เลขาธิการ กฟก. ย้ำเกษตรกรหากมีปัญหาเรื่องหนี้สิน และต้องการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ให้ติดต่อ กฟก.โดยตรง

นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบกลางปี 2565 จำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อดูแลช่วยเหลือเกษตรกรด้านหนี้สิน การฟื้นฟูพัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง และบริหารสำนักงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากสมาชิกและประชาชนโดยทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยงบประมาณจำนวนนี้ มีแผนการดำเนินงานรองรับไว้แล้ว รวมทั้งมีกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 กันยายน 2565 นี้

สำหรับเกษตรกรที่มีความประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือทั้งด้านฟื้นฟูอาชีพ และการจัดการหนี้ตาม พ.ร.บ. กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จะต้องดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์การจัดตั้งองค์กร คำว่า เกษตรกร หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก รวมตัวกัน 50 คนขึ้นไป ขอจัดตั้งกลุ่มกับสำนักงานสาขาจังหวัดที่เป็นภูมิลำเนา เมื่อเป็นสมาชิกสังกัดองค์กรแล้ว สามารถขอรับการช่วยเหลือได้ 2 ด้าน ด้านการฟื้นฟูอาชีพและพัฒนาเกษตรกร และด้านการจัดการหนี้ของเกษตรกร เกษตรกรที่มีสิทธิยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้ต้องมีคุณสมบัติ เป็นเกษตรกร เป็นหนี้อันเนื่องมาจากการประกอบเกษตรกรรมของเกษตรกรตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และเป็นหนี้ในระบบตามมาตรา 37/1 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้แก่ หนี้ที่เกิดขึ้นจากโครงการส่งเสริมของรัฐและประสบความล้มเหลวอันไม่ใช่เป็นความผิดของเกษตรกร หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินประเภทธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และนิติบุคคลตามที่คณะกรรมการกำหนด หนี้ที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันเกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ หนี้ดังกล่าวต้องเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่นายทะเบียนได้รับขึ้นทะเบียนหนี้ เว้นแต่กรณีหนี้ที่เกิดหลังขึ้นทะเบียนหนี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้จากสัญญาเดิมที่ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้  สำหรับงบกลางปี 2565 จำนวน 2,000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารสำนักงาน 230 ล้านบาท  การแก้ไขปัญหาหนี้ เป็นเงิน 1,500 ล้านบาท เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจำนวน 3,425 ราย การฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นเงิน 269 ล้านบาท เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 2,034 ราย 776 องค์กร ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสาขาจังหวัดทั่วประเทศเร่งประสานงานกับเกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบและยืนยันการเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน

หากเกษตรกรต้องการขอรับการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกร และทะเบียนหนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดและติดต่อที่สำนักกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดทั่วประเทศ ในวันเวลาราชการ วันจันทร์ - วันศุกร์ตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น. หรือ โทร 02 158 0342 ทั้งนี้ การติดต่อกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ไม่การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นายสไกร กล่าวปิดท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลขีดเส้น 30 วัน เร่งเยียวยาเกษตรกรใต้ 9.4 หมื่นราย

'อนุกูล' เผยรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกรชาวใต้หลังน้ำท่วม ตีกรอบสำรวจความเสียหาย 30 วัน รับเงินช่วยเหลือภายใน 10 วัน หลัง ธกส. อนุมัติ

'มิสเตอร์เกษตร' วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ

‘มิสเตอร์เกษตร’ วอน รัฐบาลแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ เร่งคลอดมาตรการช่วยเหลือ แนะกรมการค้าภายใน ประสานรง.อาหารสัตว์รับซื้อมันเส้น

ดีเดย์ กระทรวงเกษตรฯ ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้ธนาคารแล้ววันนี้

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวย้ำคุณสมบัติของเกษตรผู้มีสิทธิได้รับเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000

ชาวนาลุ้น ‘ครม.’ อนุมัติเงินช่วยไร่ละ 1,000 บาท พร้อมโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดเชียงใ

“นภินทร” ดึงจุดเด่น “ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” เนื้อแน่นนุ่ม ไม่คาว วัตถุดิบชั้นดี GI รังสรรค์ใน ”Thai Select“ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมถิ่นกำเนิดของสินค้า GI ของจังหวัดสงขลา ได้แก่ “ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าของปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา