“TCEB” อัดฉีดไมซ์ครึ่งปีหลัง 4 บิ๊กโปรเจ็กต์ “หนุนมาตรการคลังลดภาษี” ห้างร้าน นิติบุคคล 1-1.5 เท่า วันนี้-31 ธ.ค.กระตุ้นจัดประชุม สัมมนา แสดงสินค้า ในประเทศ จ่อแจกเงินเพิ่ม “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เริ่ม 1 ต.ค.65 พร้อมลุยขาย “7 Theme MICE” ควบ “ไมซ์ พรีเมี่ยม” ระดมกว่า 1,000 ชุมชน สร้างสรรค์สินค้าท้องถิ่นรุกตลาดไมซ์ไทยและต่างชาติ กระจายเม็ดเงินถึงมือรากหญ้าทั่วไทย
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บเดินหน้าทำช่วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์รวม 4 โปรเจ็กต์ใหญ่ แบ่งเป็นตลาดในประเทศ โครงการแรก “สนับสนุนมาตรการลดหย่อนภาษี” โดยนำค่าใช้จ่าย ประชุม สัมมนา จัดแสดงสินค้า ออกร้าน จัดนิทรรศการ มายื่นใช้สิทธิ ตามที่ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมเป็นอินเซ็นทีฟให้บริษัท ห้างร้าน องค์กร ที่จัดงานตามเกณฑ์ที่กำหนด ระหว่าง 15 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2565 แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภทแรก จัดงานประชุม สัมมนา ในประเทศ สามารถนำรายการจ่ายจริงมาใช้หักภาษีได้ 1-1.5 เท่า ของทั้งค่าห้องจัดสัมมนา ห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวหลักและรอง คาดนิติบุคคลจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตลอดโครงการประมาณ 1,670 ล้านบาท จัดงานในประเทศ ทั้งแสดงสินค้า งานออกร้าน จัดนิทรรศการ โดยมีหนังสือรับรองการจัดงาน ซึ่งคาดจะมีผู้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเงิน 605 ล้านบาท จัดงานรวมประมาณ 6,050 บูธ
โครงการที่ 2 ทีเส็บเตรียมเปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ทีเส็บเตรียมแผนจะเปิดให้ผู้ประกอบการประเภท องค์กร สมาคม มูลนิธิ ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่พร้อมจัดงานประชุม สัมมนา ในประเทศ ทีเส็บจะสนับสนุนเงินจัดงานเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ขณะนี้กำลังรอรัฐบาลอนุมัติงบดังกล่าว หากได้เงินมาก็จะทำโครงการนี้ทันทีเพื่อกระตุ้นกระจายการจัดประชุมทั่วประเทศได้ประมาณ 1,000 กรุ๊ป คาดจะเกิดการเคลื่อนไหวของคนที่จะเข้าร่วมประชุมได้มากถึง 30,000-50,000 คน
โครงการที่ 2 ทีเส็บเตรียมเปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” ทีเส็บเตรียมแผนจะเปิดให้ผู้ประกอบการประเภท องค์กร สมาคม มูลนิธิ ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่พร้อมจัดงานประชุม สัมมนา ในประเทศ ทีเส็บจะสนับสนุนเงินจัดงานเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ขณะนี้กำลังรอรัฐบาลอนุมัติงบดังกล่าว หากได้เงินมาก็จะทำโครงการนี้ทันทีเพื่อกระตุ้นกระจายการจัดประชุมทั่วประเทศได้ประมาณ 1,000 กรุ๊ป คาดจะเกิดการเคลื่อนไหวของคนที่จะเข้าร่วมประชุมได้มากถึง 30,000-50,000 คน
นางศุภวรรณ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ทีเส็บวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนเพิ่มอีก 2 โครงการที่สามารถใช้ได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่
โครงการที่ 3 เปิดเส้นทางขาย “7 Theme MICE” ต่อยอดนโยบายรัฐบาลเรื่องการกระจายรายได้ไมซ์สู่ชุมชน โดยจัดทำเป็น “เส้นทางไมซ์ -MICE Routing” คู่ขนานกันระหว่าง 10 เมืองไมซ์ (MICE CITY) กับ “ไมซ์ ชุมชน” (MICE COMMUNITY) วางกลยุทธ์เชื่อมโยงดึงนักเดินทางไมซ์ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเมื่อเสร็จสิ้นการเข้าร่วมงานแต่ละงานในพื้นที่ 10 เมืองไมซ์ ก็จะแนะนำให้เดินทางไปใช้จ่ายเงินต่อเนื่องในจังหวัดใกล้เคียง เช่น จากเชียงใหม่ ไปลำพูน ลำปาง
