เช้าวันนี้ (27 พฤษภาคม 2565) ที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. นายสิน สื่อสวน ที่ปรึกษา พอช. และผู้แทนเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมแถลงข่าวผลการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริต โดยมีสื่อมวลชนหลากสำนักเข้าร่วมทำข่าว
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ พอช.เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักกิจกรรมการปฏิรูปที่ 1 หรือ Big rock การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการต่อต้านการทุจริต ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายองค์กรชุมชน เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี 2564 มีหลักคิดสำคัญคือให้ภาคประชาชนเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการสร้างสังคมสุจริต โดยการคิด ออกแบบและดำเนินการโดยเครือข่ายภาคประชาชนจากล่างขึ้นสู่บน (Bottom up)
เน้นภารกิจสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วย การสร้างสำนึกพลเมือง การสร้างระบบพื้นที่เปิดเผยโปร่งใส การสร้างธรรมาภิบาลชุมชน และการปฎิบัติการต้านทุจริต ดำเนินการในระดับจังหวัด 17 จังหวัด และระดับตำบล 171 ตำบลในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวในหมู่ประชาชน เกิดคณะทำงานทำงานขับเคลื่อนของภาคประชาชนและมีแผนปฏิบัติการในระดับพื้นที่ทุกพื้นที่ มีการเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายระดับประเทศ มีการประสานความร่วมมือกับภาคีและหน่วยงานในระดับพื้นที่
ทำให้เกิดระบบการป้องกันและเฝ้าระวัง อาทิ การสร้างธรรมนูญชุมชนด้านการสร้างชุมชนสุจริต การสร้างช่องทางการแจ้งข้อมูลและเบาะแสของเครือข่ายภาคประชาชน การสร้างข้อตกลงกับหน่วยงานในการเปิดเผยข้อมูล การรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการเข้าตรวจสอบการดำเนินการโครงการต่างๆ
ถือเป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เครือข่ายภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทหลักในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศ และมีการวางแผนที่จะขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยในแผน 5 ปีจะขยายผลพื้นที่ระดับตำบลให้ได้ใน 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,500 ตำบลทั่วประเทศ
สำหรับกิจกรรม (Big rock) ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริต มี 5 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการต่อต้านการทุจริต 2.การพัฒนาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ 3.การพัฒนากระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็ว ฃโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีทุจริตทั้งภาครัฐและภาคเอกชน 4.การพัฒนาระบบราชการไทยให้โปร่งใส ไร้ผลประโยชน์ และ 5.การพัฒนามาตรการสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบายในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เครือข่ายพัฒนาที่อยู่อาศัย 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ผนึกพลังทุกภาคส่วนสร้างบ้านเพื่อทุกคน เสนอรัฐหนุนเสริมบ้านโดยชุมชน ปลดล๊อกสิทธิที่ดินและระบบการเงิน สู่ความยั่งยืนมั่นคง
กทม. : วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนจาก 17 ประเทศในระดับเอเชียและนานาประเทศ ร่วมเสนอแนวทางการการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ
ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน เปิดวงแลกเปลี่ยนบทเรียนการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชนในระดับเอเชียและนานาประเทศ
วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2567 ภาคีขับเคลื่อนและพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน หน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่น ภาคธุรกิจเอกชน ประชาสังคม นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ
วราวุธ รมว.พม. เยี่ยมบ้านมั่นคงเมืองย่าโม ย้ำนอกจากมีบ้านแล้วต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกครัวเรือน
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบ้านมั่นคง
พอช. ร่วมเครือข่าย Kick Off ประชุมสัมมนาระหว่างประเทศ การพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นหลัก (Collective Housing Conference) “คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มุ่งแก้ปัญหาควายากจน สร้างคน-ชุมชนเข็มแข็ง”
ศูนย์ประชุมแห่งสหประชาชาติ / วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.)
กระทรวง พม. เปิดปฏิบัติการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”
กรุงเทพฯ/29 มิถุนายน 2567 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”
การประชุมสัมมนาระหว่างประเทศการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นหลัก (Collective Housing Conference) : “คำตอบคือชาวชุมชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แก้ไขปัญหาควายากจน สร้างคนและชุมชนที่เข้มแข็ง กุญแจสู่ความยั่งยืน”
จากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ทำให้เมืองขยายตัว เกิดชุมชนแออัด ชุมชนผู้มีรายได้น้อย