พอช.-พมจ.-ขบวนองค์กรชุมชน จ.สุราษฎร์ธานีเร่งช่วยชาวบ้านโดนน้ำท่วม

สภาพบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา

สุราษฎร์ธานี/  พอช.-พมจ.-ขบวนองค์กรชุมชน จ.สุราษฎร์ธานี  ลงพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยน้ำท่วมในอำเภอวิภาวีเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน  และสำรวจบ้านเรือนผู้เสียหายเพื่อเตรียมการซ่อมสร้างบ้านโดยเร่งด่วน

ตามที่ได้เกิดฝนตกหนัก  น้ำป่าไหลหลาก  ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา  ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบในหลายอำเภอ ได้แก่ อำเภอวิภาวดี  อำเภอไชยา  และอำเภอท่าฉาง       มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน  บ้านเรือนบางส่วนถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย  รวมทั้งหมด 3 ตำบล  8 หมู่บ้าน  ผู้ได้รับผลกระทบ  227 ครอบครัว 

โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา  ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  หรือ พอช. หน่วยทหารและตำรวจในพื้นที่ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือและมอบสิ่งของจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านแล้ว

สภาพความเสียหาย

ล่าสุดวันนี้ (11 พฤษภาคม) ที่บ้านคลองวาย   หมู่ที่ 7  ตำบลตะกุกเหนือ  อ.วิภาวดี  จ.สุราษฎร์ธานี  นายปฏิภาณ จุมผา  รักษาการ ผอ.พอช. นายธนภณ เมืองเฉลิม ผอ.สำนักงานภาคใต้ พอช. เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ผู้แทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัด เชต 6 (นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ) และผู้แทนขบวนองค์กรชุมชน ร่วมลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบภัย  รวมทั้งมอบเครื่องครัว  ถุงยังชีพ  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า

โดยขณะนี้  สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  ระดับน้ำลดลง  แต่ยังมีร่องรอยความเสียหายเกิดขึ้นทั่วไป  เช่น  ถนนหนทางที่ชำรุดเสียหาย  เศษซากกิ่งไม้  ต้นไม้  บ้านเรือน  ข้าวของที่ถูกกระแสน้ำพัดพากระจัดกระจาย 

ทั้งนี้คณะที่ลงพื้นที่ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนชาวบ้านเพื่อวางแผนให้ความช่วยเหลือ  เช่น  สำรวจครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ  บ้านเรือนที่พังเสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วน  เพื่อสร้างบ้านใหม่หรือซ่อมแซม  โดยจะใช้งบประมาณเบื้องต้นจาก พอช. 

อย่างไรก็ตาม  บางพื้นที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจข้อมูลได้  เนื่องจากสภาพถนนชำรุดเสียหาย  บางพื้นที่มีดินจากเนินเขาสไลด์ลงมา  เบื้องต้นมีบ้านเรือนที่ต้องซ่อมสร้างประมาณ 50 หลัง   โดย พอช. และขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะสนับสนุนการซ่อมสร้างบ้านใหม่โดยเร็วต่อไป

บางพื้นที่ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

ส่วนความเสียหายเท่าที่สำรวจพบ  คือ  อำเภอวิภาวดี  ตำบลตะกุกเหนือ หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8   ได้รับผลกระทบจำนวน 5 หมู่บ้าน   บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 9 หลัง   ผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 52 ครอบครัว  รวม 208 คน

อำเภอไชยยา  ตำบลปากหมาก  หมู่ที่ 7  มีบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง 7 หลัง  เสียหายบางส่วน 8 หลัง  ผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 45 ครัวเรือน  รวม 180 คน

อำเภอท่าฉาง  ตำบลปากฉลุย  หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 มีบ้านเรือนพังเสียหาย 1 หลัง  ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน 130 ครัวเรือน  รวม 523 ราย  มีผู้สูญหาย 1 คน เนื่องจากถูกกระแสน้ำพัดพาขณะขับขี่รถจักรยานยนต์

มอบสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้านเฉพาะหน้า

ผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมส่งน้ำใจสามารถสมทบได้ที่   ธนาคารกรุงไทย  เลขที่บัญชี 6605-0396-37  ชื่อบัญชี  คณะทำงานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตฯ ประกาศเตือนพายุ 'โทราจี' ฉบับสุดท้าย

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “โทราจี” ฉบับที่ 10 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 31 จังหวัด 'เหนือ-อีสาน' อุณหภูมิสูงขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบนมีฝน/ฝนฟ้าคะนอง

ศปช. เผยน้ำท่วมขังลุ่มเจ้าพระยาใกล้ จะกลับสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รับทราบสภาพอากาศในระยะนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา

กษัตริย์สเปนประสงค์เสด็จเยือนพื้นที่น้ำท่วมอีกครั้ง คราวนี้โดยปราศจากพระราชินี

ภัยพิบัติจากพายุในสเปนซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย สร้างความไม่พอใจให้พลเมืองทั้งประเทศ สมเด็จพระราชาธิบดีเ

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 13 ไต้ฝุ่น 'หยินซิ่ง' อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง” ฉบับที่ 13 โดยมีใจความว่า