บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ (ซ้าย) อยู่ใกล้กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ (บน)
หากใครเคยไปเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวบ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ หมู่ 14 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเห็นว่านับจากปากทางเข้าหมู่บ้าน (แยกจากทางหลวงหมายเลข 3218 ห่างจากทะเลหัวหินราว 10 กิโลเมตร) ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ ร่มรื่นด้วยแมกไม้ สระว่ายน้ำ และหมู่บ้านใหญ่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวา ราคาไม่ต่ำกว่าหลังละ 4-5 ล้านบาท ซึ่งมีแต่คนมีฐานะและชาวต่างชาติเข้าอยู่อาศัย
ใครจะไปคิดว่า...ที่นี่ก็มี ‘บ้านของคนจน’ บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ ตั้งอยู่อย่างสง่าผ่าเผย แม้หลังไม่ใหญ่โต แต่ก็ดูสวยงาม น่าอยู่อาศัย
“ถ้าไม่มีสหกรณ์ พวกเราก็ไม่มีบ้าน”
‘พี่แพรว’ สุรภา นิลเพ็ชร ประธานสหกรณ์บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ จำกัด เอ่ยประโยคข้างต้นขึ้นมา...จริงดั่งเธอว่า เพราะนอกจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะมีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวชุมชนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของตัวเองแล้ว กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็มีบทบาทที่สำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะสหกรณ์จังหวัด เพราะเป็นหน่วยงานในท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน
เพราะเมื่อชาวบ้าน คนธรรมดาๆ อยากจะมีบ้านสักหลัง หากไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปขอกู้เงินจากธนาคารที่ไหนเพื่อซื้อหรือสร้างบ้าน
พี่แพรว ประธานสหกรณ์บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ ฯ
ดังนั้นเมื่อชาวบ้านมีปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยจึงรวมกลุ่มกันจัดทำโครงการ ‘บ้านมั่นคง’ ที่ พอช.สนับสนุน นับตั้งแต่กระบวนการรวมกลุ่มแก้ไขปัญหา การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินหรือสร้างบ้าน การบริหารจัดการโครงการ ฯลฯ
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านจะต้องร่วมกันจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อระดมคน ระดมทุน และจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เพื่อให้มีสถานะเป็นนิติบุคคล เพื่อทำนิติกรรมต่างๆ และบริหารโครงการ เช่น การเสนอแผนงานและงบประมาณ เพื่อขอใช้สินเชื่อจาก พอช. การซื้อที่ดินและก่อสร้างบ้าน ฯลฯ
กรณีชาวบ้านริมทางรถไฟในเขตเทศบาลเมืองหัวหินที่มีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย พวกเขาได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 เพื่อออมเงินอย่างน้อยครอบครัวละ 300 บาท และเตรียมพร้อมที่จะจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถาน
โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ให้การสนับสนุน ส่งเสริม ให้ความรู้ตั้งแต่ความเข้าใจเรื่องสหกรณ์ อุดมการณ์ วิธีการ ระเบียบ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก การจัดทำบัญชี การจัดประชุม ฯลฯ ใช้เวลาเกือบ 1 ปี จนชาวบ้านสามารถจัดตั้ง ‘สหกรณ์บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟ จำกัด’ ได้ในเดือนธันวาคม 2562 และใช้สหกรณ์นี้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการโครงการ จนสามารถก่อสร้างบ้านมั่นคงได้แล้วเสร็จทั้ง 70 หลัง
บ้านมั่นคงราคาประมาณ 240,000-300,000 บาท ผ่อนเดือนละ 2,600-3,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 15 ปี
อย่างไรก็ตาม นอกจากสหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะมีบทบาทดังกล่าวแล้ว ยังมีหน่วยงานในท้องถิ่นที่ร่วมสนับสนุนชาวบ้าน โดยมีกลไกที่สำคัญ คือ ‘คณะกรรมการเมือง’ ซึ่งประกอบด้วย อบต.หินเหล็กไฟ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) การประปา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานที่ดินจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบล สหกรณ์บ้านมั่นคงหินเหล็กไฟฯ พอช. และสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ที่ช่วยขับเคลื่อน สนับสนุนให้คนจนเมืองหัวหินได้มีบ้านเป็นของตัวเอง
