รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ เปิดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 3 ชูจุดเด่นการพัฒนาต่อยอดพืชกัญชาเป็นผลิตภัณฑ์โปรดักส์แชมป์เปี้ยน สร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ของแต่ละจังหวัด เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชน
วันนี้ (6 สิงหาคม 2565) ที่สนามกีฬากลางจังหวัดอุทัยธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 3 พร้อมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “กัญชา กัญชง ความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ” และมอบต้นกัญชาให้กับตัวแทนประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับต้นกัญชาผ่านแอปพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอัทัยธานี นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี เขต1 นายมานพ ศรีผึ้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผู้บริหารของกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน อสม.และประชาชน เข้าร่วมงาน
นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี มุ่งให้เกิดการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ช่วยให้ผู้ป่วยกว่าแสนรายสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยยากัญชาที่มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมกับผลักดันให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้ทั้งผู้ปลูก ผู้แปรรูป ในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนและธุรกิจสุขภาพ เช่น ยา อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สปา เป็นต้น โดยตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่มีการปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด ประชาชนสามารถปลูกและนำมาใช้ดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น รวมถึงต่อยอดเศรษฐกิจครอบครัวได้ ยกเว้นสารสกัดจากกัญชาที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% ยังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งสื่อสารทำความเข้าใจในการนำพืชกัญชามาใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งการจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 3 ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และภาคีเครือข่าย มาร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตั้งแต่การปลูก การนำส่วนต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์เพื่อการรักษา การประกอบอาหาร การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตลอดจนการต่อยอดในเชิงธุรกิจให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ใช้กัญชาได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และต่อยอดทางธุรกิจอย่างคุ้มค่า
นายอนุทินกล่าวต่อว่า กัญชา กัญชง มีประโยชน์มาก สามารถนำไปใช้ในการรักษา และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ดังที่เขตสุขภาพที่ 3 ได้พัฒนาต่อยอดพืชกัญชาจนเป็นผลิตภัณฑ์โปรดักส์แชมป์เปี้ยน ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยชูอัตลักษณ์ของ 5 จังหวัด ได้แก่ โลชั่นกัญชา แคนนาบิส บอดี้โลชั่น จังหวัดนครสวรรค์, เพชรศิลา ซีบีดี บูสเตอร์ เซรั่ม จังหวัดกำแพงเพชร, ผงปรุงรสผสมกัญชา จังหวัดชัยนาท, น้ำปลาร้าปรุงรสพาสเจอร์ไรส์จกนัว (สูตรผสมสมุนไพรกัญชา) จังหวัดพิจิตร และน้ำพริกปลาแรดกัญจัง จังหวัดอุทัยธานี ดังนั้น ขอให้ทุกคนได้นำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง และช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ขอยืนยันว่าเรามุ่งเน้นส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ไม่สนับสนุนการเสพและสันทนาการ
ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 3 ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท และอุทัยธานี เป็นเขตสุขภาพที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนกัญชาเสรีทางการแพทย์ มีการดำเนินการทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยในส่วนต้นน้ำ ได้ส่งเสริมการปลูกกัญชาในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการปลูก การดูแลรักษา การจัดการโรคและแมลง เพื่อให้ได้ต้นกัญชาที่มีคุณภาพ ส่วนกลางน้ำ มีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการผลิตยากัญชาทางการแพทย์ 4 ตำรับ ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ ยาแก้ลมแก้เส้น ยาทำลายพระสุเมรุ และน้ำมันไพลใบกัญชา โดยโรงพยาบาลสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท และมีแผนการผลิตน้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชา โดยโรงพยาบาลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ส่วนปลายน้ำ เปิดให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลภาครัฐครบทั้ง 54 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการ 2 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน 3 แห่ง มีบุคลากรที่ผ่านการอบรมการใช้กัญชาทางการแพทย์ครอบคลุมทุกสายวิชาชีพ ทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และแพทย์แผนไทย รวมทั้งสิ้น 484 คน ทำให้ประชาชนเข้าถึงการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบันได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
สำหรับการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การประชุมวิชาการด้านการแพทย์ เสวนาวิชาการ การบรรยาย แนะนำการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง จากวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย และการตรวจรักษาโรคต่าง ๆ โดยใช้ยาตำรับกัญชาที่เหมาะสมกับโรค อาทิ น้ำมันกัญชา (อาจารย์เดชา) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมบูทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ บูทให้คำปรึกษาการปลูกและการแปรรูปมม จากกัญชา สาธิตเมนูอาหารกัญชา สาธิตการปลูกกัญชาอย่างไรให้รอด รวมไปถึง การให้ความรู้จากกรมวิขาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สถาบันทางการเงินที่ปรึกษาในการปลูกกัญชา คลีนิคเกษตร เป็นต้น ประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้มีจำนวนผู้เข้า 12,000 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน
นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด
เอกชนแนะ สร้าง Ecosystem ด้านสุขภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ของอาเซียน
ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ผ่านการพัฒนา Ecosystem ด้านสุขภาพที่ครบวงจร ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจ แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