“วราวุธ” เผย จัดประชุม TCACประสบความสำเร็จทะลุเป้า มีผู้เข้าร่วมกว่า 3 พันคน

รมว.ทส. “วราวุธ” เผย สร้างความสำเร็จอีกครั้งกับทบาทแก้ปัญหาโลกร้อน การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย หรือ TCAC ครั้งแรกของไทย สำเร็จทะลุเป้า ชี้เป็นการส่งข้อความประกาศให้ทุกประเทศทั่วโลกถึงบทบาทไทยต่อการแก้โลกร้อนที่ต้องร่วมสนับสนุนเต็มที่

วันที่ 6 ส.ค 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว The Way Forward ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand’s Climate Actions: The Way Forward) ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 6 ส.ค. 2565 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย หรือ TCAC ถือครั้งแรกของประเทศไทยที่เป็นเวทีสร้างพลังการขับเคลื่อน สร้างพลังการรับรู้ และการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้กิจกรรมต่าง ๆ ที่มาจากพลังของคนไทยที่ผมเชื่อมั่นในศักยภาพ ผมเชื่อมั่นในความสามารถของคนไทยกับการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดการประชุมตลอดทั้ง 2 วัน

“การประชุมในครั้งนี้ ทำให้เกิดความชัดเจนในส่วนของการขับเคลื่อนของหน่วยงานภาครัฐ ถึงการนำเป้าหมายที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการ ในการมุ่งบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 ในงาน COP26 ไปสู่นโยบาย แผนชาติ และ แผนพัฒนารายสาขาทำได้อย่างไร โดยในส่วนของ ทส. จะมีการส่งร่าง) ยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Thailand’s Long-Term Low Greenhous Gas Emission development Strategy) รวมถึงNDC ฉบับปรับปรุง ให้กับ UNFCCC ภายในปลายปีนี้ ก่อนที่ ทางทส. จะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุม COP 27  ในช่วงเดือน พ.ย.ที่ประเทศอียิปต์

รมว.ทส. กล่าวต่อไปว่า ขณะที่การขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ ระดับจังหวัดและท้องถิ่น  ได้เห็นความชัดเจนของจังหวัดต่าง ๆ ไม่ว่า เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต และ กทม. ในการนำนโยบายไปสร้างร่วมมือกับพี่น้องประชาชนทั้ง 67 ล้านคนทั่วประเทศ ไปสู่แนวทางและกำหนดเป้าหมายการลด GHG ระดับจังหวัด และเตรียมพร้อมปรับตัว ต่อผลกระทบ ซึ่ง ทส. และตนเองนอกจากจะอยู่ในฐานะ รมว.ทส. ยังเป็น สส.ของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเข้าใจและรู้สึกถึงผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่ง สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ เช่น การเกิดน้ำท่วม ดังนั้นจึงขอกล่าวว่า ทส. พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัด และการขยายผลไปสู่ทุกจังหวัด ทั่วประเทศตามคำประกาศของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

พร้อมกันนี้ รมว.ทส. ยังได้กล่าวถึงประเด็นความร่วมมือจากต่างประเทศว่า ต้องขอขอบคุณ เอกอัครราชฑูต และอุปฑูต จาก 50 กว่าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครือรัฐออสเตรเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ญี่ปุ่น สมาพันธรัฐสวิส และสหรัฐอเมริกา ที่พร้อมยืนเคียงข้างประเทศไทยในฐานะพันธมิตร รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศกว่า 20 องค์กร ที่สนับสนุน ให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมาย เช่น ด้านพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น ถือว่าวันนี้ เป็นวันที่ประเทศไทย จะส่งข้อความไปทุกประเทศทั่วโลกว่า จะต้องมาทำตามข้อสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประเทศไทย ไม่ว่า เรื่องของงบประมาณสนับสนุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างศักยภาพให้เกิดขึ้นในประเทศ ด้วยวันนี้ประเทศไทยเราเริ่มแล้ว ทุกประเทศต้องทำตามในสิ่งที่ได้สัญญาไว้ ถึงเวลาที่ต้องมาช่วยประเทศไทย