พลังของคนจน
ในช่วงต้นปี 2563 โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก หัวหินกลายเป็นเมืองปิด ชายหาดเงียบสนิท ส่งผลกระทบกับชาวหินเหล็กไฟที่เตรียมจะขึ้นโครงการบ้านมั่นคงเช่นกัน เพราะหลายครอบครัวต่างตกงาน โดยเฉพาะคนที่มีอาชีพนวดแผนโบราณ
บาหยัน บุญมา รองประธานสหกรณ์ฯ บอกว่า ช่วงโควิดลำบากกันมาก จึงคิดหาอาชีพเสริมมาทำ พอดีมีคนรู้จักอยู่ที่ประจวบฯ เลี้ยงปลานิลในบ่อ จึงลงหุ้นกัน ไปซื้อปลามาขาย เอามาทำปลานิลแดดเดียว และขายเป็นปลาสด ขนาด 3 ตัวโลฯ ราคาโลฯ ละ 30 บาท ได้ปลาแล้วก็เอามาช่วยกันทำ ครั้งหนึ่งประมาณ 10 คน ขายทางออนไลน์และขายให้ชาวบ้านกันเอง ได้กำไรครั้งละ 2,000 บาทก็เอามาแบ่งกันเป็นค่าแรง เหลือก็เอามาทำกับข้าวกิน ช่วยประหยัดเงินได้เยอะ
ซื้อปลามาขายช่วงโควิด
“ทำได้ประมาณ 2 เดือน ปลาเริ่มเหลือน้อย อีกทั้งเจ้าของจะขายแบบเหมายกบ่อ ต้องใช้เงินเยอะ พวกเราไม่มีทุน จึงเลิกทำ ตอนนี้บ้านเสร็จแล้ว จึงมีแผนจะทำให้สหกรณ์เข้มแข็ง มีรายได้ โดยจะทำตู้น้ำดื่ม เพราะชาวบ้านต้องซื้อน้ำกินทุกวัน และจะทำร้านค้าสหกรณ์ คือมีข้าวของจำเป็นต่างๆ ขาย เช่น ข้าวสาร น้ำมัน น้ำปลา นม ไข่ แต่เราจะไม่ซื้อของมาสต็อก ใครอยากจะได้อะไรก็ให้มาลงชื่อ สหกรณ์จะสั่งซื้อมาขาย จะได้ไม่ต้องลงทุนสต็อกของ กำไรก็จะเข้าสหกรณ์ สิ้นปีมีกำไรก็จะนำมาปันผลให้สมาชิก” บาหยันบอกถึงแผนงานต่อไป
นอกจากนี้ชาวชุมชนหินเหล็กไฟยังเตรียมความพร้อมในการอยู่อาศัยร่วมกันทั้ง 70 ครอบครัว ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 300 คน เช่น มีกฎกติกาของชุมชน ช่วยกันดูแลความสะอาด ความปลอดภัย ฯลฯ มีระบบกลุ่มย่อยเพื่อบริหารจัดการชุมชน โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มย่อย เพื่อจะได้ช่วยเหลือดูแลกันได้ทั่วถึง และมีตัวแทนแต่ละกลุ่มเข้าไปเป็นกรรมการเพื่อบริหารสหกรณ์
นี่คือตัวอย่างพลังของคนจน จากชาวชุมชนริมทางรถไฟที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็นผู้บุกรุก ทำให้เมืองเกิดชุมชนแออัด เกิดแหล่งเสื่อมโทรม...วันนี้พวกเขาช่วยกันสร้างบ้านแปลงเมือง โดยมีหน่วยงานภาคีช่วยหนุนเสริม ทำให้พวกเขามีที่อยู่อาศัยใหม่ที่มั่นคง แม้จะไม่ใหญ่โต่โอ่อ่า แต่พวกเขาก็ภาคภูมิใจ !!
เรื่อง : สำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’
'รฐนน-สุธีพัทธ์'พร้อมลุย 'แบล็ค เมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ' ที่หัวหินชิง2ล้านเหรียญฯ
รฐนน วรรณศรีจันทร์ และ สุธีพัทธ์ ประทีปเทียนชัย สองโปรชั้นนำของเอเชียนทัวร์ พร้อมลุยศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ 2024 หวังให้โปรไทยมีชื่อติดลีดเดอร์บอร์ดที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดฉากดวลรอบแรกในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมนี้
รวมพลังคนจนแก้ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ วันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2567
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
‘21 ปีบ้านมั่นคง’ พอช. แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนทั่วประเทศ กว่า 3 แสนครัวเรือน
รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยแก่คนจนในเมืองที่ ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด
บ้านเดียวได้เงินหมื่น 9 คน รวมเกือบแสน เผยซื้อข้าวสารหอมมะลิเป็นสิ่งแรก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น หลังพบว่ามีผู้ที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทผ่านสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ครอบครัวเดียวเกือบ 100,000 บาท ตามสิทธิ์ที่ได้รับ
พีคตอนจบ! ลุงดีใจได้เงินหมื่น แวะก๊งเหล้าขาวเมาแอ๋ ตื่นมาหาเงินไม่เจอ โร่ขอตร.ช่วยเหลือ
ลุงชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ดีใจได้เงินหมื่นแวะก๊งเหล้าขาวเมาแอ๋จำอะไรไม่ได้ ตื่นมาอีกทีหาเงินที่เหลือไม่เจอ โร่แจ้ง ตร.โพสต์ช่วยประชาสัมพันธ์ใครพบเห็นให้นำส่งคืน