MEA เร่งถอดหม้อแปลงไฟฟ้าล็อตไฟไหม้สำเพ็ง นำตรวจสอบสร้างความเชื่อมั่นประชาชน

จากความคืบหน้าล่าสุด กรณีเหตุเพลิงไหม้ย่านสำเพ็ง นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง ได้สั่งระงับการใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้าในรุ่นเดียวกันกับหม้อแปลงไฟฟ้าจากเหตุการณ์สำเพ็ง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ MEA ทั้งหมดจำนวน 4 ลูก ก่อนนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมตอบสนองนโยบายการดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดของกระทรวงมหาดไทย โดยในวันนี้ (5 กรกฎาคม 2565) เจ้าหน้าที่ MEA ลงพื้นที่ถอดหม้อแปลงไฟฟ้าวงจรตาข่าย (Network Transformer) ในรุ่นเดียวกับที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนกรุงเกษม จำนวน 2 ลูก ก่อนนำไปตรวจสอบที่การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ และมีแผนที่จะถอดหม้อแปลงที่เหลืออีก 2 ลูก ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 กรกฎาคม 2565

นอกจากนี้ MEA ได้ดำเนินมาตรการตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าในกลุ่มหม้อแปลงวงจรตาข่าย (Network Transformer) อีกจำนวน 450 ลูก ในพื้นที่เมืองชั้นใน เกาะรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร โดยเป็นการดำเนินงานเพิ่มเติมจากภารกิจบำรุงรักษาตามมาตรฐานวิศวกรรมที่ MEA ทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยใช้วิธี Dissolved Gas Analysis (DGA) หรือ การวิเคราะห์ก๊าซที่ละลายในน้ำมัน เพื่อตรวจหาความผิดปกติของหม้อแปลงไฟฟ้า เสมือนการตรวจเลือดของมนุษย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพ โดยจะสามารถตรวจวัดค่าความชื้น ค่าก๊าซไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ เอทิลีน อีเทน มีเทน และอะเซทิลีน เป็นต้น ซึ่งหากพบความผิดปกติ ก็จะทำให้สามารถวิเคราะห์หาสาเหตุได้อย่างแม่นยำ และสามารถซ่อมบำรุง หรือการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าลูกนั้น ๆ ได้ในทันที มีกำหนดการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ให้แล้วเสร็จภายในเดือน สิงหาคม 2565

ขณะเดียวกัน MEA จะดำเนินการตรวจสอบด้วยรูปแบบ Standard Check กับหม้อแปลงไฟฟ้าของ MEA ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 67,000 ลูก ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยเริ่มต้นระยะที่ 1 จากการตรวจสอบควบคู่กับการทดสอบ DGA และพื้นที่ติดตั้งหม้อแปลงใกล้แหล่งชุมชน รวมจำนวนประมาณ 18,000 ลูก มีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ทำเพิ่มเติมจากการตรวจประจำปี โดยการตรวจสอบด้วยกล้องวัดอุณหภูมิ Thermo Scan เพื่อหาค่าความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นผิดปกติ ตรวจสอบการทำงานของระบบป้องกันในหม้อแปลงไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบค่ากระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า จุดเชื่อมต่ออุปกรณ์ และระบบสายดิน  เพื่อประเมินประสิทธิภาพการจ่ายไฟฟ้าของหม้อแปลงไฟฟ้าแต่ละลูก และประเมินความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน ตลอดจนการเพิ่มนวัตกรรมระบบควบคุมและติดตามการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า (Online Transformer Control & Monitoring System) มาใช้เสริมความปลอดภัยจากการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 การไฟฟ้า ชูแนวคิด Green Energy & Reliability ในงานประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ครั้งที่ 53

วันนี้ (2 กรกฎาคม 2567) MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า 3 การไฟฟ้า ครั้งที่ 53 ภายใต้แนวคิด Green Energy & Reliability โดยมี นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะประธาน นายณัฐวุฒิ ผลประเสริฐ

กรุงเทพมหานคร ชวนเที่ยวงาน “ Showcase สินค้าสร้างสรรค์กรุงเทพมหานคร โครงการพัฒนาสินค้าและบริการMade in Bangkok ”

สำนักงานการส่งเสริมอาชีพ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร จัดงาน “ Showcase สินค้าสร้างสรรค์กรุงเทพมหานคร โครงการพัฒนาสินค้าและบริการ Made in Bangkok ”

MEA เชิญชวนชมไฟประดับ ราชดำเนินทัศนา ประชาสุขใจ สว่างไสวด้วยไฟประดับเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เชิญชวนชมไฟประดับ ราชดำเนินทัศนา ประชาสุขใจ สว่างไสวด้วยไฟประดับเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

MEA โชว์ศักยภาพรัฐวิสาหกิจไทย คว้า 3 รางวัลใหญ่ในงาน AREA 2024

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นายสมบัติ จันทร์กระจ่าง รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นผู้แทนองค์กรเข้ารับรางวัลชนะเลิศ ในเวที Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2024

ประเมินเข้ม! คณะกรรมการ MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 7 เข้าตรวจประเมินอาคารประหยัดพลังงานระดับพรีเมียม

วันนี้ (11 มิถุนายน 2567) นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโครงการ MEA ENERGY AWARDS พร้อมด้วยคณะฯ ลงพื้นที่พบผู้บริหารอาคาร

รองผู้ว่าฯกทม.โอด ระบบราชการทับซ้อน พวก 'ช้างในห้อง' กัดกินความหวังและบ้านเมือง

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร(กทม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาดังนี้