รองนายกฯ “ประวิตร” ห่วงใยประชาชนพื้นที่เสี่ยง รับผลกระทบ ช่วง 27 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ สทนช.เด้งรับลูกเตรียมพร้อมเต็มร้อย ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมการรับมือทั้งมรสุมและระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง ผนึกกำลังเสริมแนวคันกั้นน้ำที่ชำรุด ปรับการระบายน้ำรับสถานการณ์
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( สทนช.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) มีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ จากกรณีการเกิดมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.- 1 ส.ค. 65 นี้ และส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ พร้อมสั่งการให้ สทนช. และฝ่ายปกครอง ประสานกับทหาร ตำรวจ และจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งแจ้งเตือนประชาชน และเตรียมความพร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยงอย่างทันท่วงที รวมถึงกำชับให้ สทนช. ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง และการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วงระหว่างวันที่ 28 ก.ค. - 1 ส.ค.65 อย่างใกล้ชิด นั้น
ขณะนี้ สทนช.ได้เร่งประสานหน่วยงานด้านน้ำที่เกี่ยวข้องภายใต้ กอนช.พร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งจากสถานการณ์ที่อาจจะเกิดฝนตกหนัก ประกอบกับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.9 – 2 เมตร อาจกระทบกับประชาชนที่อาศัยในชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราว รวมทั้งจุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะแนวคันกั้นน้ำที่ชำรุดในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และ สมุทรปราการ ซึ่งสทนช. ได้ดำเนินการประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยแนวทางดำเนินการ คือ การเสริมคันกั้นน้ำชั่วคราว การสำรวจความมั่นคงแข็งแรงของแนวคันป้องกันไม่ให้เกิดน้ำหลากเข้าท่วมบ้านประชาชน รวมถึงการประสานหน่วยงานรับผิดชอบปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งประสานการขอความร่วมมือจากจิตอาสา ช่วยสนับสนุนการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
“ความคืบหน้าในการช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด อุตรดิตถ์ น่าน เลย พิจิตร นครราชสีมา ระนอง ตรัง และนครศรีธรรมราช สทนช. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการจัดส่งเครื่องมือ เครื่องจักร เพื่อเร่งระบายน้ำโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันทุกพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมจะได้เข้าสำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยยังคงเหลือเพียงจังหวัดยะลาที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3 วัน และได้ทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง” ดร.สุรสีห์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
เดินตามแนวพระราชดำริ...ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมพร
ในช่วงวันที่ 13-15 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงได้พัดปก คลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ตอนล่างเคลื่อนลงสู่ทะเลอัน
กรมอุตุฯ ประกาศพายุดีเปรสชันฉบับ 3 เตือนฝนตก 25-26 ธ.ค.
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 3 โดยมีใจความว่า
อุตุฯ เตือนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง
"วราวุธ" ย้ำ พม. ห่วงใย เหตุน้ำท่วมใต้ กำชับเยียวยากลุ่มเปราะบาง
วันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวง พม. ดำเนินการขับเคลื่อนศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ
พยากรณ์ 15 วันล่วงหน้า ช่วงปีใหม่อากาศแปรปรวน หนาวปนฝน
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า