ไม่ฝืน ! “กปน.” ให้ “2เอกชน” กลับเข้าร่วมประมูลขยายโรงงานผลิตน้ำ หลังภาครัฐถูกสงสัยขยายสเป็ก ตัดสิทธิ์คู่แข่ง เอื้อเอกชนบางราย

จากกรณีปมประมูลงานก่อสร้างขยายโรงผลิตน้ำประปามหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มูลค่าราคากลาง 6,526.97 ล้านบาท ของการประปานครหลวง (กปน.) สัญญา GE-MS5/6-9 ที่มีการร้องเรียนจากบริษัทผู้ร่วมประมูล 2 บริษัท คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ซึ่งถูกตัดสิทธิ์การประมูล โดยคณะกรรมการพิจารณาของ กปน.อ้างว่า ทั้ง 2 บริษัท “ขาดคุณสมบัติ” ต่อมา เอกชน ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว โดยทั้ง 2 บริษัทยืนยันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน ขณะเดียวกัน ยังได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์แก่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน จนล่าสุด คณะกรรมการของกรมบัญชีกลาง ได้พิจารณาให้เอกชน มีคุณสมบัติครบ และให้ให้ กปน.กลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาข้อเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไป

ล่าสุด 11 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กปน. ได้ทำหนังสือถึง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC และกรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (VSK) โดยแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ที่ระบุว่า ทั้ง 2 บริษัท มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ฯ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2565 น.ส.นิชา ยอดคำ ผู้อำนวยการกองบริหารสัญญาโครงการ ฝ่ายบริหารโครงการ กปน. ทำหนังสือถึง 2 บริษัทข้างต้น ไปจนถึงบริษัทที่ยื่นเสนอราคาจ้างก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ฯ โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ยื่นเสนอราคาจ้างก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ฯ และหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (หลักประกันซอง) ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาผูกพันแล้ว

แต่เนื่องจากสัญญา GE-MS5/6-9 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเอกสารการยื่นข้อเสนอ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการเสนอราคา หากบริษัทฯประสงค์จะขยายระยะเวลาการยืนราคา ขอให้แจ้งยืนยันขยายระยะเวลาการยืนราคาออกไปจำนวน 90 วัน นับแต่วันสิ้นสุดวันยืนยันราคาสุดท้ายเดิม พร้อมทั้งแจ้งให้ธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันรับทราบการขยายระยะเวลา จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการประมูลครั้งนี้ มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 5 ราย จากเอกชนที่ซื้อซอง 9 ราย ดังนี้ 1.บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ยื่นเสนอราคา 6,150 ล้านบาท 2.บมจ.ซิโน-ไทยฯ ยื่นเสนอราคา 6,195.3 ล้านบาท 3.ITA Consortium (บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) และบริษัท อาควาไทย จำกัด) ยื่นเสนอราคา 6,490.56 ล้านบาท 4.บริษัท ช.การช่าง จำกัด ยื่นข้อเสนอราคา 6,523.8 ล้านบาท 5.กิจการร่วมค้า สี่แสงเอสจี ยื่นเสนอราคา 6,525 ล้านบาท

ต่อมา คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฯ ของ กปน. มีมติให้ ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคา โดยเสนอราคาเป็นเงิน 6,460.56 ล้านบาท โดยเป็นผู้ที่เสนอราคามาเป็นอันดับ 3 พร้อมกับให้ เอกชน 2 ราย คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด และ บมจ.ซิโน-ไทยฯ ถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมประมูล ทั้ง 2 บริษัท เป็นผู้ยื่นราคาต่ำสุดเป็นอันดับ 1-2 ตามลำดับ โดยคณะกรรมการอ้างว่า ทั้ง 2 บริษัท “ขาดคุณสมบัติ” ตามประกาศประกวดราคาข้อ 11 และเอกสารประกวดราคาจ้าง ข้อ 2.11 ที่ระบุว่า ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมีผลงานก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาไม่น้อยกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน วงเงินไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งทางคณะกรรมการ แจ้งว่า กำลังการผลิตน้ำประปาข้างต้น หมายถึงกำลังผลิตสุทธิ ต้องไม่นำตัวเลขปริมาณน้ำสูญเสียเข้ามารวมด้วย

ต่อมาวันที่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 บริษัทยืนยันว่า มีคุณสมบัติตามประกาศประกวดราคาข้อ 2.11ทางบริษัท ซิโน-ไทยฯ ซึ่งมีผลงานก่อสร้างระบบประปา โครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเทศบาลนครนครราชสีมา ตามสัญญาจ้างเลขที่ 3/2550 ร้องเรียนว่า มีการกำหนดคุณสมบัติเรื่องของกำลังการผลิตสุทธิ เข้ามาภายหลัง และมีการตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการขยายสเป็กเอื้อประโยชน์เอกชนบางราย

ขณะที่ บริษัท วงศ์สยาม มีผลงาน ก่อสร้างระบบประปามาตรฐานของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และงานจ้างเหมาก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ตามสัญญาเลขที่ กจห. 24/2556 มองว่ามีความไม่ชอบมา พากล เพราะรีบด่วนตัดสิทธิ์การประมูล ทั้งที่ไม่มีการเรียกเอกชนมาสอบถามข้อมูลให้กระจ่าง นำไปสู่การยื่นอุทธรณ์ทั้งที่ กปน. และ คณะกรรมการของกรมบัญชีกลาง ระหว่างนั้น มีการยื่นเรื่องไปที่ ปปช. เพื่อตรวสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของคณะกรรมการประมูลของ กปน. กลายเป็นข่าวที่สังคมสนใจ กระทั่งเอกชนทั้ง 2 ได้สิทธิ์การประมูลกลับมา ตามที่เป็นข่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อนุทิน” นำทีม “ภูมิใจไทย” ยื่นกฎหมาย คงไว้ซึ่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแล้ว ชี้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ลงลึกถึงพื้นที่ห่างไกล เผย คุยฝ่ายค้าน-รัฐบาลแล้ว หวังได้รับเสียงหนุน เพราะทำเพื่อประชาชน .

30 ตุลาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

“โสภณ” นำ สส.ภท. ยื่นร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ วอน รัฐ เร่งดำเนินการบรรจุร่างให้เร็วที่สุด ถือเป็นการปฏิวัติการศึกษาของชาติ ยื่นต่อ "วันนอร์" ประธานสภา

วันที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... เพื่อปฎิวัติการศึกษา ตามนโยบายพรรคภูมิใจไทย ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้มีการพิจารณาเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้

'ภูมิใจไทย' ย้ำจุดยืน 4 ข้อ ดันร่างพรบ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เตรียมผลักดันร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์

'อนุทิน' ยืนยัน สส.ภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยนิรโทษกรรมล้างผิดคดี 112

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงมติที่ประชุมพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 67

'อนุทิน' เผยเห็นต่าง ผลศึกษานิรโทษกรรมคดี 112 ไม่ใช่เรื่องขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางของพรรคในการโหวตรายงานผลการศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอกย้ำนิรโทษกรรมต้องไม่มี 'คดีโกง-มาตรา112'

'อนุทิน' ย้ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต้องไร้ ม.112 -ทุจริต เปิดช่องผิดเคลื่อนไหวการเมืองคุยกันได้ ยันพร้อมถกหากมีความชัดเจน