ปัจจุบันทีเส็บได้ประกาศ ไมซ์ ซิตี้ไว้ 10 เมือง ได้แก่ “ภาคเหนือ” 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก “ภาคกลาง” 1 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ “ภาคใต้” 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานีรวมสมุย ภูเก็ต สงขลา “ภาคอีสาน” 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด คือ พัทยา ชลบุรี
ส่วน “เส้นทางไมซ์ หรือ MICE Routing” ตั้งเป้ากระจายคนเข้าไปใช้เงินตามชุมชนรอบพื้นที่และจังหวัดเชื่อมโยง สร้างจุดขายเป็นให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้บริการส่วนใหญ่คือกลุ่มองค์กรสมัยใหม่ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายของทีเส็บที่จะรุกเจาะให้ใช้จ่ายเงินตรงเข้าชุมชนเพิ่มมากขึ้น 7 ธีมหลัก ประกอบด้วย
ธีมที่ 1 ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม นำเสนอให้ผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการค้นหาวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของพื้นที่นั้น ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
ธีมที่ 2 การผจญภัย (Adventure) ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบทำกิจกรรมท้าทาย ผ่านกิจกรรมรุปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถต่อยอดไปถึงเรื่องการทำการสร้างทีมเวิร์กต่อไป
ธีมที่ 3 การสร้างทีมเวิร์ก หรือ Team Building ได้ออกแบบให้มีแตกต่างจากท่องเที่ยวทั่วไป โดยจัดให้มีเรื่องการทำกิจกรรมโดยตรงกับ พนักงาน กิจกรรม สัมพันธ์ต่าง ๆ มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกันทำงานเป็นทีมด้วยกัน
ธีมที่ 4 CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์สไตล์ Green Meeting นำเสนอกระตุ้นให้องค์กรต่าง ๆ หันมาทำความดีตอบสนองความรับผิดชอบต่อสังคม แตกต่างจากเดิมจะเน้นโครงการทั่ว ๆ ไปอย่างการปลูกป่า ปัจจุบันได้ดีไซน์ให้จะมีกิจกรรมทางเลือกมากขึ้น เช่น การสร้างห้องสมุดโรงเรียน กิจกรรมชุมชน การนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำอาหารเลี้ยงสัตว์ เช่น ช้าง
รวมทั้งได้กระตุ้นการทำกิจกรรมเทรนด์ใหม่ เช่น “ภาคเหนือ” จังหวัดเชียงใหม่มีปางช้างหลายแห่ง แต่ระยะหลังชาวต่างชาติต่อต้านการทรมานช้างจนต้องปิดกิจการ ทีเส็บจึงหันมาชวนผู้เข้าร่วมงานไมซ์ชุมชนหรือไมซ์ซิตี้เปลี่ยนมาช่วยกันทำกิจกรรม “เลี้ยงดูช้าง” พัฒนาเป็น Rehabitation Center หรือศูนย์บำบัดเลี้ยงช้าง แทนการขี่ช้าง เชิญชวนผู้เข้าร่วมไมซ์เข้าไปทำกิจกรรมศึกษษเรียนรู้วิถีชีวิตช้าง อาบน้ำช้าง ทำอาหารให้ช้าง หลายพื้นที่ให้ช้าง วาดรูป หรือระบายสีโลโก้องค์กรจัดประชุมนั้น ๆ กลายเป็นความน่ารักเชิงบวกอีกมุม หรือ “ภาคใต้” ก็ร่วมปล่อยเต่าลงสู่ทะเล ปลูกหญ้าทะเล ซึ่งเป็นประโยชน์กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ธีมที่ 5 กิจกรรมบรรยากาศชายหาด การจัดประชุมต้อนรับบนชายหาด บนเกาะ ริมทะเล ตามรีสอร์ตธรรมชาติ ซึ่งมี ไมซ์ ซิตี้ กระจายอยู่หลายพื้นที่ ทั้งภาคใต้ และภาคตะวันออก
ธีมที่ 6 การจัดงานและกิจกรรมความหรูหรามีระดับ หรือ luxury ขณะนี้มีองค์กรหลายแห่งต้องการเลือกทำสิ่งใหม่แบบหรูหราในหลากหลายจังหวัดสามารถทำกิจกรรมได้พิเศษมากกว่าพื้นที่ทั่วไป
ธีมที่ 7 กิจกรรมนำเสนออาหารไทย ธีมนี้ทีเส็บให้ความสำคัญมากเป็นหนึ่งในพลัง Soft Power Thailand โดยสอดแซกเข้าไปในทุกการจัดงานอันหลากหลาย แนะนำให้เลือกใช้วัตถุดิบภายในท้องถิ่นเข้ามาปรุงเมนูต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ทำอาหารไทยอย่างลึกซึ้งสร้างทรงจำอันประทับใจไปตลอด
ทีเส็บได้เปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ประโยชน์จัดกิจกรรม 7 Theme MICE ได้ที่เว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com จะมีรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการจัดไมซ์แต่ละธีม
โครงการที่ 4 “MICE Premium-เส้นทางสร้างสรรค์ใหม่ บนเส้นทางสายไมซ์” ระดชุมชนต่าง ๆ จัดการจัดท่องเที่ยวรวมกว่า 1,000 เส้นทาง ด้วยการนำอัตลักษณ์ชุมชนแต่ละจังหวัด มานำเสนอให้สมาคม องค์กรต่าง ๆ ไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตพร้อมกับใช้จ่ายเงินซื้อผลิตภัณฑ์มาต่อยอดขายได้ เช่น เทศกาลปีใหม่ แต่ละบริษัทใช้สินค้าจำนวนมากสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ไมซ์พรีเมี่ยมรวบรวมไว้บนแพลตฟอร์ม thaimiceconnect.com มีทั้งหัตถกรรม อาหาร ข้าวออร์แกนิก สปาต่าง ๆ ช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้ด้วย ในปี 2565 ทีเส็บนำร่องทำเส้นทางไมซ์ชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์มีชื่อเสียงเรื่องข้าวอินทรีย์ และมีดินภูเขาไฟนำมาทำผ้ามัดย้อม ปลูกผลไม้เศรษฐกิจอย่างทุเรียนภูเขาไฟ ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งไมซ์ พรีเมี่ยม
ปี 2566 ทีเส็บวางแผนต่อยอดขายไมซ์ พรีเมี่ยมตามชุมชนทั่วประเทศ รุกเจาะก่อนในพื้นที่ 10 จังหวัดไมซ์ ซิตี้ โดยได้เข้าไปบ่มเพาะ พัฒนาผู้ประกอบการในชุมชนเรียบร้อยแล้ว เช่น พัทยา ได้รับความนิยม 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านชากแง้ว เปิดตลาดคนเดินวันเสาร์-อาทิตย์ โดดเด่นเด่นด้านวัฒนธรรมจีน และชุมชนตะเคียนเตี้ย มีสวนมะพร้าวหลายร้อยไร่ ได้นำองค์กรจำนวนมากเลือกเข้าไปจัดกิจกรรมนำรายได้ลงสู่ท้องถิ่นโดยตรงได้อย่างแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทิดพระเกียรติ 2 กษัตริย์ ขัตติยมหาราช
ตุลาคมเดือนที่ปวงชนชาวไทยสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งถึง 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่เสด็จสวรรคตในวันที่ 23 ตุลาคม
ครั้งแรกในไทย 'SUMMER SONIC BANGKOK' ศิลปินไทย-อินเตอร์ปังทั้ง 2 วัน!
ระเบิดความสนุกกันแบบจัดเต็มทั้ง 2 วันแบบเต็มอิ่มไปเรียบร้อยแล้ว! สำหรับ “SUMMER SONIC BANGKOK” เฟสติวัลระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยครั้งแรก
ไฮไลต์ 3 วัน เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง 2024
เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง Phetchaburi Harmony Puppet Festival 2024 กลับมาอีกครั้ง ภายใต้การออกแบบเฟสติวัลที่เชื่อมโยง คำว่า “หนัง” ที่สื่อถึงตัวหนังที่แกะขึ้นเป็นภาพ ภาพบนตัวหนังที่เคลื่อนไหวใช้ชักเชิด ต่อมาวิวัฒนาการเป็นภาพยนตร์ มีการชมหนัง ปีนี้
ต่อยอด’บางกอกอาร์ต เบียนนาเล่’สู่ BAB Academy
ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022” (Bangkok Art Biennale 2022) ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2565 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ร่วมกับ
'ทีเส็บ' ชวนลุ้นโค้งสุดท้ายภูเก็ตชิงเจ้าภาพ Expo 2028
ทีเส็บ ชวนคนไทย ลุ้นโค้งสุดท้ายชิงเจ้าภาพ Expo 2028 วันที่ 21 มิ.ย. นี้ ทีมงานเตรียมลุยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายที่ปารีส แย้มตอนนี้ สถานะของไทย มีแนวโน้มดี