“ และที่เป็นที่น่ายินอย่างยิ่งอีกประกาศ จากการประชุมในครั้งนี้ นั่นคือ การตอบรับเป้าหมาของประเทศจากผู้บริหารระดับCEO ของภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ที่ได้เห็นความสำคัญ และกำหนดให้มีการตั้งเป้าหมาย Net-zero ขึ้นในระดับองค์กร ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความตื่นตัว และนำมาซึ่งการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่า (Added Value) ให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ เศรษฐกิจสีเขียวและยั่งยืน”

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่ตนเองถือว่า เป็นกลุ่มพลังที่สำคัญมากที่สุด คือ เยาวชน ที่พร้อมเป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะมีความเข้าใจ มีความตื่นตัว ซึ่งต้องช่วยสนับสนุนตามที่เยาวชนได้นำเสนอ เช่น การเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ สร้างความตระหนักแก่เยาวชน ผ่านการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันในส่วนของพี่น้องประชาชนสามารถมีส่วนร่วมง่าย ๆจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และเริ่มได้ในวันนี้ อาทิ การประหยัดพลังงาน การคัดแยกขยะ การรีไซเคิล การเดินทางโดยรถสาธารณะ และการร่วมปลูกต้นไม้ เป็นต้น

“งาน TCAC ที่จัดขึ้น และสำเร็จลงได้ เป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของทุกฝ่าย ทั้ง ภาครัฐ เอกชน ประชาชน องค์กรต่าง ๆ กว่า 500 แห่ง เพื่อการบรรลุเป้าหมายของประเทศ และประโยชน์สูงสุดของประชาชนจากกิจกรรมจัดนิทรรศการกว่า 30 บูธ และมีผู้สนใจเข้าร่วมงานทั้ง 2 วันมากกว่า 3,000 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นโอกาสอันดี ที่ไทยจะนาผลการดาเนินงานที่เป็นรูปธรรมไปประกาศต่อที่ประชุม COP27 ซึ่งหวังว่าการจัดประชุม TCAC จะสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมไทยให้เห็นความสำคัญของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งต้องขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดาเนินงานด้าน climate changeเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นในปัจจุบัน และส่งต่อโลกที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกหลานของเราในอนาคต” นายวราวุธ กล่าวในที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ดร.เฉลิมชัย” ชูโครงการธรรมจักรสีเขียว สร้าง “วัดต้นแบบ” - เพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศ

ป่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง รวมถึง “พระพุทธศาสนา” ที่มีความสัมพันธ์กับป่าไม้อย่างลึกซึ้ง

'ประเสริฐ' แจงม็อบพีมูฟ ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ที่ทำกินให้คนอยู่กับป่าได้

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ) นำโดย นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานและที่ปรึกษาพีมูฟ รวมตัวจัดกิจกรรมคัดค้านการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

ครม. ไฟเขียวร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ยันไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกา โครงการอนุรักษ์ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ มาตรา 64

ชาวบ้านลุกฮือ ค้าน พรฎ.ของกรมอุทยานฯ ชี้สร้างความขัดแย้งชุมชนกับภาครัฐ

ชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.แม่ฮ่องสอน ได้ทำหนังสือถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อขอให้ยกเลิกการออกพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ

ฉีกสัญญาพีมูฟ 'กรมอุทยาน' ดันร่างกม.ลูกเข้า ครม.ส่อพิพาทป่าทับคนรุนแรงขึ้น

ส่อความขัดแย้งเพิ่ม พีมูฟเบรกร่างกม.ลูกกรมอุทยานฯ เข้า ครม . ชี้ยิ่งจุดชนวนสร้างข้อพิพาทป่าทับคนรุนแรงขึ้น