พลิกโฉมสร้างความปลอดภัยทางถนนยุควิถีใหม่

ประเทศไทยเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของความปลอดภัยทางถนน ยังคงเป้าหมายลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ครึ่งหนึ่ง ขณะที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติกำหนดเป้าหมายลดอัตราการตายจากอุบัติเหตุทางถนนลง 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 และไม่เกิน 12 คนต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2570 ตามยุทธศาสตร์ชาติ แนวทางการทำงานและเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ไทยพิชิตหมุดหมายนี้ได้

จากวงสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 15  “ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน “ วันที่ 25-26 พ.ค.2565  ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา กรุงเทพฯ  จัดโดยศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.)  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมสัมมนา เวทีตลอดสองวันนำเสนอแนวทาง มาตรการ การบังคับใช้กฎหมาย และการจัดการความปลอดภัยท่ามกลางความเสี่ยงวิถีใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้ครบทุกมิติ และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  

 

ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต กล่าวว่า  เรื่องความปลอดภัยทางถนนในระดับสากล ขณะนี้มีการขับเคลื่อน 6 จุดเน้นพลิกโฉมการสร้างความปลอดภัยในยุควิถีใหม่  ประกอบด้วยงานและเศรษฐกิจ เช่น อาชีพใหม่อย่างไรเดอร์ที่เติบโตในธุรกิจเดลิเวอรี่,การจัดภูมิทัศน์การเรียนรู้ที่ดี ,ดิจิทัลเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ,การคุ้มครองทางสังคม ทั้งระบบสวัสดิการและความคุ้มครองแรงงาน.การสร้างเสริมสุขภาพระดับปฐมภูมิ/ท้องถิ่น  และการพัฒนาออกแบบเมือง พื้นที่พิเศษ พื้นที่ชายแดน

จุดเหมาะสมสำหรับการลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนน ดร.เดชรัตน์ หยิบยกรายการการศึกษาธนาคารโลก พบไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอยู่ในเกณฑ์สูง ไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง มีคนตายจากอุบัติเหตุสูง ส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาว ถ้าไม่ตาย โอกาสสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจมีมาก ทำให้ไทยเป็นประเทศที่เหมาะกับการลงทุนด้านนี้  มีรายงานถ้าลงทุนสร้างถนนใหม่ เพิ่มอัตราการตายจากถนน แต่ถ้าลงทุนระบบมอเตอร์เวย์ ไม่มีทางร่วม ทางแยก อัตราตายลดลง ลงทุนบำรุงรักษาถนนลดอัตราการตายได้  ส่วนงานวิจัยของ มศว. ศึกษาต้นทุนประสิทธิผลของนโยบายความปลอดภัยทางถนนของไทย พบการเพิ่มงบประมาณมีส่วนสำคัญกับผลสัมฤทธิ์เชิงนโยบายเพิ่มขึ้น และลดอัตราตายทางถนน  ไทยต้องพัฒนาเรื่องจัดสรรงบประมาณ  ส่วนตำรวจเสนอให้พัฒนาระบบฐานข้อมูลวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุนจุดเสี่ยงต่างๆ นำไปสู่การแก้ไข มีผลศึกษาการลงทุนในระบบขนส่งมวลชนช่วยลดอุบัติเหตุและอัตราตายได้ชัดเจน  การจราจรคล่องตัว

“ เสนอการลงทุนแบบเน้นผลกระทบในการสร้างความปลอดภัยทางถนน เพิ่มป้องกันมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุขึ้น ส่วนที่เหลือแบ่งมาลงทุน มีตัวอย่างการลงทุนรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในกัมพูชา ตั้งเป้า 60% จากเดิม 20% ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น ไทยสามารถมีแนวทางการลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนในรูปแบบใหม่ๆ ได้ ปัจจุบันการกำหนดเป้าหมายลดตายรายจังหวัดถ้าพ่วงกับการลงทุนจะสอดคล้องกับระดับจังหวัด จากนั้นชวนภาคีสร้างเสริมสุขภาพทั้ง 6 ด้าน มาร่วมพลิกโฉม ทั้งธุรกิจสอนขับรถ นักวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัล  ระบบกล้องCCTV การมีส่วนร่วมกลไก ศปถ.ระดับตำบล “ ดร.เดชรัตน์ กล่าว

ร่างแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2565-2570 เป็นอีกเครื่องมือลดสูญเสีย  ดร.สุเมธ องกิตติกุล สถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)  กล่าวว่า ร่างแผนแม่บทฯ ฉบับที่ 5  มีจุดเน้นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ วัยรุ่นและเยาวชนที่เสียชีวิตสูงสุด การจัดการความเร็ว และการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องทุก 6 เดือน   ซึ่งต้องสามารถดำเนินการได้จริง มีกลไกการทำงานในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัด  กำหนดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนเพื่อลดจุดอ่อน  เป้าหมายของแผนฯ มียุทธศาสตร์ลดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสาหัสระดับประเทศและจังหวัด พัฒนาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเดินทางที่ยั่งยืนในยุควิถีใหม่ มีหน่วยงานภาคีช่วยติดตามข้อมูลสถิติความเสี่ยง ทุกภาคส่วนร่วมดำเนินการสู่การสัญจรทางถนนที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน มีการปรับปรุงกฎหมายและจัดสรรงบประมาณอย่างสร้างสรรค์   

เวทีนำเสนอโมเดลรูปธรรมระดับพื้นที่  นพ.ธีรวุฒิ โกมุทบุตร แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด กล่าวว่า   ไทยมีจักรยานยนต์กว่า 21 ล้านคัน แต่อัตราสวมหมวกนิรภัยเพียง 42% ทั้งประเทศเสียชีวิตปีละ 1.3 หมื่นคน กลางวันตายน้อย กลางคืนตายมาก ถ้าสวมหมวกลดตายได้ 2 ใน 3 เป็นแนวทางป้องกันที่คุ้มค่าต่อการลงทุน  มีตัวอย่างติดตั้งกล้อง CCTV  อัจฉริยะ ตรวจไม่ใส่หมวกนิรภัยใน จ.เชียงใหม่ ภายใน 1 เดือน ใส่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ทุกจุด  ก่อนจับปรับสร้างการรับรู้ไม่ใส่หมวก ใบสั่งปรับถึงบ้าน

“ ปัจจุบัน 5 อำเภอที่อัตราตายสูงในเชียงใหม่สวมหมวกเกิน 80%   ลดตายลงครึ่งหนึ่ง กล้องฉลาดสามารถประหยัดชีวิตคนไทยกว่า 6,000 คน ทุกปี  ลดตาย 3 ปี ได้ 20,000 คน ใช้เงิน 300 ล้านบาท ถึงเวลาที่ไทยประกาศนโยบายลดตายครึ่งทั่วไทย   เป็นการใช้เทคโนโลยีแทนการตั้งด่าน  “ นพ.ธีรวุฒิ ย้ำไทยทำได้ 

การขับเคลื่อนขับขี่ปลอดภัยยังมีต้นแบบที่ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด   นายสันติ ธรณี นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ  แชร์ประสบการณ์ว่า  อำเภอเสลภูมิเป็นอำเภอใหญ่ มีโรงพยาบาล และโรงเรียนมาก  เริ่มงานลดอุบัติเหตุทางถนนตั้งแต่ปี 2558  แม้ตัวเลขผู้บาดเจ็บและสถิติอุบัติเหตุลดลง แต่ยังตายเป็นอันดับ 2 ของจังหวัด จากพัฒนาถนนเพิ่มขึ้น ตายจากจักรยานยนต์ 89%  ดึงทุกภาคร่วมกลไกแก้ปัญหา  มีการปรับพฤติกรรมส่งเสริมสวมหมวกด้วยทักษะเชิงบวก (BBS) กับกลุ่มเยาวชนและประชาชน เน้น 6 พื้นที่อุบัติเหตุสูง     จัดตั้งจุดตรวจ”ด่านชุมชน” BBS เน้นสื่อสารความห่วงใย ตักเตือนให้ใส่หมวก ชี้ผลกระทบ และสัญญาขับขี่ครั้งต่อไปใส่หมวก ลดอุบัติเหตุ ส่วนผู้ขับขี่ใส่หมวกสร้างเป็นแนวร่วม เมื่อประเมินพบพฤติกรรมสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นตามลำดับหลังดำเนินงานมา1ปี สเสลภูมิจะขยายผลสู่โรงเรียนมัธยม 6 แห่ง ปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัยให้วัยรุ่น 

“ เวทีระดับชาติครั้งนี้เสนอให้ขยายพื้นที่ BBS แต่งตั้งคณะทำงาน วิทยากร BBS ระดับ ศปถ.อำเภอ ส่งเสริมแนวคิดในพื้นที่ ศปถ.อปท. สร้างเจ้าภาพร่วม เช่น สถานศึกษา สถานประกอบการ วัด การประเมินผล คืนข้อมูลพฤติกรรมความปลอดภัย ด่านครอบครัว ด่านชุมชน  หรือปรับใช้หอกระจายข่าว สร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สร้างแกนนำต้นแบบในพื้นที่ “ นายสันติ เสนอแนะทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

MRT Healthy Station เดินทางสู่เฟซ 3 สสส. สานพลัง BMN ต่อยอดพื้นที่สาธารณะสื่อสารสุขภาพ เนรมิตอุโมงค์บางซื่อ ให้กลายเป็น Walk Stadium เดินฟาสต์ให้ร่างฟิต

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูล์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มุ่งสร้างนวัตกรรมสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)

“สมศักดิ์” เห็นชอบตั้ง “ชาญเชาวน์” อดีตปลัดยุติธรรม จับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องปราบบุหรี่ไฟฟ้า กวดขัน “ห้ามพกพา-สูบ” ในสถานที่ราชการ สนามบิน

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 1

สุขให้เป็น..ก็เป็นสุข จิตวิทยาเชิงบวก ห่างไกล...ซึมเศร้า

ในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง “สุขเป็น:จิตวิทยาเชิงบวกในชุมชนโดยกลไกชุมชน” ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต เด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

สสส. ห่วง "เด็กและเยาวชน" ติดกับดักความสุข เปรียบเทียบภาพความสำเร็จกับคนอื่น

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า สสส. สนับสนุนภาคีเครือข่าย สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้หลายรูปแบบ โดยร่วมกับ Eyedropper Fill กลุ่มนักออกแบบที่เคยร่วมงานจากนิทรรศการ “Homecoming

ระดมความคิด"ถก"กม.โลกร้อน ชี้ทุกประเทศต้องร่วมมือพิทักษ์โลก

การสัมมนารับฟังความคิดเห็นต่อการจัดทำกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบนฐานสิทธิมนุษยชน ณ ห้อง 201 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ความเครียด..ภัยเงียบของสังคมไทย! ห้ามไม่ได้..แต่รู้เท่าทันอยู่ให้เป็นได้

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีการประชุม Forum สุขภาพคนไทย 2567 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