สุริยะ นำร่องสร้างเครือข่ายผู้ผลิตสินค้าชุมชนสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น เริ่มที่ภาคใต้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ต่อยอด “DIPROM นำร่องการสร้างเครือข่ายผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนด้านอาหารและสมุนไพร นำสู่การยกระดับรายได้ชุมชน โดยมอบให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมและวิสาหกิจชุมชน โดยเริ่มนำร่องที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลา เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพี่น้องประชาชนและนำภูมิปัญญาของดีของชุมชนนำมาเสนอขายเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชน

นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่าจากดำริของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ต่อยอดสินค้าชุมชนเราได้ทำโครงการนำร่องเพื่อเฟ้นหาของดีของแต่ละชุมชนมานำเสนอและจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความสนใจเกี่ยวกับสินค้าชุมชนที่จะซื้อฝากญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลหรือนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางไปชุมชนนั้นนั้นแล้ว และรู้สึกประทับใจในสินค้าแต่ไม่สามารถติดต่อซื้อขายได้ ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน จะนำพาให้ผู้ผลิตสินค้าจากชุมชนได้ซื้อขายกับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อจะทำให้มีรายได้กลับคืนสู่ชุมชนได้โดยตรง การจัดงานครั้งนี้เรามีการสัมมนาและสอนเทคนิคต่างๆของการนำเสนอสินค้าชุมชน และได้รับเกียรติจากจากลูกศิษย์ที่เคยเข้ามาเรียนรู้กับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 จังหวัดสงขลา และผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆมาให้ความรู้ตัวอย่างเช่น บริษัท พีเค คอสเมติก แอนด์ ดีเวลสอปเม้นท์ จำกัดเป็นผู้รับผลิตและสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรเพื่อนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามได้และยังมีกลุ่มผู้ผลิตเครื่องแกงสมใจนึก ผลิตเครื่องแกงใต้ที่มีรสชาติคงเดิมจากสูตรที่ได้คิดค้นมาอย่างดีและสามารถยืดอายุของเครื่องแกงโดยไม่ใช้สารกันบูดและมีคุณภาพสูง

และที่ผู้เข้าอบรมให้ความสนใจกับการสนับสนุนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องการออกแบบบรรจุภัณฑ์และฉลากสินค้าให้กับชุมชนและยังมีนวัตกรรมต่างๆเพื่อการยืดอายุของผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีระยะเวลายาวนานขึ้นและง่ายต่อการจัดส่งให้กับผู้บริโภคได้ทั่วประเทศ และยังมีทุนสำรองให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจชุมชนไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดหาเครื่องจักรเครื่องมือหรือการจัดหาวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าป้อนสู่ตลาดต่อไป และเหตุผลที่นำร่องโดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 จังหวัดสงขลาซึ่งดูแลพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานีและนราธิวาสโดยในพื้นที่จะมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ชุมชนและเป็นพื้นที่พิเศษในการผลิตสินค้าที่เป็นอาหารที่จะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานอื่นร่วมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมพร้อมที่จะเป็น One-stop Service ในการให้บริการช่วยเหลือในการจดทะเบียนจดแจ้งและประสานการกับหน่วยงานอื่นๆให้โดยผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางหรือไปติดต่อเอง เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและขั้นตอน

นายวัชรุน กล่าวว่าการจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสามารถกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในชุมชนของพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลาได้ตื่นตัว ได้เห็นว่ามีหน่วยงานของภาครัฐที่จะพร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้นและยังมีองค์ความรู้ที่จะมอบให้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกต่อไปเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน และคิดว่าจะได้ขยายโครงการนี้ออกไปในทุกส่วนทุกภูมิภาคของประเทศต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมโรงงานฯลั่นจัดการ ‘โรงงานเถื่อน’ สุดซอยไม่กลัวผู้มีอิทธิพล

อธิบดีกรมโรงงานฯ ย้ำ เดินตามนโยบายรัฐมนตรีเอกนัฏ ตรวจสุดซอย ไม่กลัวผู้มีอิทธิพล โรงงานหรือผู้เกี่ยวข้อง รู้เห็น ร่วมทำความผิด เจอคดีถึงที่สุดทันที

โบว์แดง 'รทสช.' ผสานกำลัง 2 กระทรวงปลดล็อก 'โซลาร์รูฟท็อป'

ไทยเดินหน้าพลังงานสะอาด “หิมาลัย” เผย “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” ผสานกำลังปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” สำเร็จ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงพรรค

จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา

"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก

พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่

'ก๊วนธรรมนัส' เปิดตัวเข้าคอก 'กล้าธรรม' ลั่นทำการเมืองสร้างสรรค์ ไล่พรรคร่วมฯค้านบ่อยๆก็ออกไป

พรรคกล้าธรรม นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และสส.จำนวน 20 คนที่ถูกพรรคพลังประชารัฐขับออก