ปรับปรุงมาตรฐาน’ฝุ่นพิษ’ ขับเคลื่อนอากาศสะอาด

ปัญหาฝุ่นและมลพิษอากาศวาระสำคัญของประเทศไทย

ประเด็นปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ  PM2.5 และมลพิษอากาศเป็นวาระสำคัญของประเทศไทย  ในการทวงอากาศสะอาดคืนมาต้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมวางแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา  ซึ่งขบวนการทางกฎหมายตั้งแต่การผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด ไปจนถึงบังคับใช้กฎหมายเพื่อกำกับดูแลและสร้างแรงจูงใจให้ภาคส่วนต่างๆ กระตือรือร้นลดฝุ่นพิษทำลายสุขภาพมีความสำคัญ

การปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ให้ดีขึ้นและไม่ตกขบวนมาตรฐานสากล เท่าทันกับปัญหาที่รุนแรง เป็นอีกมาตรการเพื่อลดมลพิษอากาศ ซึ่งที่ผ่านมามีการร่วมมือระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยกร่างดังกล่าวเพื่อรับมือกับปัญหาฝุ่น

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กล่าวว่า มลพิษทางอากาศฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามากว่า 10 ปี ทำให้ ครม. มีนโยบายให้การแก้ไขปัญหามลภาวะฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ปี 2562-2567 มีมาตรการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งต้องมีการกำหนดค่ามาตรฐานเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง และค่ามาตรฐานเฉลี่ยรายปี ให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์การอนามัยโลก (WHO) ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจึงถือเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดมาตรฐานฝุ่น PM 2.5 และร่วมกันพัฒนาแผนงานหรือกลยุทธ์ที่จะดำเนินการให้ชัดเจน เพื่อรองรับการกำหนดค่ามาตรฐานที่ปรับปรุงใหม่ มุ่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ

วิกฤตฝุ่นคุกคามชีวิตคนไทย นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ สสส.  กล่าวว่า สสส. ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ได้ยกระดับการดำเนินงานปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ด้าน “การลดผลกระทบสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อม” เป็น 1 ใน 7 ทิศทาง และเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 10 ปี (2565-2574) มลพิษทางอากาศ ถือเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันและแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ที่ผ่านมา สสส. จัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศวอ.) สนับสนุนงานวิชาการขับเคลื่อนแก้ปัญหามลพิษอากาศ ขยายเครือข่ายภาคประชาสังคมสนับสนุนการดำเนินงานสภาลมหายใจภาคเหนือ แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แบบองค์รวม รวมถึงผลักดันปทุมวันโมเดลลดฝุ่นเขตเมือง เนื่องจากฝุ่นเพิ่มความเสี่ยงโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)

นายชาติวุฒิ วังวล

“ ประเทศไทยใช้มาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา สอดคล้องกับค่าเป้าหมายระหว่างทางระดับที่ 2 (Interim Target-2; IT-2) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งปัจจุบัน WHO ได้ประกาศปรับเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศใหม่ที่เข้มข้นขึ้นในรอบ 16 ปี แม้ยังไม่มีประเทศใดประกาศใช้ค่ามาตรฐาน PM 2.5 เท่าเกณฑ์ใหม่ของ WHO ก็ตาม  แต่การปรับเกณฑ์ของประเทศไทยให้อยู่ในระดับ Interim Target-3; IT- 3 ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้ต้องเร่งแก้มลพิษอากาศจริงจัง และบังคับใช้ในเร็ววัน เพื่อให้จำนวนวันที่อากาศสะอาดของคนไทยมีเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ทางสุขภาพ ” นายชาติวุฒิ กล่าว

ภาครัฐมีบทบาทสำคัญดับฝุ่น นายพันศักดิ์ ถิรมงคล ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษมีหน้าที่เสนอแนะกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม การปรับแก้ไขมาตรฐานคุณภาพอากาศสิ่งแวดล้อมจะนำไปสู่การปรับปรุง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพื่อป้องกันผลกระทบสุขภาพจากการได้รับฝุ่นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จากเกณฑ์แนะนำใหม่ของ WHO โดยปรับปรุงค่ามาตรฐานราย 24 ชม. จากเดิมไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.  ส่วนค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ปี จากเดิมไม่เกิน 25 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. เป็นไม่เกิน 15 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.  (สอดคล้องกับระดับ Interim Target-3; IT- 3 ของ WHO) เมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เห็นชอบ คาดว่าจะประกาศใช้ให้ทันภายในเดือน ก.ย. 2565

ความคืบหน้าล่าสุดในการผลักดันร่างมาตรฐานฝุ่นพิษ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 ได้มีมติเห็นชอบร่างมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศทั่วไป ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตามที่กรมควบคุมมลพิษเสนอเป็นที่เรียบร้อย  พร้อมมีมติให้บังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศ จากรถยนต์ใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 พร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่  1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จัก “เชื้อดื้อยา” จากผลงานประกวดภาพวาดการ์ตูนคอมมิค

การสื่อสารในประเด็น “เชื้อดื้อยา”เพื่อให้คนส่วนใหญ่ รับรู้ เข้าใจ ถึงผลกระทบ และร่วมกันป้องกัน เป็นเรื่องที่องค์กรที่ทำงานด้านนี้ได้พยายามทำมาอย่างต่อเนื่อง

โฟกัสเชียงใหม่ต้นแบบความสำเร็จ งดขายเหล้าเทศกาลพร้อมเป็นตาสับปะรด

เชียงใหม่ต้นแบบความสำเร็จ ทุกเทศกาลประกาศงดขายงดดื่มเหล้า ทราบล่วงหน้า 15 วัน ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือ ภาคประชาสังคมพร้อมใจเป็นตาสับปะรดร้องเรียน

'สมศักดิ์' ดึง สสส. ช่วย 'นับคาร์บ' ชวนคนไทยลดโรค NCDs ต้นเหตุคร่าชีวิตคนไทยชั่วโมงละ 45 คน ผจก.สสส.เดินหน้าพัฒนาฐานข้อมูลเชื่อมท้องถิ่นลดเสี่ยง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 กล่าวในการเป็นประธานประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2567 ว่า จากข้อมูลพบว่ามีผู้เสียชีวิตจาก NCDs 400,000 คนต่อปี คิดเป็นชั่วโมงละ 45 คน

‘สมัชชาสุขภาพ ครั้งที่ 17’ ปิดฉากชื่นมื่น บรรลุ 2 นโยบายฯ สร้างเศรษฐกิจยุคใหม่

สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ปิดฉากลงอย่างชื่นมื่น สมาชิกกว่า 3,000 ชีวิต ให้การรับรอง 2 ระเบียบวาระ “พลิกโฉมกำลังคนเพื่อสังคมสุขภาวะ - การท่องเที่ยวแนวใหม่ สู่สุขภาวะและเศรษฐกิจ

'คนอยู่กับป่า' นัดรวมตัวใหญ่ รับครม.สัญจร ยื่นนายกฯ ค้าน พ.ร.ฎ.ของกรมอุทยานฯ

เครือข่ายสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า(สชป.) ได้นัดรวมตัวกันประมาณ 3,000- 5,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายชาติพันธุ์ เช่น ม้ง กะเหรี่ยง

จับตาปลดล็อก..ควบคุมเหล้าเบียร์ กฎหมายใหม่เปิดช่องขายได้ทั่วถึง

รายงานองค์การอนามัยโลก (WHO) ปี 2567 ชี้ว่าแนวโน้มการบริโภคแอลกอฮอล์/หัวประชากร และผลกระทบต่อสุขภาพมีความซับซ้อนและแตกต่างกันตามภูมิภาคต่างๆ ที่น่ากังวลคือ ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีแนวโน้มจะมีการดื่มที่สูงขึ้น