ต่างภาษา ต่างสัญชาติ รับสิทธิประกันสังคม ทั่วถึง เท่าเทียม

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผย พนักงานลูกจ้างแรงงานต่างด้าวไม่ว่าจะสัญชาติ ลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่มีเอกสารการทำงานถูกต้อง เข้าระบบการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน  หากประสบเหตุจากการทำงาน สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพสามารถรับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมอย่างทั่วถึง ครอบคลุม

แรงงานต่างด้าวสัญชาติ ลาว กัมพูชา และเมียนมา หากจะได้สวัสดิการและความคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมนั้น จะต้องเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องผ่านการพิสูจน์สัญชาติ และมีเอกสารใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และ หนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสาร แสดงตัวแทนหนังสือเดินทาง เช่น บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ต้องแจ้งขึ้นทะเบียน การเป็นลูกจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 และเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างได้รับหลักฐานเอกสารครบถ้วน สำหรับอัตราการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม กำหนดให้ผู้ประกันตนต้องนำส่งเงินสมทบในอัตราร้อยละ 5 จากค่าจ้างรายเดือน ซึ่งค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบของผู้ประกันตน กำหนดเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท เมื่อลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 และได้นำส่งเงินสมทบจะได้รับความคุ้มครองใน 7 กรณี ได้แก่ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน

ทั้งนี้ กรณีลูกจ้างต่างด้าวประสบเหตุบาดเจ็บจากการทำงาน จนสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพ ก็สามารถได้รับสิทธิเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ณ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ได้เช่นเดียวกับแรงงานไทย ซึ่งก็จะให้การฟื้นฟูให้สามารถกลับไปช่วยเหลือตนเองได้ในมาตรฐานเดียวกัน

สอดคล้องกับคำบอกเล่าของ นาย Vin Vat อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชา ผู้เข้ารับการฟื้นฟูที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานปทุมธานี ได้ให้ข้อมูลว่า ประสบอุบัติเหตุจากจากการโดนเหล็กแม่พิมพ์ปั๊มจนกระดูกข้อมือแตกละเอียดขณะทำงาน ต้องทำการรักษาโดยการตัดมือ ส่งผลให้สูญเสียอวัยวะสำคัญ แต่ด้วยเป็นผู้ประกันตนประกันสังคม จึงสามารถรับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน ทั้งในเรื่องของเงินทดแทนค่าสูญเสียอวัยวะ และเข้ารับการฟื้นฟู พร้อมทั้งได้รับมือเทียมทดแทนอวัยวะที่สูญเสียไป ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจแล้ว ยังมีหน่วยงานกลางที่ช่วยประสานงานกับนายจ้าง เพื่อให้สามารถกลับเข้าทำงานกับนายจ้างเดิมได้ หลังเข้ารับการฟื้นฟู ส่งผลให้ไม่ต้องรู้สึกเคว้งคว้าง หรือถูกทอดทิ้ง ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนไทย ทำให้เห็นคุณค่าของสิทธิประกันสังคมอย่างยิ่ง เพราะเป็นหลักประกันที่ช่วยให้มีทางออกในการใช้ชีวิต สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่เป็นภาระของครอบครัว

และทั้งหมดนี้คือสิทธิประโยชน์ ที่ลูกจ้างจะได้รับเมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน

หากมีข้อสงสัยสามารถตรสจสอบ หรือติดตามข่าวสารสำนักงานประกันสังคมผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ได้ที่

Website : www.sso.go.th

Facebook: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

Instagram: sso_1506

Twitter: @sso1506

YouTube : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน

Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

LINE : @SSOTHAI

TikTok : @SSONEWS1506

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี ! ผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็นหนึ่งพันบาทต่อบุตรหนึ่งคน มีผลบังคับใช้มกราคม 68

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่าตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมศึกษาการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้กับผู้ประกันตน ด้วยสาเหตุจากประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง

ประกันสังคม ดูแลผู้ประกันตนทุกช่วงวัย โชว์ความสำเร็จการดำเนินงาน ปี 67

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้เปิดการแถลงข่าว ผลการดำเนินงานสำนักงานประกันสังคม ประจำปี 2567

'นักเศรษฐศาสตร์' เตือน ประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กำลังจะ 'ฆ่า' ระบบสาธารณสุข

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กำลังจะ “ฆ่า” ระบบสาธารณสุขไทย มีเนื้อหาดังนี้

ประกันสังคม เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนเปลี่ยน รพ. ปี 68 ผ่าน 4 ช่องทาง เริ่ม 16 ธ.ค.67 นี้

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม แจ้งให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี 2568 ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ผ่าน 4 ช่องทาง คือ 1.

'พิพัฒน์' มอบ เลขา 'อารี' วางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง พร้อมยกระดับการให้บริการ เพิ่มความสะดวกแก่ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนในเขตพื้นที่ทั้ง 10 อำเภอ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567

'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน