ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตรวจเยี่ยมเทศบาลตำบลแพรกษา เนื่องในวันเทศบาล ประจำปี 2565 ชื่นชมเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบในการจัดการศึกษาและการให้บริการสาธารณะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (24 เม.ย. 65) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลแพรกษา หมู่ที่ 6 ซอยรักษ์พันธ์ดี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเนื่องในวันเทศบาล ประจำปี 2565 โดยมี นายศุภมิตร ชิณศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ดร. ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายเมธากุล สุวรรณบุตร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแพรกษา นายมาชัย ไพศาลธนสมบัติ ปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล ประธานชุมชน และพี่น้องประชาชนชาวตำบลแพรกษา ให้การต้อนรับ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้บริหารเทศบาลตำบลแพรกษาที่เป็นตัวอย่างในการขับเคลื่อนการทำงานบริการสาธารณะและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวตำบลแพรกษาตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านนายกฯ อรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษาที่เป็นบุคคลตัวอย่างในการพัฒนาพื้นที่ปรากฏผลสำเร็จเป็นสิ่งที่ดีงามเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลและยังประโยชน์ครอบคลุมไปถึงพี่น้องประชาชนนอกเขตเทศบาลตำบลแพรกษาในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการศึกษา "โรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษา" ที่ได้รับการยกย่อง ได้รับการยอมรับ ได้รับคำชมเชยสรรเสริญว่า เป็นสถาบันการศึกษาของท้องถิ่นไทยที่ดีที่สุดในประเทศ ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวตำบลแพรกษาและชาวจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับรู้รับทราบโดยทั่วกันแล้วว่า นักเรียนของโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษาสังกัดเทศบาลตำบลแพรกษามีพัฒนาการที่เป็นเลิศทั้งในด้านความรู้ความสามารถด้านวิชาการ ด้านกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม ด้านร่างกาย อารมณ์ และที่เด่นชัดที่สำคัญที่สุด คือ นักเรียนของโรงเรียนแพรกษาวิเทศศึกษามีความกล้าแสดงออก เพราะหลักสูตรที่ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในตนเอง มีความกล้าหาญ มีจิตใจเสียสละช่วยเหลือสังคม อันหมายความว่า ประเทศชาติของเรา ครอบครัวของเรา ก็จะมีทายาทสืบทอดอุดมการณ์ในการที่จะพัฒนาบ้านเมือง พัฒนาครอบครัว และพัฒนาตนเองให้เป็นคนที่มีความสุข สังคมเราก็จะเป็นสังคมที่ดีงาม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ในด้านการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จะเห็นได้ว่า ผู้บริหารเทศบาลตำบลแพรกษา ได้เอาใจใส่ดูแลพี่น้องอย่างดีเยี่ยม ทั้งในสถานการณ์ปกติก็มีการสอดส่องดูแลช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และในยามที่พวกเราทุกคนทั่วโลกประสบภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เทศบาลตำบลแพรกษา ก็ได้ช่วยวางระบบและรณรงค์ป้องกันและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งในการฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 และการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้อย่างครอบคลุม ทั่วถึง และรวดเร็ว นอกจากนี้ ในการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรกเมื่อปลายปี 62 เทศบาลตำบลแพรกษาได้บริหารจัดการสถานที่กักตัวในชุมชน (Community Isolation : CI) อำนวยความสะดวกและบริการพี่น้องประชาชนผู้ติดเชื้อให้ได้รับการดูแลถูกสุขลักษณะ มีเครื่องอุปโภคบริโภคใช้อย่างเสมอภาคกัน แสดงถึงความรัก ความห่วงใย และความทุ่มเทของผู้บริหารในการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงในด้านการให้บริการพี่น้องประชาชน เทศบาลตำบลแพรกษา ได้นำแนวคิดการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งอาคารสถานที่ที่สวยงาม ทันสมัย และสะดวกสบาย รวมสถานที่ให้บริการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่จำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนในสังคมเมือง เช่น ธนาคาร ไปรษณีย์ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และในเวลาอันใกล้นี้ทราบว่าได้มีการวางแผนปรับพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ OTOP ของชาวแพรกษา ชาวจังหวัดสมุทรปราการ และพี่น้อง OTOP จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ อันเป็นการช่วยสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องคนไทยและเป็นการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลแพรกษาและชาวสมุทรปราการได้มีโอกาสเลือกหาสินค้าที่เป็นของคนไทยด้วยกันในราคาที่ยุติธรรม และไม่ต้องเดินทางไกล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และพี่น้องผู้ประกอบการ OTOP ที่อยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย

“สิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเราทุกคนร่วมชื่นชมยินดีและภาคภูมิใจกับเทศบาลตำบลแพรกษา คือ การน้อมนำและขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระบรมราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในเรื่องการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โดยได้ร่วมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล และรองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการออกแบบพื้นที่เพื่อทำให้ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา มีศูนย์เรียนรู้เกษตร ทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ที่จะกลายเป็นพื้นที่ที่สำคัญในการให้ลูกหลานทั้งที่เรียนในระบบโรงเรียน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลและในจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีสถานที่ศึกษาเรียนรู้ และนำไปพิจารณาประยุกต์ใช้ในพื้นที่บ้านพักอาศัยของตนเอง ซึ่งแนวพระราชดำริฯ ดังกล่าว ถือเป็นรากฐานสำคัญว่า “ชีวิตเรามั่นคงได้ เราต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้” ทั้งในเรื่องของอาหารการกิน การเพาะปลูก การทำปุ๋ยหมัก การถนอมอาหารด้วยตนเองได้ และใช้สิ่งแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ในแง่ของพลังงานแสงอาทิตย์ และอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ เทศบาลตำบลแพรกษาได้น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาปฏิบัติอย่างเข้มข้น ทั้งในเรื่องของการดูแลลูกหลานที่อยู่ในครัวเรือนให้มีโอกาสในการได้รับการดูแลสุขภาพอนามัย ให้ได้รับวัคซีนและมีภาวะโภชนาการที่เหมาะสม การให้การศึกษาอบรมทั้งในระบบและนอกระบบอย่างดีเยี่ยม และการน้อมนำโครงการพระราชทาน “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” ด้วยการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนกลับไปช่วยครอบครัวในการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ปลูกพืชผักสวนครัว ขยายผลสู่ทุกครัวเรือน อันจะเป็นประโยชน์ที่สำคัญยิ่ง ในแง่ของการที่เราจะมีผักสวนครัว สำหรับปรุงอาหาร เป็นอาหารที่ปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง และช่วยลดรายจ่ายค่าพืชผักผลไม้ในครัวเรือน เช่น มะเขือ พริก มะนาว มะกรูด คะน้า ผักบุ้ง ตะไคร้ หัวข่า สะระแหน่ อย่างน้อยวันละ 50 บาท ถ้าคิดเป็น 1 ปี 365 วัน จะประหยัดเงิน 18,250 บาท/ครัวเรือน พื้นที่เขตเทศบาลตำบลแพรกษามี 15,000 ครัวเรือน ก็จะประหยัดเงินของครัวเรือนรวมกว่า 273.750 ล้านบาท เพื่อพี่น้องประชาชนสามารถนำเงินเหล่านี้ไปใช้ในการพัฒนาลูกหลานด้านอื่น ๆ ได้ดีขึ้น และอีกประการสำคัญที่ชาวเทศบาลตำบลแพรกษาได้น้อมนำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชีวิต คือ “การส่งเสริมผ้าไทย” ด้วยการสวมใส่ผ้าไทยในทุกวัน ซึ่งเป็นการน้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาปฏิบัติและเป็นการสนองพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานฯ ด้วยทรงทุ่มเทพระสติปัญญาและพระกำลังในการส่งเสริมให้พี่น้องคนไทยได้ช่วยกันสวมใส่ผ้าไทยให้มากขึ้น อันจะส่งผลทำให้ชาวไร่ชาวนาได้มีรายได้ที่ดีเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อพวกเราช่วยกันซื้อหาผ้าไทยมาสวมใส่ เงินทองก็จะย้อนกลับไปหาคนที่ทอผ้าหรือคนที่เขียนลายผ้าบาติก คนที่ปักผ้า และยังทำให้ภูมิปัญญาความเป็นไทยในเรื่องของเครื่องนุ่งห่มที่ถือเป็นความมั่นคงด้านเครื่องนุ่งห่มของชาติไทยยังคงอยู่และได้รับการสืบสานไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานไม่มีที่สิ้นสุด

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลงานอันเป็นที่ประจักษ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า พี่น้องประชาชนชาวแพรกษาทุกคนเป็นคนมีสติปัญญาที่มีดวงตาเห็นธรรมในการเลือกคนดีมาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองเทศบาลตำบลแพรกษา สอดคล้องกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “เราไม่สามารถทำให้ทุกคนในสังคมเป็นคนดีได้ แต่เราสามารถสนับสนุนส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจ เข้ามาบริหาร เข้ามาดูแลปกครองบ้านเมืองได้” ทำให้ในวันนี้ซึ่งเป็น “วันเทศบาล” 24 เมษายน 2565 เป็นวันที่ได้รับเกียรติมายืนอยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา พื้นที่ของประชาชนที่มีความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และขอเป็นกำลังใจให้กับท่านนายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล พนักงานเทศบาล เจ้าหน้าที่ และพี่น้องชาวตำบลแพรกษาทุกคน ช่วยกันส่งเสริมให้คนดีได้เข้ามาบริหาร มาพัฒนาพื้นที่ร่วมกับทุกคน อันจะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนและต่อลูกหลานต่อไป

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้ทำพิธีเปิดห้องประชุมเทศบาลตำบลแพรกษา และเยี่ยมชมห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลแพรกษา และตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการเทศบาลตำบลแพรกษา ซึ่งเป็นศูนย์สารสนเทศที่ดูแลรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพี่น้องประชาชนชาวตำบลแพรกษา โดยมีระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย 3 ส่วน ได้แก่ 1) ระบบแผนที่เพื่อการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์เทศบาลตำบลแพรกษา ที่แสดงเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลแพรกษา 2) ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่แสดงผลแบบ Realtime ในการบริหารจัดการการจราจรและความปลอดภัยในพื้นที่ เช่น ถนน ตรอก ซอย รวมถึงในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ และ 3) ระบบปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน (SOS Call Point) รวม 10 จุด ครอบคลุมพื้นที่เขตเทศบาลตำบลแพรกษา ซึ่งทันทีที่ประชาชนกดปุ่มขอรับความช่วยเหลือกล้องวงจรปิดจะทำการบันทึกและส่งสัญญาณจุดเกิดเหตุมายังศูนย์ปฏิบัติการที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลด้วยระบบ Video Wall และสามารถสั่งการ/กระจายคำสั่งอย่างทันท่วงที นับเป็นการประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการบริหารจัดการอันเป็นต้นแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลสวัสดิภาพประชาชนให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลให้พี่น้องประชาชนให้ชีวิตได้มีความสุขอย่างยั่งยืน

กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2565
วันที่ 24 เม.ย. 2565

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มท. เลื่อนเก็บภาษีที่ดินออกไป 2 เดือน ผ่อนชำระได้ 3 งวด

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

โพลจี้ตูด แก้ปัญหา 'ปากท้อง-ค่าครองชีพ' คลองหลอดขึ้นแท่นชาวบ้านตามข่าว

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจข่าวที่ปชช.สนใจ ยาเสพติดชายแดนมาอันดับแรก ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ปชช.สนใจติดตามข่าวมากที่สุด ด้านปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพแพง เรื่องสำคัญให้รัฐบาลแก้ปัญหาหลัก

“อนุทิน” ตรวจน้ำท่วมสงขลา เร่งสำรวจความเสียหาย จ่ายค่าชดเชย

29 พฤศจิกายน 2567 ที่วัดนาทวี ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่ 2

'ปรเมศวร์' ย้ำชัดๆถึงอธิบดีกรมที่ดิน ต้องทำตามคำพิพากษาศาล ที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟ

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กว่า เรื่องที่ดินเขากระโดงนั้นศาลมีคำพิพากษาแล้วทั้ง ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองกลาง ว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินจะไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตามมาตรา 61 วรรค 1

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย