั่นคงอาหาร ในฐานะครัวของโลก
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงอาหารโลก
พาณิชย์ติดตามสถานการณ์ข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ของเกษตรกร พร้อมเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรใน นบข. 8 พ.ย.นี้
พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ ติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด และพบปะกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์
โครงการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรและประมง เพิ่มศักยภาพการผลิต สร้างมูลค่าและขยายฐานตลาดแก่สถาบันเกษตรกร
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรและประมง ปี 2567
ศพก. - แปลงใหญ่ มุ่งเน้นการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับรายได้ พัฒนาศักยภาพเกษตรกร
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากการประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานของคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และแปลงใหญ่ระดับประเทศ ครั้งที่ 4/2567 ณ
แปลงใหญ่กล้วยน้ำว้า เพชรบุรี วางแผนกู้วิกฤต
นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร เช่นเดียวกับเกษตรกรแปลงใหญ่กล้วย หมู่ 2,3,6
สศท.7 เผยผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาน้ำนมดิบอินทรีย์ ภายใต้ BCG Model สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร
นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาเกษตรอินทรีย์รายสินค้า